ปรากฏการณ์การเมืองไทยยกระดับประชาธิปไตยจริงหรือ?

ปรากฏการณ์ที่เกิดในเมืองไทยตอนนี้เป็นตัวเร่งให้ประชาชนยกระดับประชาธิปไตย จริงหรือ?

คำถามนี้น่าสนใจ ถามว่าปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองไทยตอนนี้ เหมือนหรือต่างจากต่างประเทศอย่างไร ในต่างประเทศไม่ว่าจะเป็น อังกฤษ อเมริกา หรือฝรั่งเศส ประชาชนเค้าเรียกร้องจากระบอบคอมมิวนิสต์ หรือระบอบที่ใช้พระมหากษัตริย์เป็นประมุข ให้มาเป็นระบอบประชาธิปไตย ที่มีประธานาธิปดี หรือการลดอำนาจของระบอบกษัตริย์ทางการเมืองลง เพราะโดยฐานคิดของคนต่างประเทศ เค้ามีอิสระทางความคิดแท้จริง ในขณะที่ประเทศไทย โดยฐานคิดของเรามีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และมันฝังความคิดให้รัก เคารพ และเทิดทูนพระมหากษัตริย์ โดยที่ไม่มีใครปฏิเสธ

ถ้าตามทฤษฎี ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตย ที่รัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง และเป็นเสียงส่วนใหญ่ของประเทศ ที่ไม่มีใครเถียง ถามว่าเราเรียกร้องอะไร ประชาธิปไตยหรือ? ก็ไม่ใช่ เพราะที่คนไทยเรียกร้องอยู่ในขณะนี้ เป็นสิ่งที่ทุกคนทั้งโลกไม่เข้าใจ และไม่ยอมรับ เพราะมันเป็นเสียงส่วนน้อยของประเทศ

ประชาธิปไตยของคนไทยขณะนี้ มันมีปัจจัยอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น ประชานิยม การซื้อเสียง การใช้กระแสปลุกปั่น และทำทุกวิถีทาง เพื่อให้ตัวเองได้เสียงข้างมากเข้ามาบริหารประเทศ นักการเมืองเหล่านี้ อาศัยช่องโหว่ ของระบอบประชาธิปไตย บวกกับความด้อยคุณภาพของประชาชน กิเลสและความต้องการของประชาชน มาเป็นเครื่องมือ เราเลยมองว่า นักการเมืองมันเลว ต้องกำจัดและล้างระบบให้สิ้นซาก โดยการเล่นนอกกติกา ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่ผิดขั้นตอน เพราะประชาชนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจ จะเกิดการล้มล้าง ก่อกบฏ สลับกันไป สลับกันมา และไม่สิ้นสุด ประเทศก็พัง และวุ่นวายอย่างไม่จบสิ้น ดังนั้นทางแก้มันต้องใช้ระบบการเลือกตั้งที่ทุกคน ทุกฝ่ายยอมรับ อยู่ดี ถึงจะแก้ปัญหาได้

ปัญหาที่แท้จริงเราต้องทำอย่างไรให้ประชาชน ผู้มีส่วนร่วมในระบอบประชาธิปไตยใช้ประชาธิปไตยให้เป็น ใช้เสียงตัวเองเลือกตั้งโดยไร้อิทธิพลจากความไม่ดีใดๆ เลือกโดยคุณธรรม และจริยธรรมอย่างแท้จริง เราต้องการแก้ระบบเหล่านี้ ที่นี้ เรามาลองคิดว่า แก้ที่ไหน แก้อย่างไร ถึงจะตรงจุด มันก็วนกลับไปที่การยกระดับคุณภาพ ของประชาชนอยู่ดี ให้ประชาชนรู้จักผิดชอบ ชั่วดี เพราะถึงแม้ว่าเราจะล้าง หรือทำโครงสร้างใหม่มาอย่างไร ถ้ารากฐานมันยังไม่ถูกแก้ มันจะมีประโยชน์อะไร กับการที่เอาโครงสร้างไหนๆ มาครอบมันก็เหมือนเดิม