nui
นาง เสาวลักษณ์ พัวพัฒนกุล

กำแพงเบอลิน กับ Berliner Dom


      

      ออกจากแฟรงเฟิตไปเบอลินแต่เช้า นั่งรถไฟด่วนไป ๔ ชม.ครึ่ง ชมวิวข้างทาง นั่งเขียนบันทึก กับ นั่งสรุปการเที่ยวลงหนังสือคู่มือส่วนตัว จนตาลายเพราะรถวิ่งไม่นิ่มนัก  ข้างทางสวยงามมาก เห็นทุ่งสีเหลืองสุดตา บ้านเรือนเป็นหย่อมๆ แต้มอยู่กลางทุ่งสีเขียวสวยงามน่าอยู่จนคิดว่าสงสัยต้องมาขับรถเที่ยวเองสักรอบ เพื่อแวะได้ตามใจ


        ถึงเบอลินแล้วลงไปกินอาหารไทยคนละจาน ลุงกะป้าผลักจานกันไปมาประมาณว่าเผื่อจานคนอื่นจะอร่อยกว่า แล้วก็นั่งแท็กซี่ยี่ห้อเมอซีเดส (เบนซ์) ไปโรงแรม หรูซะ ลุงบอกไว้ก่อนว่าแทกซี่ที่นี่ขับรถซิ่งสวิงสวายนะ เกาะเก้าอี้ให้ดีๆ อย่ากระเด็นออกจากรถล่ะ

        เก็บกระเป๋าแล้วออกเที่ยวทันที เป้าหมายแรกคือ East Side Gallery

        เด็กหนุ่มคนหนึ่งมาสอนเราซื้อตั๋ววันจากตู้แล้วยังอธิบายวิธีเดินทางไปดู East Side Gallery ได้เชี่ยวชาญก่อนจะบอกว่าผมก็เป็นนักท่องเที่ยวครับ


        หลังเยอรมันแพ้สงครามโลกครั้งที่ ๒ ผู้ชนะแบ่งพื้นที่ประเทศเยอรมันกันไปเหมือนแบ่งเค้ก ให้แก่ ๔ ประเทศ รวมทั้งเบอลินเมืองหลวงก็ถูกแบ่ง รัสเซียสร้างกำแพงยาว 155 กิโลเมตร (13 สค. 1961- 9 พย.1989 ) กั้น เป็นกำแพงแห่งความบ้าคลั่งเสียสติของมนุษย์ที่เหลือเชื่อ แบ่งมนุษย์ชาติเดียวกันไม่ให้ไปมาหาสู่กันได้ง่าย คิดได้ไง???

        เมื่อรวมประเทศกำแพงถูกทำลาย เหลือไว้บางส่วน และส่วนใหญ่ที่เหลือไว้ก็เชิญศิลปินมาวาดภาพบนผนังไว้เป็นอนุสรณ์ ณ ที่แห่งนี้ หลายภาพโด่งดัง และมีภาพที่สวยงามให้ชมมากมาย เราเดินจนสุดกำแพงกว่ากิโลไม่รู้เหนื่อย


ภาพที่โด่งดังมาก คือภาพข้างบนนี้  


 

ศิลปินไม่ได้รับเชิญ (มือบอน) มากมาย มาเติมโน่น นี่ นั่น  รูปดาราคนโปรดของฉันในภาพนี้ ชื่อ โจดี้ ฟอสเตอร์ จากหนังชื่อ Taxi Driver ก็น่าจะเป็นผลงานของคนมือบอน   แต่ชอบจ๊ะ

กำแพงเบอลินทำลายไปแล้ว  แต่ที่เหลือไว้ตลอดแนวกำแพงคือ แผ่นอิฐสองก้อนที่ฐานกำแพง

     แผ่นอิฐสองก้อนของแนวกำแพงนี้ยังคงอยู่ทั่วไปตามถนนต่างๆ ทั่วเบอลิน เราเห็นเพียงชั่วคราวยังสะเทือนใจแต่คนเยอรมันจะได้เห็นร่องรอยแห่งความเจ็บปวดนี้ไปชั่วลูกหลาน

      เที่ยวมาสองวัน เริ่มคุ้นกับรถไฟแล้ว แต่ไม่คุ้นกับทางรถจักรยานสักที ชอบเข้าไปเดิน (ก็มันไม่มีคนเดินนี่นา) คนถีบก็ใจดี ไม่ยักกะบีบกระดิ่งไล่เรา แต่ขี่ฉวัดเฉวียนผ่านให้เราหวาดเสียว ต้องท่องให้ขึ้นใจว่าที่นี่มีเลนจักรยานเน้อ อย่าเข้าไปเดิน คนเยอรมันถีบรถจักรยาน ลากจักรยานขึ้นรถไฟ ไปโน่นนี่กันเป็นปกติ ถีบคล่องเร็วปรื๋อ แข็งแรงกันน่าดู ชอบ...ชอบ...

      กลับไปแวะพักนวดขาที่โรงแรมเดี๋ยวเดียวก่อนไปเที่ยวต่อ นั่งรถไฟสองป้ายไปลงที่ จัตุรัส Alexanderplatz เริ่มต้นการชมเมืองจากที่นี่ นาฬิกาโลก (World Clock) หอคอยเบอร์ลิน (Berlin Tower) ศาลาว่าการเบอร์ลินที่สร้างด้วยอิฐแดงทั้งหลัง (Berlin Rotes Rathaus) และจบที่ Berliner Dom แม้จะเดินไกลจนขาลาก แต่เมื่อได้เห็นความงามของเจ้าตึก Berliner Dom นี่แล้ว โอ้..หายเมื่อย หายเหนื่อย แช่มชื่นขึ้นทันที สวย สวย สวย โค-ตะ-ระ สวย อุทานซะจนลุงบอกว่าเก็บปากเก็บคำไว้บ้างเถิด ยังมีความงามให้อุทานอีกเยอะ


      ดึกแล้ว พรุ่งนี้จะมาใหม่ และจะตะกายขึ้นไปให้ถึงยอดโดมเชียว

ตื่นมาบันทึกเช้ามืด หลังรู้ข่าวว่านายกปูเด้งหลุดจากเก้าอี้นายกแล้ว

วันพฤหัสที่ ๘ พค. ๒๕๕๗

ปล. กลับไปนี่จะหาหนังสือ และ หนังเก่าๆ ว่าด้วยกำแพงเบอลินอ่านให้หนำใจ   

ต้องไปแล้วค่ะ

คำสำคัญ (Tags): #กำแพงเบอลิน
หมายเลขบันทึก: 567601เขียนเมื่อ 8 พฤษภาคม 2014 11:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 8 พฤษภาคม 2014 11:58 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

ไปตั้งแต่ปี ๒๖ จำไม่ได้แล้วครับ

แวะมาชมประวัติศาสตร์อันน่าสนใจ ผมนำ Link มาให้พี่อ่านที่ http://www.tddf.or.th/main/news/260/ ขอบพระคุณมากครับผม

ขำ ๆ คุณลุง - คุณป้า  น่ารักจัง   ตามอ่านค่ะ

ไปใหม่อีกครั้งได้เลยค่ะ อาจารย์หมอ JJ ทบทวนความหลังไงคะ

ขอบคุณอ.จัน จันทวรรณ

ชอบอะไรๆ ที่เป็นประวัติศาสตร์ค่ะ

ขอบคุณอาจารย์ Dr. Pop  พี่ไปอ่านแล้ว  ชอบค่ะ

ขอบคุณอีกครั้งที่ตามมาขำนะน้องหมอ ทพญ.ธิรัมภา

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท