nui
นาง เสาวลักษณ์ พัวพัฒนกุล

เที่ยววันแรกในเยอรมัน_โคโลญ แฟรงเฟิต วันเดียวคุ้มแล้ว ที่เหลือเป็นกำไร


         หลังจากนั่งหลังแข็ง ๑๐ ชั่วโมง ดูหนังสองเรื่อง รอแอร์เอาอาหารมาเสริฟเหมือนหมูที่เจ้าของเอาอาหารมาเทใส่รางขุนให้อ้วนสองมื้อครึ่งก็ถึงสนามบินแฟรงเฟิตโดยสวัสดิภาพ

        ตรวจคนเข้าเมืองเยอรมันช้ากว่าที่คิด สังเกตว่าคนเอเชียจะถูกซักถามขอดูเอกสารมากมาย บางคนเปิดโน้ตบุ๊คแสดงเอกสาร ของเราขอดูตั๋วเที่ยวกลับ เลยยกให้ดูทั้งแฟ้มซะเลย มีหลักฐานจองโรงแรมครบทุกคืนจนถึงวันกลับ เอกสารตอนขอวีซ่าครบทุกแผ่น แกอุทานว่า “Perfect ! ขอบคุณครับ” (พูดไทยได้ด้วย)

        เราซื้อตั๋ว German Rail Pass ไว้จากเมืองไทย เป็นชั้น First class twin (ราคา ๔๒๐ ยูโร ๑๘,๙๐๐ บาทไทย) คือต้องไปคู่กันสองคน เวลา ๕ วัน ตกวันละ ๓,๗๐๐ บาท เฉลี่ยคนละแค่ ๑,๒๕๐ บาท ใช้เดินทางไกลๆ ถือว่าถูกมาก อย่างเรานั่งรถไฟจากแฟรงเฟิตไปเบอลิน ถ้าซื้อตั๋วเองชั้น ๑ ตกคนละ ๖,๒๕๕ บาทเที่ยวเดียว ไปญี่ปุ่นเราก็ซื้อ Japan RP นั่งรถเที่ยวกันไม่กลัวหลง


        ไปถึงปุ๊บ เราไปเปิดใช้ตั๋วก่อนที่ออฟฟิซของรถไฟ (ยังไม่ใช้วันนี้เพราะตั๋วเข้าเมืองราคาแค่ ๔ ยูโร --ไปถึงก็นอน) ในตั๋วจะมีช่องว่างให้ลงวันที่ (วันที่ใช้) เราต้องลงเอง ลงไปจนครบ ๕ วัน แปลว่าใช้ครบแล้ว เว้นวันใช้งานได้ เช่นเราไป ๑๒ วัน ซื้อตั๋วแค่ ๕ วันไว้เดินทางไกลๆ วันที่เที่ยวในเมืองก็ซื้อตั๋ววัน One Day Pass ใช้ ถูกกว่า

       ดีกว่าญี่ปุ่น ที่ญี่ปุ่นเมื่อเปิดใช้งานแล้วนับไปเลยจนครบ ไม่ให้เว้น ไปญี่ปุ่นต้องซื้อยาวเท่าวันที่เราอยู่

       รถไฟเยอรมันใช้ระบบซื่อสัตย์ เวลาขึ้นรถไฟเที่ยวในเมือง ไม่มีการตรวจตั๋ว เขาเชื่อใจประชาชนของเขาว่าซื้อตั๋วทุกคน ไม่มีคนขี้โกง เราซื้อตั๋วครบถ้วนทุกเที่ยว และไม่เคยถูกตรวจตั๋วเลย อ่านเจอมาว่าเขาชอบตรวจตั๋วคนเอเชียเพราะมักขึ้นรถไม่ซื้อตั๋ว เจอแล้วเขาปรับแพงคือ ๔๐ ยูโร เราสองคนคิดว่าเวลาไปต่างประเทศ คนไทยทุกคนคือตัวแทนประเทศ เราต้องไม่ทำสิ่งใดให้ประเทศเสียชื่อเสียง

        ลุงบอกว่า ซื้อตั๋วแล้วก่อนขึ้นรถต้องไปประทับตราว่าตั๋วนี้ใช้แล้วนะ เที่ยวแรกที่เรานั่งจากสนามบินไปในเมือง เราสองคนเดินหาที่ประทับตราตั๋วซะทั่วก็ไม่เจอ ไม่สบายใจละซีที่จะขึ้นรถ เดินไปถามคนเยอรมันหลายคนก็ไม่ได้ความว่าอย่างไร สรุปไม่ได้จริงๆ ว่าต้องประทับตราหรือเปล่า ยังงงๆ อยู่

        วันแรกไปถึงโรงแรมสามทุ่ม (ตีสองบ้านเรา) นอนก่อนละ

        รุ่งขึ้น เริ่มการท่องเที่ยววันแรกตามแผนการเป๊ะๆ ในคู่มือ (ฉบับเขียนเอง พิมพ์เอง) คือเช้าไปโคโลญ ตอนใกล้ถึงรถไฟวิ่งช้าๆ ผ่านสะพานโฮเฮนซอลเลิร์น (Hohenzollen Brucks) ข้ามแม่น้ำไรน์เราก็ตื่นเต้นแล้ว ลงจากรถก็เจอมหาวิหารโคโลญ (Cologne Cathedral) อันตระการตา ยังเช้ามากนักท่องเที่ยวน้อย เราเดินชมในวิหารอย่างสบายอารมณ์ ถ่ายรูปโน่นนี่นั่น แล้วนั่งลงกลางโบสถ์ใช้กล้องสองตาสำหรับส่องดูนกยี่ห้อชวารอฟกี้ ที่แสนหนักเวลาแบกใส่หลัง-แต่เวลายกส่องดูภาพสลักในโบสถ์ กับ กระจกสีลวดลายงดงามวิจิตร ที่กล้องดึงภาพมาให้ชมใกล้ๆ ราวกับจะสัมผัสได้ด้วยสองตาสองมืองดงามเกินพรรณนา จึงยอมพกพากล้องหนักๆ นี้ไปทุกที่

        นั่งแช่ในโบสถ์ตรงนั้นตรงนี้กันสองลุงป้า จนอิ่มตาอิ่มใจ

        ชวนกันเดินไปยังสะพาน Hohenzollen Brucks เพื่อปฏิบัติการสำคัญข้ามทวีป คือ เอากุญแจทองคล้องใจไปแขวนประกาศให้ชาวบ้านรู้ว่ามาแล้ว

        แทนที่จะเดินขึ้นทางฟากที่มองไปเห็นมหาวิหารโคโลญ กลับเดินขึ้นอีกฟาก เราจึงถือโอกาสเดินเล่นบนสะพาน ข้ามแม่น้ำไปฝั่งตรงข้าม เดินวกขึ้นสะพานอีกฟาก จึงได้เห็นภาพไกลอันงดงามของมหาวิหาร ภาพมุมกว้างของตัวเมืองบนฝั่งแม่น้ำไรน์ กับสีสันสดใสของกุญแจใจของคู่รักทั่วโลกบนราวสะพาน

        กว่าจะหาที่แขวนกุญแจได้ก็ยากอยู่ เพราะไม่มีที่ว่างเลย เราจึงแอบเอาไปแขวนต่อจากชาวบ้านเขา (ลุงกะป้าขอโทษนะหนู) ลุงทิ้งกุญแจลงแม่น้ำไรน์แค่ดอกเดียว บอกว่า อีกสองดอกเก็บไว้ ให้ลูกคนละดอก ลูกคนไหนหากุญแจของพ่อแม่เจอก่อน ไขไปคืนได้จะยกมรดกให้...ฮ่า..ฮ่า...

        บ่ายสามโมงกลับแฟรงเฟิต ไปเดินเที่ยวที่จัตุรัสเรอเมอร์แบร์ก (Romerberg) ซึ่งเป็นไฮไลท์ รอบๆ จัตุรัสงดงามมากด้วยอาคารเก่ารูปทรงสวยงาม เช่น Romer (โรเมอร์) อาคารนีโอกอทิกทรงหน้าจั่วสามหลังติดกัน กับ Historische Ostzeile เป็นบ้านโครงไม้ซุง 6 หลัง และอื่นๆ ที่รายรอบจนครบถ้วน แล้วเดินไปโบสถ์จักรพรรดิ (Kaiser Dom) ที่เห็นยอดหอคอยสีแดงโดดเด่น เข้าไปนั่งฟังเพลงสวดแสนไพเราะอยู่ตั้งนาน

        เข้าโบสถ์คริสตทุกโบสถ์พนมมือไหว้พระแม่มาเรีย พระเยซู แล้วนั่งสวดมนต์ มโน..และ อิติปิโส...

        เดินเล่นทั่วเมืองจนสองทุ่ม (ยังสว่าง) ชวนกันกลับ เพราะแบตกล้องหมดแล้ว

        ฝีมือถ่ายภาพของป้าต่ำเตี้ยมาก ตอนกดแชะๆ นั่นคุ้ยโม้กับลุงว่า ป้าถ่ายภาพเจ๋งอ่ะ สุดท้ายเอามาลงเครื่องดูแล้วฝีมือดูไม่ได้ เอาเถอะ ถ้าลุงให้มาใหม่คราวหน้าจะจ้างตากล้องติดตามมาซักคนนะลุง

        หนนี้ไม่เป็นไรนะ เพราะภาพงามทั้งหลายมันอยู่ใจครบถ้วนแล้ว

       บอกลุงว่า เที่ยววันเดียวยังกะเที่ยวสิบวัน คุ้มค่าเครื่องบิน ค่าโรงแรมแล้วนะ อีกสิบวันที่เหลือเป็นกำไร.

เวลาเช้า วันอังคาร ๖ พฤษภาคม ๒๕๕๗

บนขบวนรถไฟ ICE 694 จาก Frankfurt ไป Berlin

ป.ล.ถึงเบอลิน เข้า รร.แล้วขออนุญาตลุงส่งบันทึกซักแป๊บ  wifi เร็วแต่ลงรูปช้า  ลุงเร่งแล้วต้องไปก่อน

หมายเลขบันทึก: 567512เขียนเมื่อ 6 พฤษภาคม 2014 19:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 พฤษภาคม 2014 19:49 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (18)

ขอแสดงความยินดีที่ถึงโดยสวัสดิภาพ..เที่ยวให้สนุก..ค่ะ..ที่เบอรลินมีที่แสตมป์ตั๋ว..ที่..ฮัมบอรกไม่ต้อง..แต่จะมีคน..ตรวจตั๋วขึ้น..บ่อย..

ภาพสวยมากค่ะ ฝีมือถ่ายทำเข้าขั้นทีเดียว ชอบกุญแจของลุงกับป้า หวานแหวว เด่นชัดเกินใคร ๆ ไม่น่าหายาก หากเป็นลูก กุหลาบจะตีตั๋วตามไปไขมาเก็บไว้ในมือ สุดจะคุ้มค่ะ;)

เที่ยวให้สนุก และ เที่ยวเผื่อด้วยนะจ๊ะพี่นุ้ย

ประทับใจมาก Cologne Cathedral อันตระการตา...สนุกมากกับปฏิบัติการสำคัญข้ามทวีป ที่คุณnui  คุณTon ... เอากุญแจทองคล้องใจไปแขวนที่ สะพาน Hohenzollen Brucks แถมยังเก็บกุญแจไว้ให้ลูกชายมาค้นหา... น่าตื่นเต้นที่ลูกคนไหนหาเจอได้รับมรดกอีก...สุดยอด trip ค่ะ

พี่นุ้ยครับ  ผมขอไปเที่ยวด้วยนะ แต่ไปกับบันทึกของพี่แทนนะครับ แค่อ่านบันทึกนี้ผมก็ไปถึงไหนต่อไหนแล้วครับ  ขอบคุรครับ จะรออ่านต่อนะครับ

น่าไปเที่ยวมากเลยครับ

ชอบใจกุญแจ 

มีเต็มเลย 

ขอบคุณพี่นุ้ยมากๆครับ

-สวัสดีครับ

-น่าไปเยือนนะครับ

-เมืองนอกไม่เคยไปเลยครับพี่หมอ

-คงต้องเก็บเงินมากหน่อย..อิๆ 

-เที่ยวเผื่อด้วยนะคร้าบ..

สุขใจได้เที่ยวเมืองดีๆเช่นนี้ค่ะ

เกาะติด ... สนุกไปด้วยค่ะพี่ nui

ดีใจจริงๆ ที่ได้มาเที่ยวเยอรมันค่ะคุณ ยายธี แรกๆ ไม่คิดจะมาเลยนะคะ  พอมาแล้วชอบค่ะ (แม้จะมีควันบุหรี่มากไปนิด)

ขอบคุณน้อง กุหลาบ มัทนา ค่ะ  ที่เยอรมันมีอีกหลายสะพานค่ะ   ซอลเบร์กก็มีคนไปแขวน แต่กุญแจไม่มากเหมือนที่นี่

เที่ยวเผื่อแล้วนะคะน้องครู คุณมะเดื่อ

ขอบคุณค่ะอาจารย์  ดร. พจนา แย้มนัยนา ถ้าลูกมาอ่านจะว่าแม่เพี้ยนมั๊ยนี่ อิ..อิ..

ยินดีค่ะน้อง nobita เก็บตังค์ไว้อีกหน่อยอายุขนาดพี่ก็ได้เที่ยว  แต่อย่ารอจนแก่มากนะ  มันเดินเมื่อยน่ะ

อาจารย์ ขจิต ฝอยทอง   รีบไปตั้งแต่ยังมีเรี่ยวแรงนะคะ 

โห น้องเพชร เพชรน้ำหนึ่ง ตอนเปิดดู ทำเอาพี่คิดถึงบ้านหิวน้ำลายสอเชียว

ไปเมื่อไหร่บอกว่านะน้องหมอ ทพญ.ธิรัมภา พี่จะส่งโปรแกรมทัวร์ให้ ไม่คิดตังค์

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท