ทำไมต้องคิดว่าประเทศไทยมีโอกาสแบ่งแยก?
เชื่อว่าไม่มีใครอยากเห็นประเทศไทยแตกแยก และเราก็ควรจะหาวิธีช่วยกันป้องกันไม่ให้ประเทศไทยเราเดินเข้าสู่จุดนั้นได้อย่างไร แต่ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามหลักคิดที่ เกิดจากการวิเคราะห์ตอนนี้ คือ กลุ่มขั้วอำนาจเก่า และมวลมหาประชาชนที่ตามหลัง กปปส. ยังยืนกรานในข้อเสนอเดิม ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง ไม่เอาการเลือกตั้ง เอานายกฯ คนกลาง โดยการเรียกร้องที่ไม่ให้ผู้ที่คิดต่าง ไม่ว่าจะเป็น ขั้วอำนาจใหม่ หรือพวกที่เอาประชาธิปไตย เอาการเลือกตั้ง ไม่ให้พวกเค้าเหล่านั้นมีที่ยืนเลยในประเทศนี้ แล้วจะมีทางออกให้ประเทศไทยอย่างไร นอกจากมีความสุ่มเสี่ยงต่อการที่ประเทศไทยแตก และเกิดความวุ่นวายอย่างมหาศาล
ฝากถึงมวลมหาประชาชน ที่ตามหลัง กปปส. ให้พิจารณาดูว่าประเทศไทยมีความเสี่ยงขนาดไหน?
ตามหลักคิดและเงื่อนไข ดังต่อไปนี้
1. คนกลุ่มน้อยก่อม๊อบไล่คนกลุ่มใหญ่ของประเทศ
2. โดยธรรมชาติชาวรากหญ้าของประเทศ มีนิสัยที่เฮ เหมือนกัน ถ้าชาวรากหญ้าเหนือ อีสาน เฮ และดันทุรัง เหมือน กปปส. จะเป็นอย่างไร สิ่งที่รัฐบาล หรือขั้วอำนาจใหม่ ได้ใจคนรากหญ้า คือความชอบธรรม ความอยุติธรรมที่ฝ่ายอำนาจเก่าโยนใส่ให้รัฐบาลทุกวิถีทาง และรัฐบาลเรียกร้องความสงสารได้สมบทบาท รอรับทุกอย่างด้วยความอดทนไม่ยอม ตอบโต้อะไรเลย ยิ่งรังแก รัฐบาลยิ่งได้เปรียบ และได้ใจคนรากหญ้า และนี่แหละ คือสิ่งที่ กปปส. และประชาชนที่ตามหลัง กปปส. มองไม่เห็น และคิดว่าตัวเองกำลังจะชนะ เชื่อว่า ความดี ต้องชนะความชั่ว และความชั่วต้องอ่อนกำลังลง บอกได้เลยว่าพวกคุณน่าจะคิดใหม่
3. มีการแบ่งขั้วอำนาจอย่างชัดเจน และทั้งสองขั้วอำนาจก็มีพลังพอๆ กัน ไม่สามารถชนะกันได้อย่างเด็ดขาด สังเกตได้จากตั้งแต่ กปปส. ก่อม๊อบมาตั้งแต่เดือน พย. จนถึงปัจจุบัน ไม่สามารถทำได้ตามที่เรียกร้องได้เลย นายกฯ ก็ไม่ได้ลาออก ทหาร ก็ไม่ปฏิวัติ ปฏิวัติประชาชนก็ไม่ได้ ปิดกรุงเทพก็ไม่สำเร็จนั่นหมายถึงอะไร แสดงว่าลึกๆ ขั้วอำนาจเก่าไม่สามารถชนะได้อย่างง่ายดายเหมือนที่เคยทำและเป็นมาในอดีต ที่สำคัญการกระจายตัวของขั้วอำนาจทั้งสอง แยกกันอย่างชัดเจน ตามสภาพภูมิศาสตร์ คือ เหนือ อีสาน ภาคกลางตอนบน และ ภาคใต้ ภาคกลางตอนล่าง สังเกตได้ว่า เวที กปปส ไม่สามารถตั้งได้เลย แถวเหนือ อีสาน และภาคดังกล่าว ก็สามารถเลือกตั้งได้อย่างปกติ
4. ปัจจัยนี้สำคัญที่สุด คือขั้วอำนาจทั้งสอง ต่างก็ไม่มีที่ยืน จำเป็นที่สุด ที่ต้องหาทางลง และหาที่ยืน ขั้วอำนาจใหม่เค้าครองพื่้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ เค้ายึดหลักกฏหมายและประชาธิปไตย ถ้าขั้วอำนาจเก่า กปปส. หยุด หรือยอม นั่นหมายถึง ขั้วอำนาจใหม่ ได้ครองทั้งประเทศ และขั้วอำนาจเก่า จะยอมได้ไหม? หรือจะคิดว่ายอมสูญเสียพื้นที่ แต่ไม่ยอมสูญเสียผลประโยชน์และอำนาจอีกต่อไป? ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็เดินขบวนก่อม๊อบเรียกร้องต่อไป ไม่ต้องหยุด!!
5. สิ่งที่ท้าทายความสามารถของคุณทักษิณ และคุณทักษิณอยากได้มากที่สุดคือ อำนาจ และการครองโลก นี่คืออีกปัจจัยหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้
6. ปัจจัยอีกอย่างหนึ่งที่สำคัญ ไม่แพ้กัน คือ ประวัติศาสตร์ชาติไทย น่าจะอยู่ที่ประมาณ 800 ปี ตั้งแต่สมัยสุโขทัย ถึงกรุงรัตนโกสินทร์ ยังไม่ยาวนานพอที่จะประสานชาติให้เป็นหนึ่งเดียว และพื้นที่บางส่วนก็ยังมีการประกอบเพิ่มใหม่ในสมัยรัชกาลที่ 5 อย่างเช่นภาคใต้ 3 จังหวัด ฯลฯ แล้วอย่างนี้จะให้คนในชาติรักในความเป็นชาติไทยพอที่จะไม่สามารถแตกได้เป็นไปได้มากแค่ไหน อย่างไร ? ตัวอย่างการที่ยังไม่สามารถประสานวัฒนธรรมได้ได้เลยคือ สามจังหวัด ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส และวัฒนธรรมที่แตกต่างกันนี้แหละทั้งภาคเหนือ อีสาน กลางและใต้ ยังไม่สามารถประสานวัฒนธรรมกลืนกันได้พอ
จากหลักคิดที่พิจารณาจากปัจจัยทั้ง 6 ข้อ จะเห็นว่าประเทศไทยมีความสุ่มเสี่ยงสูงมากในเกิดความวุ่นวาย จนนำไปสู่การแยกประเทศ ดังนั้น ถ้าทุกอย่างยังไม่หยุด กปปส. ยังยืนยันเหมือนเดิม ไม่แน่ อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้เสมอ
สติของคนไทยเท่านั้น ที่ช่วยประเทศไทยได้ !!!
26 กุมภาพันธ์ 2557
ความเห็น (4)
มาฟัง ๆ ครับ ;)...
ขอบคุณมากคะ เกือบทุกข้อเขียนผ่านการกรองมาเป็น 100 คอมเม้นในเฟสบุ๊คคะ เพราะเพื่อนๆ ส่วนใหญ่ เป็น กปปส. ,ฝ่ายประชาธิปไตย ซึ่งแน่นอนว่าถูกกล่าวหาว่าเป็นขี้ข้าทักษิณ จริงๆ จะเป็นฝ่ายไหนก็ไม่สำคัญหรอกคะ สำคัญที่ว่าเราต้องรู้ทันเกมส์การเมือง และรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย และถ้าเรารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย และมีความรุนแรงขนาดไหนแล้วเราเลือกไม่เป็นไรคะ เพราะทุกคนต้องเคารพในการตัดสินใจซึ่งกันและกัน
ชอบและติดตามข้อเขียนซึ่งผ่านการวิเคราะห์มาแล้วอย่างดีค่ะ แต่ข้อ 5 มาได้อย่างไร
เราคงไม่สามารถยืนยันข้อนี้ได้นะคะ
เรียนคุณ GD ข้อ 5 หรือคะ มาจากความเห็นของชาว กปปส. คะ เห็นเค้ายืนยันนักยืนยันหนา ก็เลยให้เครดิตเค้าไม่อยากจะตัดออกคะ ซึ่งความเป็นจริง เป็นอย่างไร เราก็ไม่อาจจะทราบได้คะ