ซากุระข้างออร์โธฯ


ซากุระข้างออร์โธ

ผมเห็นดอกไม้ชนิดนี้ครั้งแรกเมื่อเป็นนักเรียนแพทย์ชั้นปี ๕ ตอนนั้นขึ้นเรียนที่แผนกออร์โธฯ และผู้ป่วยของผมเธออยู่เตียงชิดริมหน้าต่างด้านทิศใต้ หรือหลังสุดของโรงพยาบาล หน้าร้อนในปีนั้นผมเหลือบเห็นดอกไม้ชนิดหนึ่ง ออกดอกสีชมพูอมม่วงเข้ม มันบานสะพรั่งไปทั้งต้นชนิดที่ไม่มีที่เหลือให้ใบออกมาแซมเลย ผมคิดไปถึงซากุระ ทั้งๆที่ไม่เคยซากุระสักครั้ง แต่ก็พอเอาจินตนาการเข้าไปปรุงแต่งมันได้บ้าง "พี่ไก่" คนไข้คนสวยของผมที่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ทำให้ขาของเธอทั้งสองข้างหายไปตั้งแต่คราวนั้น เธอถูกย้ายมาจากวอร์ดศัลยกรรมหญิงและมาอยู่ที่ออร์โธหญิงแห่งนี้ เธอบ่นให้ผมฟังว่าที่แห่งใหม่ร้อนอบอ้าว เธอรู้สึกอึดอัด แต่การที่มีดอกไม้สีม่วงต้นนี้ออกดอกบานสะพรั่ง มันทำให้เธอคลายความเครียดลงได้และเริ่มปรับตัวให้เข้ากับออร์โธหญิง ผมเองเมื่อมาดูแลพี่ไก่ก็ยังแอบเฝ้าชื่นชมดอกไม้ต้นนี้จนกระทั่งถึงเวลาต้องลงจากแผนกไป

แต่ผมก็ยังไม่รู้จักชื่อมัน

แม้นไม่รู้จักก็หลงรัก ผมหาโอกาสที่จะเหลียวไปทางขวาทุกครั้งเมื่อต้องขับรถผ่านหลังโรงพยาบาล เพราะรู้ว่า ในทุกฤดูร้อน เจ้าซากุระต้นนั้นจะออกดอกอย่างพากเพียร ผมไม่เคยเห็นมันขี้เกียจเลยสักครั้ง

วันก่อนผมมีภาระกิจที่ต้องเดินลงไปดูการก่อสร้างอาคารหลังใหม่ของคณะแพทย์ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงเวลาทำฐานราก ความรักครั้งใหม่ก็เกิดขึ้นอีกครั้ง
เรื่องมันมีอยู่ว่า
บริเวณที่ว่างหลังตึกออร์โธฯ นอกจากจะมีเจ้าซากุระแสนรักของผมแล้วนั้น มันยังมีต้นไม้ใหญ่หลากหลายสายพันธุ์มีชีวิตอยู่ บางต้นใหญ่พอให้ผมโอบได้ ที่นี่ผมเรียกว่าเป็นพื้นที่สีเขียวสุดท้ายของคณะแพทย์ ซึ่งนอกจากจะมีต้นไม้มากมายแล้ว มันยังมีบ่อน้ำผิวดินอีก ๒ บ่อ ซึ่งมันมีมานานตั้งแต่เริ่มสร้างโรงพยาบาลแล้ว (อันที่จริงเรามีบ่อที่ ๓ ขนาดใหญ่อยู่หน้าหอบินหลา ๒ ด้วยนะครับ) บ่อน้ำนี้ยังประโยชน์ให้กับโรงพยาบาลมาก เพราะใช้เป็นแหล่งน้ำไว้รดต้นไม้ และเมื่อคราวขาดแคลนน้ำ เช่น ไร้ประปา หรือภาวะน้ำท่วมใหญ่ เจ้าสามบ่อที่ว่านี้ จะเป็นแหล่งน้ำสำรองของโรงพยาบาลซึ่งนำมาบำบัดแล้วสามารถใช้ได้ดีทีเดียว
เมื่อราวสองถึงสามปีที่ผ่านมา ผมทราบว่า คณะแพทย์ของผมมีโครงการก่อสร้างตึกใหม่ซึ่งจะตั้งอยู่ในพื้นที่สีเขียวสุดท้ายท่ีว่านี้ ตอนนั้นคิดในใจลึกๆว่าจะเป็นไปได้อย่างไร ทำไมต้องสร้างตึก แล้วจะเอาต้นไม้ต้นใหญ่ๆไปไว้ที่ไหน แล้วมันก็เป็นความจริง ตึกถูกสร้างตามวาระของมัน

ต้นไม้ถูกตัดโค่น บางต้นถูกล้อมไปไว้ที่ใหม่ ดินถูกตักลึกลงไปเพื่อเตรียมพื้นที่สร้างฐานรากและชั้นจอดรถใต้ถุน สมาชิกโรงพยาบาลบางท่านถ่ายรูปเป็นที่ระลึก บางคนพรรณาถึงความเสียดายต้นไม้ ส่วนผมไม่อยากเหลียวไปดูสักเท่าไร เพราะผมเสียดายมัน เสียดายจริงๆ

แต่เจ้าพระคุณ สิ่งใดที่เคยลั่นไว้ว่าไม่ชอบเพียงใด สิ่งนั้นต้องมาทดสอบจิตใจผมเสมอ

ผมต้องลงมาดูงานบางอย่างบริเวณสถานที่ก่อสร้างตรงฐานรากของตึก ลึกลงไปคือร่องรอยการขุดดินอย่างเรียบร้อย ผมตัวเล็กเพียงนิดเมื่อเทียบกับพื้นที่ทั้งหมด ผมลงไปยืนตรงกลางของพื้นที่พอดี ตรงที่เป็นหัวใจของตัวอาคาร (มีคนบอกมาอย่างนั้น)
ท่ามกลางแสงแดดช่วงบ่ายยังไม่ทันคล้อย ผมยืนหมุนตัว ๓๖๐ องศา มองตัวอาคารโรงพยาบาล แล้วผมก็เห็นซากุระต้นนั้นของผม มันไม่ถูกขุดถอนออก มันยังอยู่ วันนี้มันยังคงมีดอกออกบานสะพรั่ง แม้นว่าเริ่มมีใบออกมาแซมจนมากกว่าดอกแล้ว มันก็ยังคงอยู่ตรงนั้น จิตใจผมชุ่มชื่นขึ้นมาทันที แอบคิดในใจ นี่เราแก่ไปมากเชียวนะ จิตใจขี้บ่น ชอบหวงของเก่าๆที่คุ้นตา ของขมก็ชอบกิน ขาดก็แต่ยังไม่นิยมชมชื่นเด็กสาวเป็นเรื่องเป็นราวก็เท่านั้น
สดชื่นกับซากุระต้นนั้นสักพักก็ถึงเวลาเดินกลับ จุดที่จะต้องไต่ขึ้นบันไดก็สะดุดตากับน้ำไหล ใช่ครับ มันมีน้ำไหลเป็นธารสายเล็กๆ ไหลอยู่ข้างกำแพงดินอันทะมึนนั้น เลยเดินตามไปดูถึงต้นทาง ว่าสายน้ำนั้นมันมาจากที่ใด แม่เจ้า! ผมถึงกับอุทานในใจเมื่อเห็นว่าบริเวณหัวมุมหลุมที่ถูกขุดตักดินออกไปนั้น มีน้ำผุดออกมา ปุดๆๆๆ เหมือนน้ำถูกดันออกมาจากชั้นดิน

ใช่ครับ ท่านคงอ่านไม่ผิด "ปุดๆๆๆ ดั่งกิริยาแย่งออกมาจากผืนดิน" มันเป็นตาน้ำใต้ดิน พื้นที่ที่อยู่ตรงหน้า มันคือตาน้ำจริงๆ

มันคงเป็นตาน้ำที่ไหลลงสู่บ่อของโรงพยาบาลที่ได้เล่ามาเบื้องต้น ตาน้ำที่เป็นแหล่งสำรองของน้ำยามวิกฤต เคยเห็นแต่น้ำในบ่อ แต่วันนี้เราได้เห็นน้ำจากใต้บ่อ ต่างตรงที่ตอนนี้ไม่มีบ่อ ผมกำลังยืนในตำแหน่งที่เคยอยู่ต่ำสุดของพื้นบ่อนั่นเอง จิตใจของผมชุ่มชื่นทันที ชุ่นชื่นเพราะสายน้ำยามที่เห็น พื้นที่ตรงนี้คงเป็นส่วนที่ดีที่สุดอีกแห่งหนึ่งของโรงพยาบาลอันเป็นที่รัก พระท่านว่า มีน้ำที่ไหน ที่นั่นร่มเย็น ตึกนี้คงเป็นอีกตึกหนึ่งที่คงจะมีแต่ความร่มเย็นสืบไป ผมเชื่อเช่นนั้น

เสลาเปลือกแตก ต้นนี้ผมชอบที่สุด เพราะความสวยสดของดอกสีม่วงหลายเฉด
ตะแบกเปลือกเรียบ ต้นนี้รักมันเพราะต้นสวย เปลือกสีนวล มองไปคล้ายต้นย่าหมูแถวบ้านตอนเด็กๆ แอบลูบทุกทีที่เดินผ่าน
อินทนิล ก็เป็นอีกต้นหนึ่งที่ดอกมีลักษณะคล้ายกับเสลาจนผมแยกแทบไม่ออก ต้องเดินเข้าไปดูใกล้ๆ

เรียนรู้กันไปสักพักก็นึกได้ ว่าซากุระที่รักมากข้างตึกออร์โธ มันคือต้นเดียวกันกับเสลา (อ่านว่า สะ-เหลา)

ว่าแล้วเชียว

ธนพันธ์ ๒๒ มีค ๕๗ บันทึกไว้ ยามที่กำลังรำคาญการร่วงปลิวว่อนของดอกไม้จากต้นหูกระจง  

หมายเลขบันทึก: 564459เขียนเมื่อ 22 มีนาคม 2014 21:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มีนาคม 2014 21:58 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ความรู้ และความชุ่มชื่นหัวใจไม่เคยห่างหายไปจากบันทึกของคุณหมอจริง ๆ ครับ ชุ่มชื่นเพราะมีตาน้ำเล็ก ๆ คอยไหลรินจากบันทึก ประหนึ่งนำ้ใจและความรู้ที่ไหลจากตาและบันทึกแห่งประสบการณ์เหล่านี้คับ ผมได้รู้เพิ่มว่า เสลาเปลือกแตก ตะแบกเปลือกเรียบ ไว้ไปบอกใคร ๆ ได้แล้วครับ ขอบคุณครับ

ดีจังเลยครับ

ดอกเสลายังอยู่

ที่ ม.อ.มีแหล่งน้ำใต้ดินหลายจุดนะครับ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท