ข้อคิดที่ได้จากภาพยนตร์ Amazing grace

     ภาพยนตร์เรื่อง amazing grace เป็นภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับ การคุ้มครองสิทธิมนุษยชน โดยแสดงออกมาผ่านการผลักดันให้มีการเลิกทาส แต่เนื่องจากการเลิกทาส เป็นสิ่งใหม่ของประเทศอังกฤษ ทั้งสภาก็ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว เพราะเห็นว่าจะทำให้ระบบเศรษฐกิจของประเทศเสียหาย ทั้งยังมองว่าคนผิวสี มิได้มีสิทธิเท่าเทียมกับคนผิวขาว แต่ด้วยความพยายามของตัวเอกในเรื่อง ก็ได้มีการผลักดัน จนร่างกฎหมายการเลิกทาสดังกล่าว ได้ถูกนำมาบังคับใช้ อันนำไปสู่การเลิกทาสในที่สุดได้ ซึ่งตัวผู้เขียนเอง ได้ข้อคิดที่สำคัญจากการดูภาพยนตร์ดังต่อไปนี้

     ประการแรก ตัวผู้เขียนเห็นว่า ในอดีตนั้น ไม่มีแนวคิดเกี่ยวกับความเท่าเทียมกันของมนุษย์ จึงเกิดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ซึ่งสะท้อนออกมาให้เห็นจากการที่ คนผิวขาว มองคนผิวดำว่า มิได้มีฐานะเท่าเทียมกับตน มองว่าเป็นผู้ที่มีฐานะต่ำต้อยกว่า ทำให้ได้รับปฏิบัติเยี่ยงทาส เป็นชนชั้นล่างในสังคม เหล่านี้นี่เอง เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึง การขาดแนวคิดเรื่องความเท่าเทียมกันของมนุษย์ ซึ่งมนุษย์ทุกคนพึงมี ไม่ว่าจะมีเพศ เชื้อชาติใด หรือมีความคิดเห็นต่างกันอย่างไร ก็ควรจะได้รับการปฏิบัติอย่างเช่นมนุษย์คนหนึ่ง มิใช่เกิดความเหลื่อมล้ำในการปฏิบัติต่อกัน ในฐานะที่เป็นมนุษย์เหมือนกันเช่นนี้

     ประการที่สอง ตัวผู้เขียนเห็นว่า สิทธิมนุษยชนนั้น หากจะอธิบายในเชิงนามธรรม เป็นเรื่องที่ทำได้ง่าย แต่การจะประพฤติปฏิบัติให้เกิดเป็นรูปธรรมนั้น ทำได้ยาก โดยเห็นได้จากการพยายามเสนอแนวคิดของตัวเอกในเรื่อง ว่าสาระสำคัญ และเนื้อหา ซึ่งตนมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการเลิกทาส อันเป็นการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนนั้น มีเนื้อหา และสาระสำคัญเช่นไรในเชิงนามธรรม แต่ในส่วนของการทำให้เป็นรูปธรรมนั้น สภาไม่เห็นถึงประโยชน์ที่ได้จากการเลิกทาสแต่อย่างใด คงเห็นแต่โทษที่เกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศเท่านั้น ทำให้ร่างกฎหมายการเลิกทาสดังกล่าว ไม่อาจได้รับความเห็นชอบจากสภา และเกิดผลในทางปฏิบัติได้ยาก 

     ประการที่สาม แนวคิดเรื่องความเท่าเทียมกันของมนุษย์ทุกคนนั้น แม้จะเป็นเรื่องยากที่จะกระทำ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำไม่ได้ โดยผู้เขียนได้ข้อคิดในด้านความพยายามของตัวเอกในเรื่องอย่างเด่นชัด ที่มีความพยายามและแน่วแน่ ที่จะผลักดันร่างกฎหมายการเลิกทาสให้มีผลบังคับใช้ให้ได้ และแม้จะมีอุปสรรคมากมายเพียงใด ตัวเอกในเรื่ิองก็สามารถผ่านพ้นปัญหาไปได้ ทั้งยังมีรณรงค์ให้เกิดการต่อต้านการค้าทาส ซึ่งถือเป็นการต่อสู้เพื่อให้เกิดการเลิกทาส อันนำไปสู่ความเท่าเทียมของมนุษย์ทุกคน และในที่สุดร่างกฎหมายดังกล่าวก็เกิดผลบังคับใช้ได้

     ดังนี้ ผู้เขียนจึงเห็นว่า ภาพยนตร์ดังกล่าว เป็นภาพยนตร์ที่เต็มไปด้วยข้อคิด ตลอดจนแรงบันดาลใจต่างๆ ซึ่งอาจก่อให้กับอีกหลายๆคน ที่ได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ ภาพยนตร์ดังกล่าวนี้ จึงเป็นภาพยนตร์ที่มีประโยชน์ทั้งต่อตัวผู้เขียนเอง และต่อสังคมเป็นอย่างมาก