Amazing Turkey ตอนที่ 1 การเดินทางไปตุรกี พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง Goreme
Amazing Turkey 21-27 March 2014
เปลี่ยนบรรยากาศสักทริป จากเดิมที่เคย backpack ครั้งนี้เดินทางไปกับทัวร์ค่ะ ค่าทัวร์ราคา46,500 บาท ไม่มีราคาเด็ก คือจ่ายเท่ากันทั้งเด็กผู้ใหญ่นั่นเอง บันทึกนี้ก็เลยอยากจะเล่าเรื่องราวที่ได้พบและความรู้สึกเมื่อได้ไปเยือนตุรกี หลายๆ อย่างที่พบเจอที่นั่น Amazing จริงๆ
เราเดินทางจากลำปางโดยบางกอกแอร์เวย์ ผู้ใหญ่ 2 เด็ก 1 ท่ามกลางหมอกควันที่หนาแน่นมาก และการภาวนาว่าอย่าให้ถึงกับมีปัญหาเครื่องบินลงไม่ได้เลย เพราะไม่กี่วันก่อนเดินทาง เครื่องบินจากกรุงเทพ มาลำปาง ไม่สามารถบินลงได้เนื่องจากหมอกควันหนามาก จึงต้องเอาผู้โดยสารไปลงที่เชียงใหม่ ส่วนคนที่จะเดินทางไปจากลำปาง ก็ต้องนั่งรถตู้ไปยังสนามบินเชียงใหม่เพื่อขึ้นเครื่องไปกรุงเทพฯ แต่เราก็โชคดี วันนี้ไม่มีปัญหามากถึงขั้นเครื่องบินไม่สามารถลงได้ จากลำปางถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ และทันเวลานัดหมาย จากนั้นก็เดินทางต่อโดยสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ (TK) จากสนามบินสุวรรรภูมิ ไปยังนครอิสตันบูล ประเทศตุรกี
เราแลกเงินไปสองสกุล คือแลกเป็น USD และก็เงินยูโร ไปอย่างละนิดหน่อย เพราะว่าตุรกีเค้ารับเงินเหล่านี้ด้วย แต่ที่ประเทศเค้าใช้เงินสกุล ลีร่า หรือ TLA ซึ่งเราสามารถไปแลกเงิน ลีร่า ได้ที่สนามบินกรุงอิสตันบูล
เวลาที่ประเทศตุรกี จะช้ากว่าที่เมืองไทย 5 ชั่วโมง เราอาศัยอยู่บนเครื่องบินกันประมาณ 10 ชั่วโมง พอขึ้นเครื่องบินก็ออกเดินทางประมาณเกือบๆ เที่ยงคืน สักพักก็มีการเสิร์ฟอาหาร แต่ ณ จุดนั้น กินไม่ไหวแล้ว เพราะง่วงมากมาก ก็เลยบายไปค่ะ นอนดีกว่า ตื่นมาค่อยกินละกัน...
ถึงกรุงอิสตันบูลก็ไปผ่าน ตม ซึ่งไม่ได้ยากลำบากอะไรเลย ไม่ต้องเขียนใบ immigration ด้วย รับกระเป๋าแล้วก็ออกมารอข้างนอก เพื่อเตรียมตัวไปต่อเครื่องบินและแลกเงินเป็นสกุล ลีร่า (TLA) มีคนรออยู่เยอะแยะเลยค่ะ บ้างก็นั่ง บ้างก็นอน
แล้วต่อเครื่องบินในประเทศเพื่อไปยังสนามบินเมืองไคเซรี่
ระหว่างเดินไปก็มีป้าย No Smoking
บรรยากาศในนี้ก็เหมือนๆ กันค่ะ
เครื่องบินในประเทศลำเล็กกว่าหน่อยค่ะ นี่เป็นบรรยากาศในเครื่อง
ไปถึงก็เกือบเที่ยงแล้ว ระหว่างการเดินทางก็ไม่มีอุปสรรคอันใด ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดีเนื่องจากถูกเตรียมไว้หมดแล้ว สบายอย่างนี้นี่เองมากะทัวร์นี่
ก้าวแรกที่ลงจากเครื่องบินเมืองไคเซรี่ก็คือ แดดจ้ามาก ฟ้าเป็นสีฟ้า แต่หนาวค่ะ เย็นจัง ชอบมากอากาศแบบนี้
รับกระเป๋าเสร็จแล้วก็ขึ้นรถบัสที่ทางทัวร์ได้จัดเตรียมไว้แล้วพร้อมกับ local guide ชาวตุรกี ต่อด้วยอาหารกลางวันที่ร้านนี้
สเตปของอาหารที่นี่เค้าก็จะมีขนมปังวางอยู่ที่โต๊ะอาหาร 1 ตะกร้า และมีสลัดให้คนละจาน เสิร์ฟซุปกินกะขนมปัง ต่อด้วยอาหารที่มีข้าวมันๆ ปริมาณไม่เยอะ วันนี้กินข้าวกะปลาตุรกีค่ะ
วิวด้านนอกร้าน มีที่ให้ถ่ายรูปกับบรรยากาศ Blue Sky จริงๆ ค่ะ
มีร้านขายของที่ระลึกด้วย พอเดินเข้าไป คนขายก็ทักว่า "หนี ห่าว" อ้าว เค้านึกว่าเราเป็นคนจีน ก็เลย ทักตอบว่า "สวัสดีค่ะ" อิอิ ก็เลยคุยกันค่ะ เค้าก็ถามว่าเรามาจากที่ไหน คำทักทายของประเทศไทยต้องพูดว่ายังไง และเค้าก็ถามอีกว่า คำว่า Beautiful ต้องพูดว่ายังไง เค้าบอกว่า ยู บิ้วตี้ฟูล ก็เลยบอกว่า ต้องพูดว่า "สวย" เค้าทวนคำพูดว่า "ซวย" ก็เลยบอกว่า ช่างมันเถอะ...
ที่แรกที่เค้าพาไปเที่ยวก็คือพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง Goreme
ที่ซื้อตั๋วเข้าชมอยู่นี่ค่ะ แต่พวกเราไม่ต้อง ไกด์จัดมาแล้ว เสร็จแล้วก็เดินเข้าประตูกันเลย เค้าจะมีเจ้าหน้าที่รอรับตั๋วของเรา แล้วเอาไปเสียบเข้ากับเครื่องอ่านบาร์โค้ด ประตูก็จะเปิดให้เราผลักที่กั้นเข้าไปได้
ที่นี่เป็นลักษณะถ้ำต่างๆ ที่ถูกขุดเป็นที่อยู่อาศัย และมีโบสถ์ที่มีภาพเขียนเล่าเรื่องราวของพระเยซู สวยงามมากเลยค่ะ ถ้าต่างๆ เค้าไม่ให้ถ่ายภาพ ดังนั้นไกด์จึงใช้ภาพจากหนังสืออธิบายให้พวกเราฟังก่อนที่จะแยกย้ายเข้าไปชมความสวยงามของภาพวาดและถ้ำต่างๆ
เค้าบอกว่าที่นี่เป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ในช่วง ค.ศ. 9 ซึ่งเป็นความคิดของชาวคริสต์ที่ต้องการเผยแพร่ศาสนาโดยการขุดถ้ำเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างโบสถ์และยังเป็นการป้องกันการรุกรานจากชนเผ่าลัทธิอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับศาสนาคริสต์ ก่อนที่ศาสนาคริสต์จะเผยแพร่ในคัปปาโดเกีย ผู้คนแถบนี้จะนับถือเทพเจ้ากรีก โรมัน จนเมื่อประมาณกลางคริสต์ศตวรรษที่ 1 เซนต์ปอล เดินทางมาเผยแพร่ศาสนาคริสต์ในคัปปาโดเกีย แต่ดูเหมือนว่าชาวโรมันผู้ปกครองในยุคนั้นไม่ให้การยอมรับ ทำให้ผู้นับถือศาสนาคริสต์ในคัปปาโดเกีย ต้องหลบซ่อนการรังควานของโรมัน ด้วยการเจาะถ้ำ ขุดพื้นดินลงไปเป็นอุโมงค์ เกิดเป็นเมืองใต้ดินขึ้นมา และได้ขุดเจาะบริเวณ Gereme ทำเป็นโบสถ์ถ้ำจำนวนมาก กระทั่งในคริสต์ศตวรรษที่ 5-6 ชาวโรมันให้การยอมรับศาสนาคริสต์ สำหรับโบสถ์ถ้ำใน Gereme ว่ากันว่ามีถึง 365 หลังด้วยกัน (สร้างตามจำนวนวันใน 1 ปี) แต่ว่าปัจจุบัน เปิดให้ชมเพียงบางส่วนเท่านั้น มีค่าเข้าชมด้วยอย่างที่บอก แต่ไม่รู้ว่าเท่าไหร่ค่ะ
สำหรับด้านนอกก็จะมี shop ขายของที่ระลึก และหนังสือต่างๆ มีน้ำผลไม้คั้นสดๆ ขายด้านหน้าเลย
ตลาดแถวๆ Gereme มีของที่ระลึกขายมากมายค่ะ local guide ให้ข้อมูลว่า พวกของที่ระลึกต่างๆ ที่ขายตามตลาดแถวๆ นี้ จะเป็นของที่ชาวบ้านทำเอง แต่ถ้าเป็นของที่ขายในกรุงอิสตันบูล ก็จะเป็นของที่ผลิตจากจีนเป็นส่วนใหญ่ นี่ทางเดินลงเพื่อไปหารถบัสที่จอดรถแถวๆ ตลาดขายของที่ระลึก มีไอสครีมขายด้วยค่ะ มาแล้วต้องลองนะคะ
หลายๆ คนคงจะเคยอ่านหนังสือการ์ตูนเรื่อง คำสาปฟาโรห์ คือชอบมากเลยค่ะเรื่องนี้ อ่านสมัยเป็นวัยรุ่น เป็นเรื่องของนางเอกชาวอเมริกัน ที่หลงยุคไปอยู่ในยุคของฟาโรห์แห่งอียิปต์ ซึ่งในเรื่องก็เล่าเรื่องราวของอาณาจักรต่างๆ ในสมัยนั้น ก็มีอาณาจักรนึงชื่อว่า อาณาจักรฮิปไทต์ ซึ่งก็คือประเทศตุรกีในปัจจุบัน ในการ์ตูนบอกว่าอาณาจักรนี้เต็มไปด้วยภูเขามากมายล้อมรอบ มีอาณาบริเวณกว้างใหญ่ไพศาล ฯลฯ ความหลงใหลการ์ตูนเรื่องนั้น ทำให้คิดไว้ว่า สักวันนึงอยากจะไปเยือนสักที พอมาเห็นก็จริงๆ ด้วย มีภูเขาน้อยใหญ่มากมาย บางภูเขาสูงมากจนมีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี เวลาที่เราไปประเทศญี่ปุ่น เราจะเห็นฟูจิซังเป็นภูเขาเดี่ยว มีหิมะปกคลุมน่ารักสวยงาม แต่ที่นี่ประเทศตุรกี มีภูเขาหลายๆ ลูก ที่มีหิมะปกคลุมอยู่ สวยงามไปอีกแบบ
ที่พักของเราเป็นโรงแรมหรู ชื่อว่า Ramada Cappadocia Hotel มี free wifi ด้วยค่ะ (ถ้ามาเองคงพัก Hostel ถูกๆ คงไม่ได้นอนหรูแบบนี้)
และการท่องเที่ยววันแรกก็ผ่านพ้นไปแบบเหนื่อยอ่อนมาก เพราะเดินทางตลอดเวลา วันนี้อาหารเย็นกินที่โรงแรม เป็นอาหารบุฟเฟต์
หลังห้องที่โรงแรมก็มีวิวที่สวยงามมาก
รอติดตามตอนที่ 2 นะคะ
ความเห็น (3)
ขอบคุณค่ะ น่าสนุกนะคะ
...Amazing Turkey มากๆ...ชื่นชอบพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งค่ะ...
คุณพ่อกับคุณลูกสั่งพิมพ์มาเลยน่ะครับ...
ผมไปช่วงปีใหม่ มีหิมะ..โปรยปราย
ได้บรรยายกาศคนละอย่างกัน...ชอบมากครับ คิดถึงอยากไปเยี่ยมอีกสกครั้ง ถ้ามีโอกาสครับ
เดียวนี้ค่าทั่วร์ไม่แพง +ค่าเงินลิร่า ลดลงอย่างมาก