Amazing Turkey ตอนที่ 2 Hot Air Balloon, Underground city of Kaymakli and Photo Stop

Amazing Turkey ตอนที่ 2 Hot Air Balloon, Underground city of Kaymakli and Photo Stop

            วันที่สองของการท่องเที่ยว  เริ่มต้นโดยการตื่นแต่เช้าเพื่อไปขึ้น Hot Air Balloon ซึ่งอันนี้จะต้องจ่ายเงินเพิ่มเอง คือเป็น Optional Tour ถ้าใครไม่ไปโปรแกรมนี้ก็รออยู่ที่โรงแรม  เราก็เลยเลือกที่จะไปค่ะ ต้องลองซะหน่อย  ราคาต่อคน (เด็ก 6-12 ปี คิดครึ่งราคา) ราคามีดังนี้ 200 USD หรือ 145 Euro หรือ 445 TLA โดยถ้าจ่ายเป็นเงินสดก็จ่ายที่ไกด์ได้เลย ถ้าไม่ได้เตรียมเงินมาก็มีให้รูดการ์ดได้โดยต้องไปรูดที่สถานีของ Balloon ตอนแรก local guide บอกว่ารูดการ์ดมี 10% charge ก็พยายามจ่ายเป็นเงินสดเท่าที่ได้ และที่เหลือก็รูดการ์ดนิดหน่อย  รูดเป็นสกุล TLA

เรานั่งรถตู้ของบริษัท Balloon จากโรงแรมไปสถานีก่อน ขึ้นรถก็แจกของกินก่อนเลย เป็นพวกน้ำผลไม้และขนมปัง

 

วิวสวยๆ ถ่ายจากสถานีของบอลลูนค่ะ ไม่ได้ขึ้นที่นี่ มาเตรียมความพร้อมและจ่ายตังค์กันก่อนค่ะ  ที่นี่จะมีห้องรับรองพร้อมกับของกินเป็นอาหารง่ายๆ ยามเช้า เช่น กาแฟ ชา ขนมปัง ฯลฯ เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย

 

 

แต่งตัวกันจัดเต็มมาก เพราะเค้าบอกว่าขึ้นไปข้างบนจะหนาว อุณหภูมิเลขตัวเดียวประมาณ 2-3 องศาเซลเซียส  เมื่อพร้อมก็ออกเดินทางไปเพื่อขึ้น Balloon  

ไปถึงเราก็เห็น Balloon แฟ่บๆ วางอยู่ ได้เห็นวิธีการอัดความร้อนเข้าไป  ตอนแรก Balloon จะนอนอยู่แบบนี้นะคะ เค้าก็จะพ่นไฟเข้าไปก่อน 

จนกระทั่งมีพองได้ที่ และสามารถตั้งขึ้นได้ เค้าก็จะให้เราเข้าไปอยู่ในตะกร้า ซึ่งจะแบ่งเป็น 4 ช่อง ใส่คนได้ช่องละ 5 คน ดังนั้น Balloon 1 ลูก จะบรรจุคนขึ้นไป 20 คน นักบิน 1 คน รวมเป็น 21 คน 

กำลังจะบินขึ้นแล้ว  ดูแววตาเด็กสิคะ เค้ากำลังตื่นเต้น...

ก่อนที่จะบินขึ้น นักบินก็จะแนะนำตัวเอง และสอนให้พวกเราทำ landing position ซึ่งก็จะมีภาพให้ดูว่า ทำยังไง เพราะจะต้องใช้ท่านี้เวลาจะลงจอด สำหรับเด็ก เค้าให้ผู้ใหญ่ล็อคไว้ และเอามือผู้ใหญ่ข้างนึงบังหน้าผากไว้  คงจะเผื่อหัวโป๊กค่ะ

เริ่มบินแล้วค่ะ นี่เป็น Balloon ลูกข้างๆ นะคะ

 

นักบินเค้าจะบังคับทิศทางการไป และการขึ้นลงของ Balloon ด้วยอันนี้แหละค่ะ เหมือนจะเป็นตัวปล่อยก๊าซออกมา เสียงดังอยู่เหมือนกัน

นี่เป็นบ้านนกพิราบที่ชาว Cappadocia ทำไว้เลี้ยงนกพิราบด้วย เพราะเมื่อก่อนไม่มีโทรศัพท์  เค้าก็จะสื่อสารกันด้วยนกพิราบค่ะ  

คือผู้เขียนนี่เป็นคนกลัวความสูงสุดๆ เลย เวลาไปขึ้น cable car ที่ไหนก็จะพยายามมองไปข้างหน้า มองลงต่ำไม่ได้เลย ขาจะสั่นทันที  อันที่จริง Balloon นี่ก็กลัวอยู่  แต่ก็คิดว่า ไหนๆ ก็มาละ ลองดูสักทีละกัน  ปรากฏว่า ไม่น่ากลัวเลยค่ะ เพราะมันจะค่อยๆ ขึ้นไป  ขึ้นๆ ลง  และเราก็จะมองเห็นวิวรอบด้าน  สวยงามมากเลยค่ะ ประทับใจสุดสุด  เป็นไงคะ วิว งามที่สุดเลย 

เด็กท่าทางจะประทับใจมาก ถ่ายรูปใหญ่เลย

 

ผู้ใหญ่ก็ดูอินกับวิวทิวทัศน์

พอ Balloon ลงจอด เจ้าหน้าที่ก็จะมาคอยเตรียมเก็บละค่ะ

ขณะที่เรากำลังตื่นเต้นกับการเก็บ Balloon ของเค้าและสนุกสนานกับการถ่ายรูป  เค้าก็จะมีการเตรียมแชมเปญเลี้ยงพวกเราด้วย  

สำหรับเด็กก็จะเป็นน้ำหวานค่ะ  นอกจากนั้นก็มี special เพราะมีฝรั่งคนนึงเกิดวันนี้ เค้าก็มีเค้ก Happy Birthday ด้วย  แชมเปญอร่อย  เค้กก็อร่อย  อิ่มกันเลยล่ะค่ะ  เสร็จแล้วเค้าก็มี Certificate ให้ด้วย คนละใบ มีชื่อเจ้าของพร้อม

 

กลับโรงแรมไปกินอาหารเช้ากันค่ะ เป็นอาหารบุฟเฟต์เหมือนเคย

จากนั้นก็ออกเดินทางไปยังนครใต้ดินหรือ Underground city of Kaymakli 

ที่นี่เป็นเมืองใต้ดินที่มีครบทุกอย่าง ทั้งห้องโถง ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องถนอมอาหาร ห้องครัว ห้องอาหาร ห้องทำไวน์ โบสถ์ ทางหนีฉุกเฉิน ฯลฯ ซึ่งสาเหตุที่แท้จริงของการสร้างเมืองใต้ดินปัจจุบันยังสรุปไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่ลงความเห็นว่าเป็นการสร้างเพื่อเป็นที่หลบภัยจากศัตรู (โดยเฉพาะพวกทหารโรมัน) แม้จะเป็นเมืองขนาดใหญ่ขุดลึกลงไปใต้ดินหลายชั้น แต่ว่าอากาศในนั้นกลับถ่ายเทเย็นสบายเนื่องจากเป็นดินภูเขาไฟ  คือทุกอย่างเป็นดิน ไม่มีเสาสักต้นเลย   แต่ก็ดูมั่นคงแข็งแรง  เราเดินกันไปตามทางเดินแคบๆ เพื่อชมห้องต่างๆ  ในใจก็คิดไปว่า คนอ้วนๆ จะเดินยังไงเนี่ย สงสัยสมัยก่อน คงจะไม่ค่อยมีคนอ้วนกะคนสูงสักเท่าไหร่

เข้าทางนี้ค่ะ ต้องลงไปใต้ดินจากทางนี้

 

ด้านนอกเป็นร้านขายของที่ระลึก สวยงาม มากมาย

 

 

เด็กตุรกี กำลังเล่นกับแมวตุรกี

ตามธรรมเนียมของการท่องเที่ยวกับทัวร์ ก็จะต้องมีโปรแกรมบังคับให้ไปชมสถานที่ผลิตสินค้าประจำชาติ  อันดับแรก เค้าพาเราไปชมโรงงานผลิตเครื่องประดับ  ต่อด้วยโรงงานผลิตพรมที่ขึ้นชื่อของประเทศตุรกี  เค้าก็มีพิธีกรมาพูดคุย สาธิตวิธีการทำพรมว่าจะต้องมีเส้นด้ายแบบไหน กี่เส้น การตัดด้ายทำยังไง และก็เชิญชวนให้ซื้อสินค้าเป็นขั้นตอนสุดท้าย  แต่ขอบอก ราคาแพงมากเลยค่ะสมคุณภาพของเค้า  พอมีคนซื้อก็จบรายการ  กลับไปขึ้นรถเพื่อไปกันต่อ อ้อ ทุกที่จะมีชาแอปเปิ้ลให้เรากินฟรี อร้อย อร่อย

 

เวลาถักพรมนี่เขาก็จะมีลวดลาย แบบ เหมือนเราปักแผ่นเฟรม หรือปักครอสติซ เลยค่ะ

 

อาหารกลางวันวันนี้กินกันที่ภัตตาคารนี้ค่ะ หน้าตาอาหารก็คล้ายๆ เดิม กินแบบเดิมๆ

 

เป็นอาหารแบบบุฟเฟต์เช่นเคย  จากนั้นก็ต่อด้วยโรงงานทำเซรามิก  แหม ถ้าซื้อเซรามิคกลับมาลำปางนี่ เค้าจะว่ายังไงกันน้อ...แต่ของเค้าสวยจริงๆ ค่ะ ลวดลายก็ไม่เหมือนบ้านเรา  ความละเอียดแตกต่างกัน  สีที่ใช้ก็แตกต่างกัน  ราคาก็แตกต่างกันไปด้วย แพงตามฟอร์มค่ะ  มีคนซื้อติดไม้ติดมือกลับมาด้วยหลายคน

เผลอแว้บเดียว เจ้าตัวเล็กก็ไปคุยอะไรกับคนที่เป็นพิธีกรสาธิตวิธีการทำเซรามิคซะงั้น

อันที่จริงโปรแกรมการทัวร์โรงงานต่างๆ ถ้าไม่คิดอะไรมาก ก็เหมือนกับเรามาดูงาน มาเรียนรู้วิธีการทำของต่างๆ คิดว่าสนุกก็สนุกนะคะ เพราะบางคนก็จะบ่นเบื่อว่าพามาเพื่อจะให้ซื้อของ... 

จากนั้นเค้าก็พาชมเมือง  ก็คือทางผ่านกลับมาโรงแรมนั่นแหละค่ะ  และก็มี Photo stop ก็คือ ที่ปล่องไฟนางฟ้า  ซึ่งในปี ค.ศ.1985 ยูเนสโก ได้ประกาศให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมแห่งแรกของประเทศตุรกี  ที่นี่มีสาวๆ ชาวตุรกี มาขอถ่ายรูปกะผู้เขียนด้วยค่ะ เค้าคิดว่าเราเป็นใครเนี่ย...

ต่อด้วย หมู่บ้านนกพิราบ และอีกที่หนึ่ง จำชื่อไม่ได้แล้ว แต่สวยพอกันเลยค่ะ 

สองพ่อลูกคู่นี้เค้าจะมีท่าประจำอยู่  ไปที่ไหนก็จะถ่ายรูปท่านี้กัน

จากนั้นกลับโรงแรมเพื่อไปเตรียมตัวรับประทานอาหารค่ะที่ภัตตาคารและชมโชว์ระบำหน้าท้อง และการเต้นระบำพื้นบ้านของที่นี่  สวยงามประทับใจมาก สาวๆ ที่เต้นระบำหน้าท้องก็จะต้องไว้หน้าท้องนิดนึงนะคะ

ที่นี่เค้ามีเหล้าพื้นเมืองของเค้าให้มาชิมด้วยค่ะ รสชาดก็ไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่ ขมมากเลย (ลองชิมดู) เรียกว่า "ราคึ" เวลาผสมต้องใส่น้ำเยอะมากมากเลย

โปรแกรมวันนี้ยาวนานมากเลย  แต่ก็สนุกมากเช่นกัน กลับที่พักก็ดึกมากแล้ว รอติดตามตอนที่ 3 ต่อนะคะ จะเริ่มเข้าเมืองกันแล้วค่ะ ที่เล่ามา 2 วันนี่อยู่บ้านนอกอยู่เลยนะคะ ยังไม่เฉลียดเข้าใกล้เมืองเล้ย...

 

 

 

[Pojana Yeamnaiyana Ed.D.]

ติมตามมาอ่าน...Amazing Turkey ตอนที่2 ...สนุก...ตื่นเต้น และสวยงาม...มหัศจรรย์หมู่บ้านนกพิราบมากค่ะ

[Yong]

ตื่นเต้นกับความสูง

ขอบคุณครับ ภาพสวยๆๆ จาก Capadocia ^_^