nui
นาง เสาวลักษณ์ พัวพัฒนกุล

ฟุสเซ่น Fussen เมืองเล็กๆ ที่สวย สะอาด สงบ


         ได้กินเบียร์แกล้มขาหมูสมใจแล้ว ออกจากมิวนิค เดินทางไปฟุสเซ่น (Fussen) ใช้เวลา ๒ ชม ซื้อตั๋ววันบาเยิร์นทิคเก็ตแบบสองคน ๒๙ ยูโร (หนึ่งคน ๒๓ เพิ่มอีกคนเป็น ๒๙ เงินไทย ๑,๓๐๕ บาท)

         ฟุสเซ่น (Fussen)อายุ ๗๐๐ ปี อยู่บนพื้นที่สูงที่สุดในรัฐบาเยิร์น สูง ๘๐๘ เมตร เป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางไปปราสาท นอยชวานชไตน์ (Neuschwanstein)

สถานีรถไฟเล็กๆ น่ารัก เหมาะกับเมือง เดินไปทางวงเวียนกลางเมืองนี้เพื่อไปโรงแรม+++

เราตัดสินใจมาพักที่นี่ช้า เพราะสามารถเดินทางจากมิวนิคขึ้นชมปราสาทได้โดยไม่ต้องค้าง ทำให้ได้โรงแรมราคาแพงจิ๊ดด...จนมื่อสั่น  แต่ก็คุ้มเพราะมีระเบียงให้นั่งชมเมืองอันงดงาม+++

เดินจากหน้าโรงแรมไปตามถนนคนเดินชื่อ Reichenst Strasse สองข้างถนนเป็นร้านค้า โรงแรม อาคารเก่าสีสดใส สุดถนนเป็นจัตุรัสมีรูปปั้นของนักบุญเซนต์มัง (St.Mang) เจอเด็กๆ กลุ่มใหญ่มาทัศนศึกษาอีกแล้ว!!

เดินต่อไปจนถึงที่ว่าการเมือง (Rathaus) เลี้ยวขวาเจอโบสถ์เซนต์มัง (St. Mang Monastry) สไตล์บาร็อค เป็นโบสถ์ใหญ่และสำคัญที่สุดของเมือง อดีตเคยเป็นสำนักสงฆ์นิกายเบเนดิค+++

ประตูเข้าโบสถ์หนาหนัก มีลายเซ็น?? ที่ต้องเป็นคนสำคัญ?? ถ้าไม่ตั้งใจผลักแรงๆ จะคิดว่าโบสถ์ปิด+++

พอเข้าไปก็ได้เห็นความงดงามภายใน+++

   

สุดทางเดินในโบสถ์ ที่เห็นไม้กางเขนเป็นบันไดลงไปอีกห้อง น่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงสมบัติอายุมากกว่าพันปี (ตามที่อ่านมา) ไม่กล้าแม้แต่จะลองไปผลักประตูเปิด เพราะในโบสถ์มีแค่เราสองคน ลุงบอกลองลงไปดูกัน บอกลุงว่า บรื๋อ..ไม่ดีกว่าค่ะ+++

เปิดประตูออกจากโบสถ์ เจอปราสาทโฮส (Hohes Schloss) ตรงหน้า+++

เราเดินไต่ทางเดินลาดขึ้นเขาอย่างสบายๆ ข้างล่างซ้ายมือคือแม่น้ำ Lech  ขวามือคือตัวปราสาท+++


ปราสาทโฮส (Hohes Schloss) เคยเป็นที่พักฤดูร้อนของเชื้อพระวงศ์ชั้นสูงและพระ ตั้งบนยอดเขากลางเมืองสร้างปี คศ. ๑๕๐๐ สไตล์โกธิค ภายในมีภาพวาดและงานศิลปะโกธิคตอนปลาย และมีศิลปะสไตล์เรเนซองท์ให้ชม+++

ได้แต่เดินชมภายนอกปราสาท เข้าใจว่าปราสาทปิด เพราะไม่เห็นใครเลย ?? สวยทุกองศา เพราะฟ้า่ใส

ขาลง มองเห็นโบสถ์เซนต์ มัง งดงามอย่างนี้+++

เดินลงเขาไปทางแม่น้ำ  ข้ามสะพานไปอีกฟาก+++

วันนี้แม่น้ำ Lech สีออกขาว ผิดจากภาพในหนังสือที่เป็นสีฟ้า ยืนชมความงามของเมืองจากบนสะพาน ตึกทรงสวยตรงหน้าเราไม่รู้จัก ได้แต่ซูมกล้องไปเก็บภาพ+++ 


อีกฝั่งของสะพานก็งามไม่แพ้กันด้วยทิวเขาแต่งแต้มด้วยหิมะ +++  

ข้ามสะพานไปยืนฝั่งตรงข้ามเห็นโบสถ์เซนต์มังที่เราเพิ่งเข้าไปชม ใหญ่โตและสวยงามโดดเด่นอยู่ริมแม่น้ำ เป็นสัญลักษณ์ของเมือง+++ 

เรานั่งเล่นตรงนี้ เมืองเล็กๆ ผู้คนใจดี เขาผ่านมาเสนอตัวถ่ายรูปคู่ให้เรา เราก็ไม่ปฏิเสธ+++

เมฆฝนเข้าคลุมทั่วเมือง ตราบใดฝนไม่ตกลงมาเราก็จะไม่หยุดเดิน พ้นมุมตึกไปอีกฟากของเมือง ได้เห็นภาพแสงสว่างลอดเมฆสีดำลงมาเป็นภาพงาม เราชวนกันเดินตรงไป+++

ผ่านหน้าพิพิธภัณฑ์  เดินผ่านเข้าไปเห็นอาคารสวยงามอย่างนี้  (ยอดสามเหลี่ยมแทรกด้านหลังนั่นคือโบสถ์เซนต์ มัง)+++

เข้าไปในซอย เจอสุสานของเมือง ยื่นกล้องไปถ่ายภาพงามๆ ขออนุญาตแล้วว่าเรามิได้มารบกวนทุกท่านที่พำนักอย่างสงบ ณ ที่นี้+++

วันอาทิตย์ร้านปิด ได้แต่เดินชมทุกซอกซอย  ทุกร้านรวง 

เจอป้ายขายบ้านหลังนี้ราคา ๒๓๔,๐๐๐ ยูโร ลุงควักมือมือมาคิดเป็นเงินไทยได้ ๑๐.๕ ล้าน ถาม จะมาซื้อหรือไง ตอบ “เปล่า คิดเล่นๆ” +++

เดินไปหยุดที่ภาพนี้ คิดถึงในหลวง คิดถึงเหตุการณ์บ้านเมือง  และเศร้ามาก....

หนังสือท่องเที่ยวบอกว่า เมืองเล็ก เดิน ๑-๒ ชั่วโมงก็ทั่ว แต่เราเดินราว ๓-๔ ชั่วโมงจนเริ่มหิว+++

วางแผนกินขาหมู(อีกแล้ว)เป็นอาหารเย็นที่ร้านมีชื่อเสียงของฟุสเซ่นชื่อ Gasthof Krone เขียนป้ายแปะที่ประตู อ่านไม่ออกหรอก ลุงบัญชาว่าลองผลักแรงๆ สิ  "ร้านปิดจ๊ะลุง"  ถ่ายรูปไว้ก่อนคราวหน้ามาใหม่

ขากลับเจอหนุ่มน้อยชาวไทยราวสิบคน สดชื่นแจ่มใสกันมาก ลากกระเป๋าคนละใบ “สวัสดีครับป้า” ยกมือไหว้เรา ได้ความว่าวิ่งหาของกินก่อนเดินทางกลับมิวนิคค่ำนี้  ชอบจริงๆ เด็กซนแบบนี้+++

ไปนั่งกินอาหารจีนที่ร้านใต้ถุนโรงแรม...อิ่มแปร้แล้ว +++

ขึ้นไปนั่งระเบียงห้อง มองบ้านเรือนและถนนอันเงียบเชียบงดงามด้วยแสงไฟยามค่ำคืน...

