สถานการณ์เด่นด้านกฎหมายนโยบายเกี่ยวกับสถานะและสิทธิในพื้นที่สึนามิ
มีข้อเสนอของภาคประชาชนให้ตรากฎหมายให้คืนสัญชาติไทยแก่บรรพบุรุษคนไทยพลัดถิ่นจากมะริด ทะวาย และตะนาวศรี ซึ่งแตกต่างจากทางราชการที่มีนโยบายให้แปลงสัญชาติ ตามกรอบยุทธศาสตร์ฯ
ผลกระทบต่อเด็ก เยาวชน และครอบครัว
ระยะสั้น : กลุ่มเด็ก เยาวชนและครอบครัว ที่มีเชื้อสายไทย (ไทยพลัดถิ่น) รวมตัวกันอย่างเข็มแข็ง เพื่อขอแก้ไขปัญหาสถานะของตนเอง โดย ขอมีกฎหมายพิเศษขึ้น คือ “พระราชบัญญัติให้สัญชาติแก่บรรพบุรุษคนเชื้อสายไทย ที่อาศัยในทวาย มะริดและตะนาวศรี”
ระยะกลาง : เกิดการรวมตัวเป็นเครือข่ายขยายไปยังพื้นที่ต่างๆ ที่มีคนเชื้อสายไทยอาศัยอยู่ อย่างเข้มแข็ง และรวมตัวกับเครือข่ายภาคประชาชนอื่นๆ เพื่อรวบรวมรายชื่อเสนอกฎหมาย ตามแนวทางประชาธิปไตย ในพระราชบัญญัติว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย พ.ศ.2542
ระยะยาว : แม้จะมีแนวคิดที่ไม่ตรงกันกับภาครัฐในแนวนโยบายที่จะแก้ไขปัญหา และอาจเกิดความขัดแย้งทางความคิด แต่ก็เป็นความแตกต่างทางความคิดที่ได้รับการเคารพ และใช้เวลานานมากแต่ท้ายที่สุดกฎหมายก็ได้เสนอเข้าสู่ระบบรัฐสภา เพื่อตราเป็นกฎหมายต่อไป
อันจะส่งผลให้เด็ก เยาวชน และครอบครัวมีสิทธิและเสรีภาพดังคนไทยทั่วไป ไม่ถูกจำกัดสิทธิใดๆ ตามกฎหมาย
ข้อเสนอแนะเชิงยุทธศาสตร์การจัดการปัญหา
ต่อฝ่ายองค์กรเอกชน
เร่งดำเนินการสำรวจชุมชน รวบรวมเครือข่ายภาคประชาชนที่มีปัญหาเดียวกันให้มีความเข้มแข็ง โดยประสานงานกับภาครัฐและภาควิชาการอย่างสันติวิธี เพื่อก่อให้ความเข้าใจกันระหว่างภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะประชาชนที่อยู่ในพื้นที่
เตรียมการเสนอกฎหมาย โดยการรวบรวมรายชื่อ ตามกรอบที่กฎหมายกำหนดไว้
และหากเป็นไปได้ควรประสานความเข้าใจกับภาครัฐเพื่อช่วยร่วมผลักดันกฎหมายฉบับดังกล่าว โดยการสร้างทัศนคติที่ดีในการทำงานร่วมกัน
ต่อฝ่ายองค์กรสนับสนุนงบประมาณ
องค์กรแพลน ยูนิเซฟ หรือองค์กรทุนอื่นๆ ควรสนับสนุนงบประมาณในการทำงานเพื่อสร้างเครือข่ายและสร้างความเข้มแข็งให้ภาคประชาชนที่กำลังทำงานอยู่
ต่อฝ่ายราชการ
กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย แม้จะมีหลักที่วางไว้แล้วในยุทธศาสตร์การจัดการปัญหาสถานะและสิทธิของบุคคล ในการแก้ไขปัญหาของคนเชื้อสายไทย โดยกำหนดให้ใช้วิธีการแปลงสัญชาติ
แต่การใช้สิทธิตามระบอบประชาธิปไตย ย่อมเป็นความสวยงามของภาคประชาชน ที่จะส่งผลต่อความเข้มแข็งของสังคมโดยรวม ภาครัฐจึงควรเข้ามามีส่วนร่วมในการทำงานกับภาคประชาชนอย่างแท้จริง โดยเอาประชาชนผู้เดือดร้อนเป็นเป้าหมาย
กรมการปกครอง จึงควรอำนวยความสะดวก และช่วยเหลือทำความเข้าใจกับภาคประชาชน ในวิธีและแนวทางการเสนอกฎหมายดังกล่าว
ต่อฝ่ายวิชาการ
คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หรือนักวิชาการทางกฎหมาย รวมทั้งนักประวัติศาสตร์และนักมานุษยวิทยา ควรเข้ามาร่วมกับภาครัฐและภาคประชาชนในการร่างกฎหมายฉบับดังกล่าว เพื่อให้ครอบคลุมปัญหาอย่างรอบด้านและสอดคล้องกับสภาพชีวิตปัจจุบัน รวมทั้งอยู่บนพื้นฐานแห่งความมั่นคงของรัฐด้วย
ไม่มีความเห็น