จะพาไปงานพิธี "ทิวา" ของชาวเกาะบอร์เนียว ที่อินโดนีเซียต่อนะคะ หลังจากมีการขัดสีฉวีวรรณกระดูกของผู้ตายอันเป็นที่รักเรียบร้อยแล้ว ก็มีการนำเครื่องหอม แป้งฝุ่น มาประพรมให้มีกลิ่นหอม และสะอาดขาวนวล บางคนอดใจอาลัยหาไม่ได้ ก็นำกระดูกมากอด มาจูบ จากนั้นก็จะนำผ้ามาห่อกระดูกไว้ ช่วงนี้ยังต้องรออีกระยะ เพราะจะมีการทำบ้านหลังเล็กๆ เพื่อเก็บกระดูกเอาไว้ตลอดกาลผู้เขียนว่าคล้ายๆกับเจดีย์ของไทยเรา แต่เป็นการทำด้วยช่างไม้ พิธีนี้สำคัญมาก ดังจะได้เล่าให้ฟังค่ะ อ้อ ระหว่างนี้ ก็จะมีการเต้น ร้องเพลง เป็นงานฉลองกระดูก
ก่อนจะมีการลงมือสร้างเรือนหลังน้อยสำหรับเก็บกระดูกนั้น ตามความเชื่อ จะต้องทำพิธีปกป้องสิ่งเลวร้ายที่จะแอบแฝงมาระหว่างทำงานได้ จึงต้องมีพิธีกรรม คล้ายเซ่นสังเวยเจ้าที่ แต่เครื่องสังเวยนี้ใช้ชีวิตสัตว์บูชายัญ เช่นหมู โดยใช้หอกแหลมแทงตัดขั้วหัวใจ แล้วบั่นคอให้เลือดไหลออกมาให้หมด ดังนี้กลิ่นคาวเลือดจะคลุ้งไปทั่วสถานที่ ใช้หมูหลายตัวในการนี้ การสร้างบ้านหลังสุดท้ายของผู้ตาย จึงจะเป็นไปอย่างถูกต้องและไม่มีภยันตรายใดๆต่อวิญญาณผู้ตายได้
ก่อน วันที่จะทำพิธีส่งวิญญาณนั้น จะต้องมีการตระเตรียมสิ่งของสำหรับให้ผู้ตายได้ใช้ในระหว่างวิญญาณเดินทางด้วย รวมถึงอาหารสำหรับวิญญาณของผู้ตาย คราวนี้ก็ไม่พ้นที่จะต้องใช้สัตว์มาฆ่า เพื่อว่าวิญญาณสัตว์นั้น จะได้เดินทางไปพร้อมๆกับดวงวิญญาณผู้ล่วงลับ นอกจากนี้ชีวิตว์สัตว์จะเป็นอาหารสำหรับผู้ตายด้วย คราวนี้ เขาเลือกใช้สัตว์ใหญ่ เช่นควาย หรือไม่ก็วัว เลือกที่มีขนาดใหญ่ ญาติจะนำสัตว์ใหญ่นี้ มาทำความสะอาด ตกแต่งให้สวยงาม ราวกับว่า มันยินดีในการเดินครั้งนี้เช่นกัน จากนั้น ก็จะให้ผู้สังหารที่มีความแข็งแรงมากๆ ที่สามรถในการใช้หอกแหลมคม แทงส่วนสำคัญให้สัตว์ตายอย่างราวดเร็วได้อย่างมั่นใจ เมื่อมันสิ้นใจ เขาก็จะพากันเข้าไปตัดคอแล้วรองเลือดสัตว์นำมาทาหน้า ลำตัวของญาติๆ และผู้มาร่วมงาน ถือว่าเป็นเลือดมงคล จะทำให้มีสุขภาพแข็งแรง ไม่เจ็บป่วยง่าย จากนั้นก็จะฝังร่างสัตว์ไว้ในอาณาบริเวณของบ้านหลังน้อยที่เก็บกระดูก เล่ากันว่าเมื่อประมาณ 80 ปีก่อนหน้านี้ พวกเขาจะใช้มนุษย์มาบูชายัญ บางทีก็เป็นทาสของเขาเอง โดยจะขุดหลุมแคบๆ พอให้ทาสลงไปนอนได้ จากนั้น ก็จะใช้เสาขนาดใหญ่ทุ่มลงไปจนทาสเสียชีวิต แต่ต่อมาเมื่อนักล่าอาณานิคมชาวดัทช์ พบการใช้มนุษย์บูชายัญจึงสั่งห้ามโดยเด็ดขาด และใช้สัตว์แทนมาจนถึงทุกวันนี้
ผู้เขียนชมเรื่องราวเหตุการณ์จริง จากรายการสำรวจโลก แล้วก็ให้เกิดอาการสยดสยอง แต่ความเชื่อ ความศรัทธา เป็นเรื่องเฉพาะ ที่สืบต่อกันมา แต่ท้ายที่สุด แม้สิ่งที่เรามองเห็นว่าโหดร้ายนั้น น้ำใสใจจริง ที่เขาทำก็เพื่อความสุขสบายของวิญญาณคนที่เขารักนั่นเอง
ยังมีอีกขั้นตอนหนึ่ง ที่เชื่อว่าจะเป็นการนำวิญญาณไปสู่หมู่บ้านแห่งความรุ่งเรือง อันเป็นการกระทำที่สมบูรณ์แบบ สำหรับญาติของเขาในชาตินี้ ขอเป็นบันทึกหน้านะคะ ไว้ให้หายความรู้สึกเครียดกับพิธีกรรมในบันทึกนี้เสียหน่อยนะคะ
...เรื่องราวน่าติดตามแต่ก็น่ากลัวกับพิธีบูชายัญนะคะ...เพราะต้องฆ่าคนหรือสัตว์เป็นเครื่องบูชา เครื่องเซ่น...เคยอ่านเรื่องราวการบูชายัญของชาวอินคาในประเทศอาร์เจนตินา มีการนำเด็กสาวพรหมจรรย์ ที่ต้องเป็นเด็กสาวที่ฉลาดไปบูชายัญโดยการให้ดื่มแอลกอฮอล์ และเสพโคเคนจากใบโคคาติดต่อกันนานหลายเดือน แล้วจึงนำไปทิ้งให้ตายเองที่ปล่องภูเขาไฟยูยียาโก (Llullaillaco)...
อ่านแล้วน่ากลัวจริงๆ ต้องทำลายชีวิตอื่นเพื่อความเชื่อตัวเองตัวเอง ตอนนี้ไม่น่ายังยังมีอยู่นะ
ขอบคุณนะคะที่มาเล่า
อ่านที่ อาจารย์ ดร. พจนา แย้มนัยนา เล่าน่ากลัวกว่า
อ่านแล้วน่ากลัว
สงสารทาสและสัตว์นะครับ
แต่เป็นเรื่องความเชื่อ
ค่อนข้างแก้ไขยากนะครับ
ขอบคุณพี่มากๆที่เขียนให้อ่าน
เราจะเห็นความประเสริฐของ..คำว่า..วิถี..พุทธ..นะเจ้าคะ..."คำสอน..อันเป็นธรรม?โดย..ถ่องแท้"...
ขอขอบคุณทุกความเห็นนะคะ แต่ไปอ่านตอนจบ ของพิธี ทิวา กันเถอะค่ะ