จนง่วงเต็มทีคลานขึ้นเตียงนอนให้คุ้มราคา ๑๐๐ ยูโร...ฮ่า...ฮ่า...

พรุ่งนี้จะไปชมปราสาทเทพนิยายของกษัตริย์หนุ่มหล่อผู้อาภัพแต่เช้า

ฟุสเซ่น (Fussen) เมืองเล็กๆ ที่ “สวย สะอาด สงบ ” เหมาะสำหรับมานอนสักสองคืน 

ขึ้นไปชมปราสาทนอยชวานชไตน์ (Neuschwanstein) เดินเล่นบนเขาหนึ่งวัน 

อีกวันเดินเล่นในเมือง 

มาวันเดียวไม่พอจริงๆ.

....๑๗ พฤษภาคม ๒๕๕๗...

คำสำคัญ (Tags): #fussen
หมายเลขบันทึก: 568365เขียนเมื่อ 17 พฤษภาคม 2014 22:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 พฤษภาคม 2014 22:30 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (15)

สวยงามมากจริง ๆ เลยครับพี่nui ครับ

..

ยินดี กับพี่ท้องสองด้วยครับ 

งามลงตัว  ภาพบางภาพเหมื่อนภาพวาดเลยนะครับ

ขอบคุณครับ

...เป็นเมืองที่น่าอยู่...น่ารักมากนะคะ...

เป็นเมืองที่สวยงามน่าอยู่มาก ๆ ค่ะ

งาม ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ  น่ารักมากค่ะ  ชอบภาพต้นไม้ใหญ่และทิวทัศน์ริมแม่น้ำด้วยค่ะ

แหม ....  ถ้าคุณลุงตอบว่า "ซื้อ"  พี่ Nui คงได้ไปบ่อยละนะคะ  อิ อิ

เมืองสวยทุกองศาจริงด้วยค่ะ น่าเที่ยวมาก เพิ่งเห็นหน้าลุง น่าจะใจดีทีเดียวนะคะพี่นุ้ย

-สวัสดีครับ

-ดูแปลกตาและสวยงามมาก ๆนะครับ

-ได้ท่องเที่ยวไปในหลายแห่งจากบันทึกของพี่หมอครับ..

-น่าไปเยือน..ทุกแห่ง..อิๆ

-มีผลไม้ป่ามาฝากครับ..

ภาพจริงสวยกว่าภาพถ่ายเยอะค่ะน้อง แสงแห่งความดี... แบบว่าไม่อยากกลับบ้านเชียวละสำหรับเมืองนี้

เมืองน่ารักอย่างนี้คงมีอยู่แยะที่แคนาดานะคะอาจารย์ ดร. พจนา แย้มนัยนา

ได้อ่านมาว่า แถวนี้มีเมืองสวยๆ แบบฟุสเซ่นอีกเยอะค่ะอาจารย์ ภูสุภา

พี่ก็ชอบแม่น้ำมากค่ะ น้องหมอทพญ.ธิรัมภา สีน้ำเหมือนดินสีอ่อน  สวยและไม่สกปรกเลย

ลุงชอบปล่อยมุกค่ะ

น้องกุหลาบ มัทนา เคยมาแล้วหรือยัง  ถ้ายังมานอนสักสองวันสิคะ จะได้เดินเที่ยวให้ทั่ว

ดีนะน้องเพชร เพชรน้ำหนึ่ง ที่เปิดอ่านตอนอิ่มแล้ว อิ..อิ..

ของฝากจากเยอรมันค่ะ (อย่าคิดว่าถ่ายจากตลาดบ้านเราเชียว)

ขอบคุณดอกไม้กำลังใจค่ะ  Sukajan และ 

คุณยาย  ยายธี โม้ผิดตรงไหนช่วยท้วงด้วยนะคะคุณยาย

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท