ในการประชุมสภามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เมื่อวันที่ ๘ มีนาคม ๒๕๕๗ มีการนำเสนอความคืบหน้าของสถาบันวิจัยใหม่ที่เพิ่งตั้งมาได้ ๒ ปี แล้วผมให้ความเห็นว่า สถาบันนี้ชื่อสถาบันระบบ X แต่ผลงานที่นำเสนอเป็นการวิจัยเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีด้าน X ไม่ใช่งานวิจัยระบบ X กรรมการอีกท่านหนึ่งบอกว่า ระบบ X ประกอบด้วย ๒ ส่วน คือส่วนที่เป็นระบบ เชิงกายภาพ (physical) ของ X กับส่วนที่เป็นระบบเชิงนโยบายและการจัดการ แต่เนื่องจากหัวหน้าทีม และทีมงานส่วนใหญ่มาจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ จึงทำงานวิจัยเชิงระบบด้านกายภาพเท่านั้น
กรรมการท่านนี้ชี้ให้เห็นว่า นักวิจัยตกเป็นเหยื่อของการคอรัปชั่นเชิงนโยบายโดยไม่รู้ตัว ไปทำวิจัยในหัวข้อ ที่ดูเผินๆ ดีมาก แต่จริงๆ แล้วเป็นหลุมพรางของคอรัปชั่นเชิงนโยบาย
กรรมการอีกท่านหนึ่งชี้ว่า มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ควรมีโครงสร้างระดับเหนือคณะ สำหรับ พัฒนาสถาบันวิจัยที่ต้องมีการบูรณาการต่างศาสตร์ ข้ามคณะ ให้ก้าวข้ามข้อจำกัดของการที่ในเวลานี้ สถาบันวิจัยงอกมาจากคณะ ทำให้มีแนวโน้มยึดติดอยู่ที่ศาสตร์เดียวเป็นหลัก ไม่สามารถทำงานวิจัย ในลักษณะพหุสาขาได้อย่างแท้จริง
ผมกลับมาคิดที่บ้านว่า ผู้บริหารระดับสูงของมหาวิทยาลัย ต้องมีประสบการณ์ และความคิดในด้านการ packaging ศาสตร์ ในรูปแบบใหม่ๆ เพื่อเปิดช่องในการผสมพันธุ์ระหว่างศาสตร์ เกิดผลงานใหม่ๆ และเกิดศาสตร์ใหม่ๆ ที่เป็นศาสตร์ลูกผสม เราเห็นสภาพนี้มากในต่างประเทศ แต่ไม่ค่อยเห็นในประเทศไทย
วิจารณ์ พานิช
๘ มี.ค. ๕๗
ไม่มีความเห็น