ความงามที่อยู่ในกระบวนการชีวิต มีความสัมพันธ์และเชื่อมโยงกันของหลายสิ่ง
มีพลวัตร มีจังหวะเวลา และมีกาลเทศะเฉพาะอยู่ในตัวเอง
การสร้างสรรค์ของมนุษย์ เป็นองค์ประกอบที่จะสามารถทำให้สิ่งเหล่านี้
ปรากฏขึ้นในรูปของงานศิลปะ
จากบันทึก แสงเงาถ่ายทอดพลังชีวิต ของ....อาจารย์วิรัตน์ คำศรีจันทร์
......................................................
ประทับใจ ความงามจากความคิด ที่อาจารย์เขียนถ่ายทอดไว้แทบจะเกือบทุกบันทึกที่ตัวเองสนใจอ่าน
อาจารย์จับการเรียนรู้ที่ผ่านมาในชีวิต ผนวกเข้ากับภูมิความรู้และภูมิปัญญาที่อาจารย์มี อาจารย์เป็นได้อย่างลงตัว
ทำให้ตัวเองรู้สึกถึง..มุมมอง.. ความหมาย... แง่งามของชีวิต ที่เรียบง่าย และเปี่ยมด้วยพลังของความสุข ความพอ ที่มีในตัวตนของอาจารย์นั้น ได้เป็นอย่างดี....... ชวนหลงไหล และโน้มนำให้ใครต่อใครที่ประทับใจแง่คิด งานเขียนของอาจารย์ ลอกเลียนแบบนัก
....
....
และใครต่อใครในนั้น ก็มีตัวผู้เขียน...รวมอยู่ด้วย ยากที่จะปฏิเสธได้
ผู้เขียน...มิใช่คนคอศิลปะตัวยง
ผู้เขียน...ไม่เคยเรียนรู้งานศิลปะอย่างเป็นเรื่องเป็นราว
ผู้เขียน...อาจพูดคุยงานศิลปะกับผู้ใคร่รู้อย่างเป็นกิจลักษณะไม่ได้
หากแต่ว่า....หัวใจลึก ๆ ของผู้เขียนนั้น ชอบความงามจากลายเส้น ที่ถ่ายทอดอารมณ์ของผู้วาดภาพนั้น ๆ ออกมา ด้วยความรัก มากกว่าความรู้ที่ตัวเองมี
ผู้เขียนอาจแก่เกินไป ที่จะเรียนรู้งานศิลปะเป็นเรื่องเป็นราว มันอาจเป็นได้เพียงงานฉาบฉวย ยามใดที่สนใจศิลปะของใครสักคน ก็จะตามรอยอ่าน ปูมชีวิต ดูมุมมองการใช้ชีวิต ซึ่งก็ไม่บ่อยนัก ....
แต่ความรักในศิลปะเป็นทุนเดิมของผู้เขียน...ทำให้ผู้เขียนมีโอกาส ปลูกฝัง สิ่งนี้ กับไม้อ่อนใกล้ตัวของผู้เขียน...นั่นเอง
จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี ตลอดระยะเวลา ร่วม 4 ปี ที่ผ่านมา ถึงแม้นจะขาดช่วงตอนไปบ้าง แต่เมื่อไม้อ่อนใกล้ตัวได้ซึบซับงานศิลปะแล้ว ...ก็จะโหยหาสิ่งนี้กับผู้เขียนเสมอ เมื่อล้างลา หรือขาดช่วงตอนไปนาน
ซึ่งผู้เขียนมองว่า...นี่แหละคือการร้องขอในสิ่งที่ใจเรียกร้อง
แม้กระทั่งวันนี้... วันที่ชีวิตของผู้เขียนชีวิตประสบเรื่องที่ทำให้หัวใจเปลี่ยวเหงา.....
..
..
แต่ศิลปะ...ที่ไม้อ่อนข้างตัวของผู้เขียนได้ถ่ายทอดไว้บนกระดาษแผ่นเล็ก ๆ นั้น มันทำให้หัวใจของผู้เขียนคลายความเศร้าและความอ่อนล้าลง มันสามารถลดทอนความทุกข์ใจที่มีอยู่ ณ ปัจจุบันขณะได้อย่างประหลาด เสมือนน้ำหล่อเลี้ยงใจ ยามใดที่ใจเปลี่ยวเหงา ...ซึ่งผู้เขียนรู้สึกเช่นนั้นจริง เมื่อมองลึกลงไปในภาพหลาย ๆ ภาพ ที่ผ่านหัวใจของผู้วาด
มันช่างมีพลังชีวิต และเกิดกำลังใจขึ้นมาได้... อย่างบอกไม่ถูก
ภาพวาดระบายสีนี้.... มิอาจเทียบชั้น กันได้หรอกนะ กับภาพวาดของบรมครูที่ผู้เขียนนำมาเทียงเคียงกับเด็กวัยระอ่อน
หากแต่ว่า...เมื่อผู้เขียนนำความศรัทธาจากคนที่ผู้เขียนมี มารวมเป็นหนึ่งเดียวกับไม้อ่อนที่ผู้เขียนเพียรอุ้มชู ปลูกฝัง... อยู่นั้น
มันรู้สึกถึงพลังแห่งความมุ่งมั่นบางอย่างของตัวเอง.... ที่อยากถ่ายถอดพลังชีวิต พลังความคิด พลังความรักในสิ่งนั้น สู่ไมัอ่อนข้างตัวของผู้เขียน
ภาพเขียนสองภาพนี้
มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ผู้วาดได้ถ่ายทอด พลังชีวิตไว้ในภาพ
ผู้เขียนรู้สึกถึงสิ่งนั้นนะ... เมื่อได้จ้องมองมัน
....
....
พลังชีวิต...ของผู้วาด
ห้วงอารมณ์...แสงและเงา
ที่ผู้เขียนอยากให้ไม้อ่อนข้างตัวของผู้เขียน เติบโตขึ้นมาแล้ว...เป็นเช่นนั้น
ด้วยความเคารพและศรัทธาในพลังชีวิตของเจ้าของบันทึกที่ผู้เขียนอ้างถึง
และไม่แปลกใจเลยที่...ผู้เขียนอยากให้ไม้อ่อนข้างตัวของผู้เขียนเป็นเช่นนั้นด้วย..เช่นกัน
นับเป็นศิลปะในการใช้ชีวิตนะครับ
ชอบภาพม้าค่ะ ลูกตาน่ารัก มีชีวิตชีวามาก ....พ่อ แม่ เป็นพรหมลิขิตของลูกส่วนหนึ่งด้วยนะคะ
ท่านอาจารย์วิรัตน์ คำศรีจันทร์...เป็นแบบอย่างที่ชอบมากค่ะ ...ธรรมชาติ สบายๆ นะคะ