วันนี้ขอเล่าเรื่องพิธี"ทิวา" คือการจัดการงานศพครั้งที่สองของชนเผ่าในเกาะบอร์เนียว อินโดนีเซีย เป็นตอนจบนะคะ
หลังจากทำพิธีบูชายัญด้วยสัตว์ใหญ่ ตัดหัวสัตว์ และเอาเลือดมาทาหน้า ทาตัวผู้ร่วมงานเพื่อให้มีความโชคดีมีสุขกันทุกคนแล้ว ก็จะนำกระดูกผู้ตาย มาประพรมเครื่องหอมอีกครั้ง ห่อด้วยผ้าสีสดใส แล้วนำเข้าไปไว้ในบ้านหลังน้อย
ต่อจากนั้นจะเป็นพิธีกรรมสำคัญ ขั้นตอนสุดท้ายของพิธีทิวา นั่นคือ หมอผี จะร่ายเวทมนตรา ขับเป็นทำนองเสนาะ เพื่อเป็นการสวดนำดวงวิญญาณ ให้เดินทางสู่หมู่บ้านอันรุ่งเรือง ในปรโลก กล่าวกันว่า เมื่อเสียงสาธยายมนตราเริ่มขึ้น ดวงวิญญาณ จะกลับมีชีวิตชีวา รับรู้ด้วยความสุข และเริ่มการเดินทางตามเสียงสวดนั้น ดวงวิญญาณจะเดินเรียบตามชายน้ำที่เย็นสบายไปเรื่อยๆ จนสุดสิ้นเส้นทาง จากนั้นก็เริ่มเดินทางต่อไปตามแสงของดวงดาว แสงระยิบระยับเบื้องหน้า นำทางด้วยความอบอุ่น เสียงสวดส่งห่างไกลออกไปทุกที เป็นเวลาที่ดวงวิญญาณ ก็เดินทางใกล้จุดหมายทุกทีเช่นกัน ที่สุดก็เดินทางมาถึงหมู่บ้านอันอุดมสมบูรณ์ เจริญรุ่งเรืองยิ่งกว่าเมืองในโลกมนุษย์ไหนๆ สิ่งต่างๆที่เพรียบพร้อมอยู่เบื้องหน้านี้ คือผลแห่ง พิธี"ทิวา" ที่ญาติๆ ได้กระทำไว้ให้ตามจารีตประเพณี ที่สืบต่อกันมาอย่างเชื่อมั่นทุกขั้นตอน
เรื่องราวของชาวเกาะบอร์เนียว เกี่ยวกับพิธีกรรมงานศพนั้น ก็ได้จบลงอย่างสมบูรณ์แบบ แม้ว่าจะมีทั้งเรื่องราวอ่อนโยนตรึงใจ และความหฤโหด เช่นการนำชีวิตสัตว์มาบูชายัญในพิธีหลายครั้ง หลายชีวิต แต่แท้จริงแล้ว ล้วนเป็นการกระทำที่เกิดจากความรัก และต้องการทำให้คนที่ตนรักนั้น เปี่ยมไปด้วยความสุขในโลกหน้า เราจึงตัดสินไม่ได้ว่า สิ่งใดผิด สิ่งใดถูก คงต้องยกให้เป็นเรื่องของเจตนา และจิตใจโดยเฉพาะ
สำหรับผู้เขียนเอง ก็ไม่คุ้นชินกับสิ่งที่ได้เห็น จึงรู้สึกหวาดหวั่นไปกับทุกขั้นตอน แต่สุดท้าย ก็ยอมรับ และเรียนรู้กับโลกกว้าง ในอีกมุมหนึ่งที่ไม่เคยพบเจอมาค่ะ
วัฒนธรรม ความเชื่อ ของชนเผ่า ทำให้เราได้เรียนรู้อีกรูปแบบหนึ่ง นะคะ ขอบคุณค่ะ
หวาดเสียวตรงเอาเลือดสัตว์มาทางหน้า ทาตัว
กลัวติดโรค (ที่เราก็ยังไม่รู้ แต่เสี่ยง)