ต้นแก้ว...ออกดอกเป็น..มะลิ


แต่จะเป็นที่อะไรก็ช่างเถอะ นี่คือ..หนึ่งในปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ในระบบนิเวศน์ที่พึ่งพากัน ต่างพรรคต่างสายพันธุ์ก็เป็นมิตรกันได้ ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันไป เป็นทูอินวัน ที่ถึงแม้จะไม่อัศจรรย์...แต่ก็ได้ใจไม่ใช่น้อย..

เช้าขึ้นมา..รีบทำงานที่ตั้งใจ ให้เสร็จโดยเร็ว เพราะยังมีงานอื่นๆรออยู่อีกมากมายนัก เริ่มจากกรอกข้อมูลการประเมินตนเองในระดับปฐมวัยและการศึกษาขั้นพื้นฐาน ส่วนหนึ่งของงานประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๖ ที่ผ่านมาสดๆร้อนๆ

การกรอกข้อมูลให้ง่ายและรวดเร็วก็ต้องกรอกลงในโปรแกรมสำเร็จรูปที่ผู้เชี่ยวชาญจัดทำขึ้นเพื่อการนี้ ที่จะคำนวณให้เสร็จสรรพ แต่ปรากฎว่าไม่เสร็จ เจ้าโปรแกรมดังกล่าว มีปัญหา กรอกข้อมูลไปได้ไม่เท่าไร ก็หยุดทำงานซะงั้น สร้างความหงุดหงิดใจให้วัยรุ่นอย่างผมยิ่งนัก

อย่างไรก็ตาม..ไม่มีอะไรดีไปกว่าตั้งหลัก หยุดทำงานชั่วครู่ สำนึกรู้อย่างหนึ่งขึ้นมาทันทีว่า การศึกษายุคนี้ ต้องเข้าใจและก้าวไปให้ทันIT วันนี้รู้สภาพตนเอง ว่าได้แค่นี้เอง เอาเถอะก็ดีกว่าไม่รู้อะไรบ้างเลย หรือไม่ทำอะไรเสียเลย คิดได้ดั่งนี้แล้ว ก็อโหสิกรรมให้ตัวเอง

พลันได้กลิ่นหอมๆ ฟุ้งเข้ามาทางหน้าต่างข้างโต๊ะ มองผ่านมุ้งลวดออกไปที่ต้นแก้วที่สูงเป็นพุ่มใหญ่ ก็เห็นว่ายังไม่มีดอกสีขาว แต่ก็ยังได้กลิ่นอยู่ คราวนี้ชัดเลย ไม่ใช่ดอกแก้วเสียแล้ว กลับกลายเป็นกลิ่นของดอกมะลิ หอมฟุ้งจรุงใจอย่างชัดเจน

เป็นงงสงสัยอยู่เหมือนกัน ว่าดอกมะลิ ๒ - ๓ ต้นตรงบันไดบ้าน ทำไมถึงหอมไกลไปถึงบนบ้าน จึงออกไปที่นอกชาน เพื่อสังเกตการณ์และค้นหาที่มาของกลิ่นมะลิ

โอ..ไม่น่าเชื่อ พบแล้ว ที่มาหรือต้นตอของกลิ่นหอม อยู่ในพุ่มแก้ว ที่แตกกิ่งก้านสาขา ระโยงระยางอย่างสง่างามนั้น จัดแซมด้วยกิ่งและก้านมะลิ ที่มีใบเขียวสดคล้ายคลึงกับต้นแก้ว วันนี้มะลิบนต้นแก้ว ถึงเวลาเบ่งบานอวดโฉมหลายดอก จับกลุ่มเป็นพุ่มเป็นพวงพอสมควร ถึงแม้จะเป็นเพียงมะลิดอกเล็ก ที่ไม่ใช่มะลิซ้อนดอกโต แต่ก็ชวนมองไม่ใช่น้อย

ผมรีบนำกล้องมาเก็บภาพเอาไว้ กล้องก็ไม่ได้ดั่งใจอีก ซูมเข้าใกล้มะลิไม่ได้เลย ผมจึงลงไปยังภาคพื้นดิน เก็บรายละเอียดที่โคนต้น ว่ามันมีที่มาที่ไปอย่างไร ถึงขึ้นไปอยู่สูงขนาดนั้นได้

ที่โคนต้นแก้ว พบมะลิต้นเล็กเพียงไม่กี่ต้น แต่ละต้นก็ไม่ได้เจริญงอกงามอะไรมากมาย สำรวจไปเรื่อยๆ ก็พบว่ามีอยู่ต้นหนึ่ง ใหญ่ประมาณหลอดไฟ มีใบน้อย ใช้ลำต้นเลื้อยพันไปตามส่วนเว้าส่วนโค้งของต้นแก้ว ด้วยลีลาที่อ่อนช้อยงดงาม จะว่ามันหลบลี้หนีศัตรูหรือหลบซ่อนสิ่งใดสิ่งหนึ่งก็ไม่เชิง หรือว่ามันรำคาญที่มีหมาแมวรบกวนความสงบสุขก็ไม่น่าใช่

คิดไปได้เรื่อยๆ หรือว่ามันหนีร้อนไปพึ่งเย็น ที่พุ่มแก้วก็น่าจะมีลมบน หรือมันจะทนความร้อนแล้งเบื้องล่างไม่ได้ แต่ก็ไม่น่าใช่อีก เพราะทุกคนในบ้านจะสาดน้ำใส่ต้นแก้วทั้งเช้าเย็น เนื่องจากต้นแก้วอยู่ใกล้ก๊อกน้ำมากที่สุด

แต่จะเป็นที่อะไรก็ช่างเถอะ นี่คือ..หนึ่งในปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ในระบบนิเวศน์ที่พึ่งพากัน ต่างพรรคต่างสายพันธุ์ก็เป็นมิตรกันได้ ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันไป เป็นทูอินวัน ที่ถึงแม้จะไม่อัศจรรย์...แต่ก็ได้ใจไม่ใช่น้อย..

 

                                                                      ชยันต์ เพชรศรีจันทร์

                                                                       ๑๖ เมษายน ๒๕๕๗

 

             

                         

             

                         

หมายเลขบันทึก: 566126เขียนเมื่อ 16 เมษายน 2014 19:45 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 เมษายน 2014 22:24 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)

ดูร่มรื่นมากเลยนะครับผอ. น่านั่งเขียนหนังสือมากๆ

ลา...มะลิลา...

ขึ้นต้นนั้นเป็นอะไร...

พอออกดอกไหง...กลายเป็น...บ้องกัญชา......เมี้ยววววว....!

น่าสนใจมากค่ะ เพิ่งลงต้นแก้วต้นนิดเดียว มีโอกาสจะทดลองทำตาม อิ อิ

ได้อาศัยแก้วไปอยู่บน ๆ ไงคะ มะลิตอบ

สวยงามร่มรืนและบรรยากาศมีความสุขในการทำงานดีๆสู่สังคม ขอบพระคุณมากครับท่านผอ.

* ทำงานท่ามกลางธรรมชาติอย่างมีความสุขนะคะ..

* เก็บภาพช่อดอกแก้วที่บ้านมาฝากค่ะ

ดอกไม้ทั้ง 2 ชนิด หอมด้วยกันทั้งคู่ จึงเป็นการที่เหมาะกันดังกับ กิ่งดอกมะลิ และใบดอกแก้ว (คล้าย ๆ กิ่งทองใบหยก) นะครับ :)


.. ร่มเย็นจริงๆๆ ค่ะ

นำดอกมะลิลามาฝากค่ะ

เคยปลูก แต่มันหอมมากเกินไปจนต้องย้ายเขตบริการ อิ อิ

ดอกแก้ว ดอกมะลิ ล้วนให้กลิ่นหอมแบบไทยๆ ที่บ้านพักที่โรงเรียนก็ปลูกไว้ข้างบ้าน แถมมีต้นโมกด้วยค่ะ..ตอนนี้บานหอมฟุ้งไปทั้งบ้านเลย...ชื่นใจ...

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท