ศัลยแพทย์โรคหัวใจชื่อ Dr. Dwight Lundell ได้เปิดเผยว่าจากประสบการณ์ผ่าตัดหัวใจมากว่า 25 ปีในผู้ป่วยมากกว่า 5 พันรายพบว่าข้อมูลทางการแพทย์ในปัจจุบันซึ่งเน้นการจ่ายยาลดไขมันและแนะให้ทานไขมันต่ำนั้นมีความผิดพลาดและไม่ได้ผลซึ่งทำให้เกิดการระบาดของโรคอ้วน หัวใจ และเบาหวานมากในปัจจุบัน และมีการวิจัยซึ่งค้นพบว่าโรคหัวใจเกิดจากการอักเสบเรื้อรังก่อนจนเกิดแผลทำให้ไขมันมาเกาะและอุดตันในหลอดเลือด ไม่ใช่จากการมีไขมันในกระแสเลือดดังที่เชื่อกันอยู่ เพราะไขมันจะไม่สามารถเกาะผนังของหลอดเลือดได้หากไม่มีแผล ไขมันทรานส์ในเนยเทียมและอาหารสำเร็จรูปหลายอย่าง คือตัวการที่ก่อให้เกิดการอักเสบภายในหลอดเลือดและโรคหลอดเลือดหัวใจในเวลาต่อมา แต่น่าเสียดายที่อย.ของไทยออกกฎหมายให้ระบุเพียงเป็น”ไขมันไม่อิ่มตัว” ซึ่งทำให้คนไทยส่วนใหญ่นึกว่าไม่อันตราย แต่ที่จริงอันตรายมากยิ่งกว่ากรดไขมันอิ่มตัวเสียอีก
อ่านต่อได้ที่นี่ http://www.greenlifefitness.net/health-articles/189-2013-10-05-06-39-50.html
ขอบคุณครับ
รูปธรรมที่ปฏิบัติง่ายๆ คือ ไม่กินเค้ก คุ๊กกี้ ขนมกรุบกรอบทุกชนิด
อยากกินเค้ก กินเค้กราคาแพงที่เขาใช้เนยแท้ไปเลย (นานๆ กินทีนะเพราะมันแพง)
คุ้กกี้กรอบๆ ราคาถูกนี่แหละไขมันทรานเยอะ ก็อย่ากิน อยากกินก็กินคุ้กกี้ราคาแพงที่ไม่กรอบ เพราะใช้เนยแท้ (นานๆ กินทีเพราะมันแพง)
ไทยเราไม่ค่อยมีการป้องกันหรือห้ามใช้อาหารที่มีไขมันทรานส์ ดังนั้น ไขมมันทรานส์ เป็นอีกอย่างหนึ่งที่อนาคตจะทำให้คนไทยเราจำนวนไม่น้อย ร่างกายสะสมไขมันทราส์ตัวร้ายจนเกิดโรคร้ายได้ โดยเฉพาะเด็กเล็กและวัยรุ่น ฯ ที่ชอบกินอาหารที่มีไขมันทรานส์แฝงอยู่ โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์กับการกินอาหารมีมากๆ ........ขอบคุณมากนะคะ
ขอบคุณครับผม ;)...
ขอบพระคุณทุกท่านครับทั้งดอกไม้และความเห็นดีๆ
โปรดช่วยกันเผยแพร่ความรู้นี้ออกไปให้มากๆนะครับ
ชาวไทยจะได้ไม่เป็นโรคร้าย เช่นชาวอเมริกัน (ผู้ริเริ่มผลิต "ไขมันทรานส์" ออกมาใช้บริโภค)
และหวังอย่างยิ่งว่าในอนาคตอันใกล้นี้ อย.ของไทยจะตื่นตัวและเร่งออกกฎหมายให้ฉลากต้องระบุให้ชัดเจนเลยว่าเป็น"ไขมันทรานส์" ดังเช่นในต่างประเทศส่วนใหญ่ที่ทำกันแล้วครับ