ฉบับที่ ๓๕ “นิค เด็กน้อยผู้ทรนง”


วันนี้ขอนำเรื่องเล่าชนะการประกวดของศจย. เขียนเรื่องเล่าส่งมาที่ ศจย.

และได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการให้นำเสนอในเวทีการแลกเปลี่ยนความรู้

ในการประชุมบุหรี่กับสุขภาพแห่งชาติครั้งที่ 10 วันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ.2554

ที่โรงแรมมิราเคิลแกรด์ จึงจะนำเรื่องของคุณอุลี ศักดิ์สุวรรณ

มาเล่าก่อน ซึ่งจะมีการประกาศผลโครงการเรื่องเล่าในปี 57 ในพรุ่งนี

 

เรื่องเล่า นิค เด็กน้อยผู้ทรนง

โดย อุลี ศักดิ์สุวรรณ [email protected]

นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ โรงพยาบาลน่าน จ.น่าน

 

เช้าวันนึงในเดือนพฤษภาคม “พี่ครับมีคนไข้มาหาพี่ มากันตั้งห้าคนแน่ะ เป็นเด็กนักเรียนด้วย บอกว่าอยากพบพี่ครับ” เสียงน้องที่ทำงานวิ่งมาแจ้งให้ฉันซึ่งกำลังประชุมอยู่ ดิฉันขออนุญาตลุกจากที่ประชุม แล้วตรงไปหาเด็กวัยรุ่นกลุ่มนั้นทันที

หวัดดีครับ” หนึ่งในห้าคนทำความเคารพฉันและยื่น OPD CARD มาให้ ดิฉันรับและหันมายิ้มให้กับน้องๆทั้งห้าคน อีกสี่คนรีบยกมือสวัสดีฉัน ฉันรับไหว้พร้อมกับบอกให้เด็กนักเรียนทั้งห้านั่งลงก่อนแล้วค่อยคุยกันดีกว่า “วันนี้มีอะไรให้ป้าช่วยหรือลูก ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยซิ ป้ายินดีรับฟังและยินดีช่วยเหลือ” ฉันให้ความเป็นกันเองกับเด็กๆเหล่านั้น จากนั้นเด็กๆก็แนะนำตัวเองทุกคน หนึ่งในห้าคนบอกว่า “ผมชื่อนิคเป็นหัวหน้าแก๊งครับ พวกผมเรียนอยู่ม.4 โรงเรียนมัธยมในตำบลแห่งหนึ่ง วันนี้พวกผมขออนุญาตอาจารย์มาโรงพยาบาล มากันห้าคนครับ ผมต้องการอดบุหรี่ครับ” ดิฉันทำท่ารับทราบและยิ้มให้อีกครั้ง พลางบอกเด็กๆว่า “ได้สิลูก แต่เราต้องมานั่งคุยกันก่อนนะ จะฟังทั้งหมดทุกคนหรือป่าวล่ะ” เด็กๆตอบกลับมาว่า “พวกผมจะขออยู่ฟังด้วยครับเพราะพวกผมก็สูบบุหรี่เหมือนกันแต่วันนี้ขอส่งนายนิคมาทดลองก่อน”

จากนั้น...นายนิคได้เล่าให้ฟังว่า “ผมเริ่มสูบบุหรี่ตั้งแต่ ม.3 อายุตอนนั้น 14 ปีเพื่อนๆชวนให้ลองสูบ ป้ารู้มั้ย! ในห้องผมสูบบุหรี่กันเกือบครึ่งห้องรวมทั้งผู้หญิงด้วย ส่วนมากเป็นเด็กห้องท้ายๆ มักแอบสูบที่ห้องน้ำ บางครั้งอาจารย์มาพบแจ้งฝ่ายปกครองทำโทษ ผมโดนบ่อยๆครับ” นิคจบ ม.3 ด้วยเกรดเฉลี่ยไม่ค่อยดีนัก เลยเลือกไปเรียนต่อสายอาชีวะที่วิทยาลัยแห่งหนึ่งในตัวเมือง ที่แห่งนี้นิคสารภาพว่าผ่านมาหมดไม่ว่าจะเป็น เหล้า บุหรี่ ยาบ้า เข้าแก๊งเด็กซ่า ซามูไร ยกพวกตีกัน นิคบอกว่าเขาเป็นลูกชายคนเดียวของพ่อแม่ พ่อให้เงินใช้วันละหลายร้อย จึงมีเพื่อนเยอะและเพื่อนๆยกให้เป็นหัวหน้าแก๊ง นิคเสียเวลากับความเหลวไหลทั้งหลาย 1 ปีเต็ม ผลการเรียนตกต่ำจนโดนรีไทน์ออกจากวิทยาลัย นิคเห็นแม่เสียใจจึงมีแรงบันดาลใจที่จะเรียนต่อให้จบ จึงมาสมัครเรียนที่โรงเรียนใกล้บ้าน เริ่มเรียน ม.4 ใหม่ นิคบอกว่าอยากกลับตัวเป็นคนดีเขาสามารถเลิกทุกอย่างได้หมด แต่ตอนนนี้เหลือเพียงบุหรี่อย่างเดียวที่นิคตกเป็นทาสมัน นิคสูบบุหรี่จัด มากกว่า 10 มวนมวนต่อวัน ขณะนี้นิคได้เป็นสมาชิกวงดุริยางค์ของโรงเรียน นิคมีแฟนเป็นเพื่อนรุ่นพี่ที่โรงเรียนเดียวกัน เธอเป็นคนดี เรียนเก่ง สวย และเป็นที่รักของคุณครู นิคแคร์ความรู้สึกของแฟนมาก แฟนไม่ชอบนิคสูบบุหรี่ และบอกอีกว่าถ้าไม่เลิกสูบเขาจะไม่คบนิคอีกต่อไป ประกอบกับแม่ของนิคก็อยากให้เลิกสูบเหมือนกัน นิคพยายามเลิกหลายครั้งแต่ก็อดไม่ได้ จึงคิดมาโรงพยาบาลน่านเผื่อจะได้ยาช่วยให้เลิกได้ จึงเป็นที่มาของเด็กๆในวันนี้ ดิฉันเอาแบบสอบถามมากรอก ซักประวัติการสูบบุหรี่ ประเมิณระดับการติดสารนิโคตินโดยใช้แบบประเมิณของมูลนิธิเพื่อการไม่สูบบุหรี่ ประเมิณนิคได้ 6 คะแนน ประเมิณความรู้เรื่องพิษภัยของบุหรี่ เด็กๆมีความรู้ดี รู้หมดทุกอย่างแต่แพ้ใจตัวเอง ดิฉันเริ่มใช้ขบวนการให้คำปรึกษา การเสริมสร้างพลัง และค้นหาความสามารถในตัวตนของนิค และชี้ให้เด็กๆเห็นความโดดเด่นของตนเองโดยเฉพาะนิค ดิฉันเห็นว่าถ้านิคเลิกได้คนหนึ่ง คนอื่นๆก็จะเลิกตามได้ เพราะนิคเป็นผู้มีอิทธิพลทางจิตใจเหนือคนอื่น ดิฉันแนะนำวิธีเลิกบุหรี่ด้วยตนเองโดยใช้อาวุธ 16 ชนิด และไม่ลืมที่จะขอเบอร์โทรศัพท์ของนิค , เพื่อน , แม่ , แฟน และอาจารย์ฝ่ายปกครอง ฉันให้นิคลองเลิกด้วยตัวเองเพราะเห็นว่าระดับการประเมิณนิโคตินไม่สูงมากนัก น่าจะใช้ปัจจัยเสริมเพื่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจากคนใกล้ชิด วันนี้นิคกลับไปพร้อมกับแผ่นพับและเอกสาร 2-3 อย่างและฉันบอกเด็กๆว่าอีกหนึ่งอาทิตย์จะไปเยี่ยมที่โรงเรียน เด็กๆมีท่าทีดีใจ

วันรุ่งขึ้นฉันโทรหานิค แม่และแฟนของนิค ช่วยให้กำลังใจและขจัดสิ่งแวดล้อมผู้ใกล้ชิดไม่สูบบุหรี่ให้นิคเห็น เก็บอุปกรณ์ทั้งหมดทิ้งให้ไกลตา ช่วยทำน้ำส้มคั้น น้ำมะนาวให้นิคดื่มบ่อยๆ 7 วันผ่านไป นิคทนไม่ได้แอบสูบบุหรี่อีก แต่ปริมาณลดลง 2-3 มวนมวนต่อวัน วันนัดเด็กๆมาถึงด้วยความบังเอิญ ทางสถานีอนามัยสวก ทำพิธีเปิด “โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล” เด็กๆบอกว่าจะนำวงดุริยางค์ไปร่วมงาน สักพักเด็กๆก็มาในงานฉันไม่รอช้าเข้าไปทักทาย เด็กๆดูท่าทางดีใจเหมือนพบญาติผู้ใหญ่ เด็กๆแนะนำให้รู้จักคุณครูผู้ควบคุมวงดุริยางค์ ดิฉันฝากคุณครูให้เป็นกำลังใจให้เด็กกลุ่มนี้ที่ตั้งใจจะเลิกบุหรี่ คุณครูยินดีช่วยอีกแรง ดิฉันเพียรโทรหานิคและแฟนนิคทุกอาทิตย์

1 เดือนต่อมานิคมาพบฉัน นิคบอกดิฉันว่า “ขอยาอดบุหรี่ให้ด้วย นิคทนไม่ได้มันทรมาน นิคแพ้ใจตัวเองอีกมันยากจริงๆครับ” ดิฉันจึงส่งไปปรึษาจิตแพทย์ จิตแพทย์ท่านให้ยานิคมาทาน อีก 2 อาทิตย์มาพบแพทย์อีกที ปรากฏว่านิคลดการสูบบุหรี่ลงเหลือวันละมวน ดิฉันเริ่มมีความหวังขึ้นมา

อีก 1 เดือนหมอนัดนิคอีกวันนี้มาแปลกยิ้มมาแต่ไกล “ป้าครับ ผมทำได้ ป้าดีใจกับผมด้วยนะครับ ผมชนะมันได้ ผมชนะใจตนเองได้ ผมดีใจครับ”

นับจากวันนั้นถึงวันนี้ 2 ปีสำหรับความทุ่มเทเพื่ออนาคตของชาติเพียง 1 คนและดิฉันยังต้องการทำต่อไปกับเด็กๆเพื่อนของนิคที่เหลืออยู่ นั่นคืองานที่ท้าทายสำหรับดิฉัน

บทสรุป นิคอดบุหรี่ได้ในเวลา 1 เดือน และไม่เตะต้องบุหรี่อีกเลย นับถึงบัดนี้เป็นเวลา 2 ปี โดยมีพ่อแม่ให้กำลังใจที่บ้าน และแฟนคอยให้กำลังใจอีกแรงหนึ่งที่โรงเรียนปัจจุบันนิคได้เป็นหัวหน้ากองดุริยางค์ของโรงเรียน โดยมีสมาชิกอีกมากมาย ซึ่งมีครูดุริยางค์และครูแนะแนวคอยให้คำปรึกษานิคและนักเรียนกลุ่มนี้คำพูดจากปากของนิค นิคจะตั้งใจเรียนหนังสือให้สำเร็จเพื่อเป็นของขวัญให้ตนเอง , พ่อแม่และแฟน

ทางเราจึงจะนำเรื่องของ คุณอุลี ศักดิ์สุวรรณ มาเล่าเพื่อเป็นแรงเสริมให้ผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่มีกำลังใจในการทำงานต่อไป

ศจย.

ติดตามได้ที่ website : www.trc.or.th

หมายเลขบันทึก: 568009เขียนเมื่อ 15 พฤษภาคม 2014 12:09 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 พฤษภาคม 2014 12:09 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

...ชื่นชมทั้งผู้มาบำบัด และผู้ให้การบำบัดรักษา...เป็นงานที่ทุ่มเททั้งเวลา และกำลังใจนะคะ

ขอเป็นกำลังใจให้แก่ทั้งคุณอุลี ศักดิ์สุวรรณและศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.)ด้วยนะครับ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท