คู่ขัดแย้งหลักที่ชี้ชะตาประเทศไทย


คู่ขัดแย้งหลักที่ชี้ชะตาประเทศไทย

จากข้อเขียนครั้งก่อนที่ได้เสนอคู่ขัดแย้งในบริบทการเมืองไทยจะเห็นว่า มีคู่ขัดแย้งที่เกิดขึ้นหลายคู่ขัดแย้งมากในประเทศไทยเวลานี้ หรืออาจจะมีมากกว่านั้นก็ได้ แต่ในจำนวนคู่ขัดแย้งต่างๆ เหล่านั้น จริงๆ จะมีคู่ขัดแย้งหลัก ที่เป็นปัญหาใหญ่สุดและชี้ชะตาประเทศไทย คือคู่ขัดแย้ง ระหว่างเสรีประชาธิปไตย กับอำมาตยาธิปไตย (ขอใช้ชื่อนี้นะคะ เพราะหมายถึงประชาธิปไตยของฝ่ายอำมาตย์) บางคนยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฝ่ายอำมาตย์หมายถึงคนกลุ่มใด จริงๆ เราดูละครเรื่องลูกทาส คงพอจะเข้าใจได้ง่ายขึ้นนะคะ ฝ่ายอำมาตย์ หมายถึงขุนนาง ข้าราชการระดับสูง ที่ควบคุมการทำงานราชการของประเทศเดิมก่อนจะมาปกครองแบบประชาธิปไตย ไม่ได้หมายรวมถึงพระเจ้าอยู่หัวแต่อย่างใด

แล้วทำไมผ่ายเสรีประชาธิปไตย ถึงขัดแย้งกับฝ่ายอำมาตย์?

ตั้งแต่ 2475 ที่เปลี่ยนแปลงการปกครองจากสมบูรณาญาสิทธิราชมาเป็นประชาธิปไตย พวกอำมาตย์เดิมที่มีอำนาจ มีอิทธิพล มีผลประโยชน์ในการปกครองประเทศ ก็สูญเสียอำนาจ และผลประโยชน์ เพราะทุกอย่างต้องมาขึ้นตรงกับประชาชน ก็เลยต้องแทรกแซงประชาธิปไตยโดยอ้างว่าประชาชนที่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ ไม่มีการศึกษา ไม่เข้าใจประชาธิปไตย จึงต้องขอรวบอำนาจไว้บางส่วนเพื่อไม่ให้อำนาจทั้งหมดมาจากการเลือกตั้งของประชาขน 100% และกลายเป็นประชาธิปไตยที่ไม่เต็มใบตลอดมา ที่สำคัญอย่าลืมว่ากลุ่มคนพวกนี้มีอำนาจและอิทธิพลในการเมืองเดิม จึงไม่ยากเลยที่จะแทรกแซงโครงสร้างระบอบประชาธิปไตย พร้อมๆ กับเหนี่ยวนำประชาชน ซึ่งแน่นอน ก็ไม่ยากอีกเหมือนกันเพราะ โดยนิสัยคนไทยตั้งแต่สมัยสมบูรณาญาสิทธิราชเดิมก็ยังติดนิสัยทาส ที่ยังต้องการนายตลอดเวลา หรือเรียกง่ายๆ ว่าคนไทยคือทาสที่ไม่ยอมรับการปลดปล่อย

ถ้าสังเกตุเห็นการเปลี่ยนแปลงของฝ่ายแกนนำ นปช. บนเวทีการต่อสู้ ตอนนี้เค้าเน้นดึงพลังประชาชนให้ต่อสู้เพื่อให้ได้ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ให้ทุกคนมีสิทธิ์ และมีเสียงเท่าเทียมกัน เหมือนที่ดิฉันเคยพูดว่าทักษิณไม่ใช่พลังที่แท้จริง ทักษิณแค่ถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ในการต่อสู้ของทั้งสองฝ่ายเท่านั้นเอง แต่พลังที่แท้จริง คือประชาชน และต้องดูว่าแกนนำ นปช.สามารถปลุกพลังประชาชนให้กลายเป็นอุดมการณ์ได้หรือไม่? และถามว่า ตอนนี้ขณะนี้ถ้าไม่มีทักษิณการต่อสู้จะเหมือนเดิมหรือไม่? และประชาชนถูกปลุกให้ตื่นจริงไหม? สมมติฐานของดิฉัน พลังในการต่อสู้ครั้งนี้อยู่ที่ประชาชนรากหญ้าของประเทศ

อย่าลืมว่าตอนนี้ ระยะเวลาผ่านมาหลายปี ทุกๆ ฝ่ายมีพัฒนาการการต่อสู้ อย่าด่วนสรุปว่าประชาชนที่ออกมาเป็นภาพลวงตา เพราะถ้าพลังที่แท้จริงอยู่ที่ประชาชน และเค้าสามารถขับเคลื่อนให้ประชาชนตื่นได้จริง และที่สำคัญถ้าประชาชนไม่ใช่ต่อสู้เพื่อทักษิณ แต่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย? อ้นนี้น่าสนใจนะคะ ต้องรอดูกันต่อไป ประมาณ เดือน พฤษภาคมนี้ น่าจะพอรู้ผล ตรงนั้นแหละ เราพอจะวัดได้ว่า พลังประชาชนมีจริงแค่ไหน? ถ้าฝ่ายอำมาตย์ยังเดินหน้าล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง โดยใช้ตุลาการภิวัฒน์ ตามด้วยปฏิวัติรัฐประหาร ฉีกรัฐธรรมนูญ และยังยืนยันจะเอานายกคนกลาง และปฏิรูปก่อนเลือกตั้งเหมือนเดิมโดยไม่แยแสพลังของประชาชน อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้เสมอ และในที่สุดประชาชนนี่แหละคือผู้ที่ชี้ชะตาการเมืองไทยครั้งนี้

หมายเลขบันทึก: 567398เขียนเมื่อ 5 พฤษภาคม 2014 11:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 4 ตุลาคม 2015 10:32 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท