​ชีวิตที่พอเพียง : ๒๑๖๙. เที่ยวสองประเทศนอร์ดิก (๒) วันแรกใน ออสโล นครแห่งประติมากรรม


          คณะที่ไปตรวสอบอุณหภูมิที่ออสโลและเตรียมเสื้อหนาวไปเพียบ แต่เอาเข้าจริงไม่หนาวมาก ปีนี้อากาศอุ่นเร็ว และวันนี้ (๒๓ เมษายน ๒๕๕๗) แดดจ้ามาก อุณหภูมิประมาณ ๑๗ องศาเซลเซียส ทำให้คนนอร์เวย์ออกมานั่งนอนอาบแดด กันมากมาย

          ทางสถานทูตให้คนไปรับ รถ ๒ คัน นั่งรถสัก ๓๐ นาทีก็ถึงสถานทูตซึ่งอยู่กลางเมือง ซื้อไว้กว่า ๒๐ ปี เป็นตึกอายุกว่าร้อยปี ผมได้นอนห้องเดี่ยวอยู่ชั้น ๒ ติดกับบันได และติดกับห้องรับแขกและห้องรับประทานอาหาร มีห้องน้ำส่วนตัว

          ท่านทูตอ้อ (ธีรกุล นิยม) เป็นน้องชายของคุณธีรพล นิยม เป็นคนชอบงานศิลปะ และชอบของเก่า โดยเฉพาะนาฬิกา มีเต็มบ้าน เป็นนาฬิกาที่ยังใช้การได้ทั้งสิ้น ทั้งๆ ที่อายุเป็นร้อยปี ท่านตั้งเวลาให้ต่างกันเล็กน้อย เพื่อฟังเสียงนาฬิกาที่เพราะ ไปคนละแบบแตกต่างกัน

          มาถึงบ้านพัก ซึ่งก็คือสำนักงานเอกอัครราชทูตไทยประจำออสโล ท่านทูตชวนล้างหน้าล้างมือแล้วกินอาหารเช้า ซึ่งอร่อยมาก ตือข้าวต้มปลาแซลมอน แล้วท่านแนะนำให้อาบน้ำไล่ความง่วงและเพลีย แล้วนัดออกไปชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะ กลางแจ้ง The Vigeland Park ที่ใหญ่โตกว้างขวาง เป็นสวนประติมากรรมที่ออกแบบโดยศิลปินคนเดียว ใหญ่ที่สุดในโลก แล้วไปชม The Vigeland Museum ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงผลงานของ Gustav Vigeland แสดงวิธีทำงานที่มีความละเอียดแม่นยำ

          นิตยสาร n By Norwegian ฉบับเดือน April 2014, Issue 6 หน้า 129 Need to Know / Vigeland Park ให้ข้อมูลว่า มีรูปปั้นคนขนาดเท่าตัวจริง ๖๐๐ คน เป็นเด็ก 42%, คนกอดกัน 8%, ต่อสู้กัน 5%, ร้องไห้ 3%, อื่นๆ 42% รูปปั้นที่มี ชื่อเสียงที่สุดคือ The Angry Boyโดนขโมยไปในปี ค.ศ. 1997 ไปพบทิ้งไว้ในที่จอดรถ ๑๑ วันต่อมา เมื่อเอามาติดตั้งใหม่ก็เสริม โครงสร้างเหล็กเข้าไป ทำให้ขโมยที่พยายามอีกในปี 2004 เอาไปไม่ได้ เป็นรูปปั้นที่คนไปชมนิยมถ่ายรูปด้วยมากที่สุด

          โครงสร้างแรกที่เริ่มสร้างคือ เสามนุษย์ (monolith) เริ่มสร้างค.ศ. 1924 เสร็จนำไปติดตั้งวันคริสตมาส 1944 มีคนต่อตัวกัน ๑๒๑ คน เริ่มแกะ The Wheel of Lifeในปี 1934 ติดตั้งที่ด้านหลัง (ทิศตะวันตก) ปี 1940 เปิดสะพานเหล็กยาว ๑๐๐ เมตร ติดตั้งประติมากรรมรูปคนในอามรณ์ต่างๆ ๕๘ รูป The Angry Boy เป็นหนึ่งใน ๕๘ ปี 1947 สร้างน้ำพุเสร็จ มีรูปเด็ก ๖๐ คนแบกอ่างน้ำพุ ปี 1949 การก่อสร้างสวนประติมากรรมเสร็จ ใช้เวลา ๑๐ ปี ปี 2002 ติดตั้งประติมากรรมชิ้นล่าสุด ชื่อ Surprisedหลังจากเริ่มปั้นโมเดลปูนปลาสเตอร์ในปี 1942

          เที่ยงเรากลับไปกินอาหารเที่ยงที่สถานทูต ผมกินก๋วยเตี๋ยวราดหน้าถึง ๒ จาน แม่ครัวของสถานทูตทำอาหารไทย อร่อยจริงๆ กินเสร็จไปเที่ยว ๔ แห่ง แห่งแรกท่านทูตพาไปเอง เพราะท่านก็อยากดูด้วย เป็นบริเวณย่านอุตสาหกรรมในอดีต ที่เสื่อมโทรม แล้วมีการบูรณะใหม่ให้กลายเป็นย่านพักผ่อน และทำเป็นตลาด การบูรณะอาคารเก่า และพื้นที่ให้น่าอยู่และยัง อนุรักษ์ประวัติศาสตร์ไว้ เป็นความชำนาญของสถาปนิกนอร์เวย์ อ. ประภาภัทรบอกว่า มาทริปนี้ทุกคนจะชำนาญเรื่อง สถาปัตยกรรมหมด โดยเฉพาะด้านอนุรักษ์และภูมิสถาปัตย์ ผมบอกว่าผมเรียนชั้นประถมตอนไปญี่ปุ่น มาเรียนต่อที่ นอร์เวย์

          แห่งที่สองคือบริเวณท่าเรือ ชื่อ Aker Brygge ที่มีการปรับปรุงภูมิสถาปัตย์ และอนุรักษ์แบบปรับปรุงอาคารเก่า และสร้างอาคารใหม่ด้วย ได้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ คนมานั่งนอนอาบแดดกันเนืองแน่น

          แห่งที่สามคือโรงโอเปร่า ซึ่งสวยงามมาก และเป็นสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ ความเด่นอยู่ที่การใช้ไม้สร้างศิลปะที่โอฬาร เราไปพบว่ามีการแสดง บัลเล่ต์ เรื่อง Swan Lake จึงคิดอ่านไปดู แต่ตั๋วเต็ม ได้แต่โอเปร่าเรื่อง Don Giovanni ซึ่งยังพอมีตั๋วอยู่บ้าง ผมทำตัวเป็นลูกทัวร์ที่ดี เอาไงเอากัน และอยากชมภายในโรงโอเปร่าอยู่แล้ว ที่จริงเขามีบริการพาทัวร์โรงโอเปร่า แต่เรามาเย็นแล้ว ไม่ตรงเวลาทัวร์

          แห่งที่สี่คือถนนคนเดิน ชื่อ Karljohans Gate (Gate อ่านว่า กาเต้ แปลว่าถนน) สำหรับให้คนเดินช็อปปิ้ง คณะที่ไป ๘ คน เป็นผู้ชายเพียง ๒ คน คือ อ. สุรพลกับผม อ. สุรพลได้รับคำสั่งซื้อมาเป็นภาพถ่าย ๔ รายการ ส่วนสาวๆ ไม่ต้องสงสัย ได้ของถูกใจกันคนละหลายรายการ มีคนไม่เสียเงินคนเดียวคือผม คนซื้อของไม่เป็น ช็อปปิ้งไม่เป็น

          ถนน Karljohans นี้ยาวมาก ผ่านโรงแรม แกรนด์ ซึ่งเป็นที่พักของผู้มารับรางวัลโนเบล และมีหญิงสาวผิวดำเมี่ยม อวบอึ๋มนอนอล่างฉ่างอยู่หน้าโรงแรม คุณเปาจึงไปถ่ายรูปด้วย แต่คุณเปาโพสคนละท่ากับหญิงสาวนะครับ ผมเดินไปคนเดียว จนถึง National Theatre จึงเดินกลับ ได้ชมบ้านเมือง ชมวิถีชีวิตของผู้คน และได้ถ่ายรูปแทนบันทึกความจำ ผมถ่ายไม่ยั้งจนแบตหมดตั้งแต่ที่ท่าเรือ โชคดีที่เอาสมาร์ทโฟน Galaxy Note 2 สำรองไป ปรากฎว่าในอากาศใสแสงดีเช่นนี้ ถ่ายได้สวยมาก เพียงแต่ซูมได้ไม่ดีเท่านั้น

          เรากลับมากินอาหารเย็นที่สถานทูต การเดินทางคราวนี้ ที่นอร์เวย์ เรากินอาหารไทยที่สถานทูตทุกมื้อ ยกเว้นเที่ยงวันที่ ๑ พ.ค. ที่เราไปเที่ยวทางไกลเท่านั้น และทุกมื้อเป็นอาหารไทยที่ไม่ซ้ำกันเลย รวมทั้งส่วนประกอบของอาหารก็เป็นของไทยแท้ รสชาติไทยแท้ แม่ครัวบอกว่าอาหารดิบมีขายทุกอย่างที่ร้านเวียดนาม

วิจารณ์ พานิช

๒๔ เม.ย. ๕๗



ทางเข้า Vigeland Park



สะพานเหล็กที่มีรูปประติมากรรมเรียงราย



ขี่

ทูตพาสถาปนิกไปดู่ย่ายอุตสาหกรรมเก่าที่ได้รับการบูรณะ
เป็นย่านบริการโดยไม่รื้อตึก


อาคารโรงงานเก่าอายุกว่าร้อยปีบูรณะเป็นตลาด
และย่านพักผ่อน


ความงามของอาคารในย่าน Aker Brygge


หาดทรายเดียวที่เห็นในทริปนี้


ภูมิสถาปัตย์ย่าน Aker Brygge


โรงโอเปร่า


ภายในโรงโอเปร่างดงามด้วยงานไม้และกระจก


ถนนคนเดิน คาร์ลโยฮัน
ตรงอนุสาวรีย์พระเจ้าคาร์ลผู้ตั้งออสโลเป็นเมืองหลวง


ยามอากาศดี มีคนออกเดินเที่ยวและช็อปปิ้งมากมาย


มีลานหรือสวนสาธารณะเป็นระยะๆ

หมายเลขบันทึก: 569316เขียนเมื่อ 29 พฤษภาคม 2014 09:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 29 พฤษภาคม 2014 09:23 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท