ข้อคิดที่ได้จากภาพยนตร์ amazing grace


           จากการที่ได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้ ประการแรกทำให้ข้าพเจ้าได้เห็นว่าในอดีต คนในสังคมหากอยู่ในระดับสังคมที่ต่างกัน สีผิวต่างกัน ชนชั้นต่างกัน จะมองคนที่ต่างชนชั้นจากตน สีผิวจากตนนั้นว่า ผู้นั้นไม่ใช่คนที่เท่าเทียมกับตน ซึ่งในปัจจุบันนี้ยังมีให้เห็นอยู่  โดยจากภาพยนตร์ได้มีฉากที่ ดยุคท่านหนึ่งได้เล่นพนันกับวิลเลียม วิลเบอร์ฟอร์ซ หากวิลเลียม วิลเบอร์ฟอร์ซได้ชนะพนันทาสผิวสีคนหนึ่งที่ดยุคกล่าวว่ามีค่าถึง 25 กินี จะตกเป็นของวิลเลียม วิลเบอร์ฟอร์ซซึ่งสร้างความไม่พอใจกับวิลเบอร์ฟอร์ซเป็นอย่างมาก ซึ่งแสดงให้เห็นว่าในสมัยนั้นหากเป็นทาส ชีวิตสามารถประเมินราคาได้ สามารถซื้อขายได้ โดยคนเป็นทาสไม่สามารถโต้แย้งหรือขัดขืนใดๆ ได้ แสดงให้เห็นถึงความไม่เท่าเทียมที่เกิดขึ้น ทั้งๆที่มนุษย์ทุกคนต่างเท่าเทียมกัน

         ซึ่งในปัจจุบันได้มีหลักปฏิญญาสากลว่าด้วยเรื่องสิทธิมนุษยชนเป็นมาตรการสร้างสิทธิมนุษยชนให้เกิดขึ้นในโลกโนคนทุกคนต่างก็เท่าเทียมกัน ไม่ได้หากเป็นทาสจะต้องถูกล่ามโซ่ ตีตรวนทำงานในนายทาส โดยหลักปฏิญญาสากลว่าด้วยเรื่องสิทธิมนุษยชน ได้มีมาตราที่กำหนดถึงกรอบถึงสิทธิของมนุษย์ เช่น ข้อ1 เกิดมามีอิสระเสรี เท่าเทียมกันทั้งศักดิ์ศรีและสิทธิ ทุกคนได้รับการประสิทธิ์ประสาทเหตุผลและมโนธรรม และควรปฏิบัติต่อกันมนุษย์ทั้งหลายทั้งหลายอย่างฉันพี่น้อง ข้อ3บุคคลมีสิทธิในการดำเนินชีวิต ในเสรีธรรมและในความมั่นคงแห่งร่างกาย ข้อ4 บุคคลใดจะถูกบังคับให้เป็นทาส หรืออยู่ในภาระจำยอมใดๆมิได้ การเป็นทาสและการค้าทาสจะมีไม้ได้ทุกรูปแบบ ข้อ5 บุคคลใดจะถูกทรมานหรือได้รับการปฏิบัติ หรือลงทัณฑ์ซึ่งทารุณโหด ไร้มนุษยธรรมหรือเหยียดหยามเกียรติมิได้  เป็นต้นซึ่งแสดงให้เห็นว่าในปัจจุบันนี้ประเทศทั่วโลกต่างยอมรับว่าคนทุกคน ไม่ว่าเชื้อชาติ สีผิว ชนชั้น ต่างเป็นคนที่เท่าเทียมกัน ต่างมีสิทธิ์ที่จะกำหนดในการดำเนินชีวิตของตนเอง

          ประการที่สองจากการที่เสนอร่างกฏหมายการเลิกค้าทาสของวิลเลียม วิลเบอร์ฟอร์ซนั้นได้ใช้ระยะเวลากว่า 18 ปีจากการที่เสียงส่วนใหญ่ในรัฐสภาไม่เห็นด้วยในกฎหมายนี้แสดงให้เห็นว่าในหลักประชาธิปไตยที่มีหลักสำคัญคือ การเคารพเสียงส่วนใหญ่นั่นเอง ซึ่งทำให้กฎหมายฉบับนี้ตกไป แต่กระนั้นก็ตามการค้าทาสเป็นเรื่องการก้าวล้ำสิทธิมนุษยชนซึ่งเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ ซึ่งทำให้วิลเลียม วิลเบอร์ฟอร์ซหาได้ย่อท้อต่ออุปสรรคที่เกิดขึ้น เขาพยายามหาวิธีการในการทำให้การค้าทาสหมดไปโดยร่วมมือกับกลุ่มคนที่มีความเห็นตรงกันเช่น เอลควาริโน่ โทมัส คล้ากสัน โดยเขาใช้ทั้งทางการเสนอในสภา การโน้นน้าวจิตใจ แต่หาได้สำเร็จไม่ จนกระทั่งได้มีผู้เสนอแนวคิดให้เกิดการห้ามเรือที่มีธงชาติของประเทศสหรัฐอเมริกาเข้ามาค้าขายซึ่งเรือส่วนใหญ่เป็นเรือที่ค้าทาสซึ่งทำให้ การค้าเหล่านั้นขาดทุน โดยชนชั้นสูงในประเทศอังกฤษล้วนมีความเกี่ยวข้องในการค้านี้  ซึ่งจากการดำเนินการตามวิธีนี้ กฎหมายจึงผ่านและกำหนดออกใช้ได้ แสดงให้เห็นว่ามนุษย์นั้นคิดถึงแต่เรื่องของตนเอง ไม่สนใจเรื่องความทุกข์ของคนอื่น จนกระทั่งมีภัยเกิดขึ้นกับตัว

                ในปัจจุบันแม้ในโลกจะมีการออกกฎหมายในเรื่องสิทธิมนุษยชนต่างๆ นั้นหาได้ทำให้ปัญหานี้หมดไปไม่ จากการที่มนุษย์ยังมองเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเองไม่เท่าเทียมกับตน มุ่งหาผลประโยชน์โดยไม่คำนึงถึงชีวิตผู้อื่น ปัญหานี้ยังปรากฏอยู่นั่นเองไม่ว่าจะเป็น ปัญหาการค้ามนุษย์ การค้าประเวณี การใช้แรงงาน เป็นต้น ซึ่งในประเทศไทยได้ออกกฎหมายว่าด้วยเรื่องสิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาคของประชาชนในประเทศแต่หาได้ทำให้ปัญหาในเรื่องสิทธิมนุษยชนหมดไปไม่ โดยเฉพาะปัญหาการเหลื่อมล้ำทางสังคม ซึ่งเราทุกคนต้องมุ่งหาทางแก้ปัญหาต่อไป

หมายเลขบันทึก: 565195เขียนเมื่อ 1 เมษายน 2014 22:36 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 พฤษภาคม 2014 03:22 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท