น้องนักเรียนทุนอุดมศึกษาพูนพลังทุกคน ต้องรายงานสภาพการเงินมายังมูลนิธิทุกเดือน และเพื่อไม่ให้การส่งรายงานกลายเป็นหน้าที่ที่น่าเบื่อ น้องหลายคนก็แนบจดหมายมาพูดคุยกับพี่ๆที่มูลนิธิอยู่เสมอ
ปู เคยเป็นนักเรียนทุนต่อเนื่องที่จังหวัดมุกดาหาร โชคดีรับทุนถึง ปวช. แล้ว ผู้ให้ทุนยินดีสนับสนุนให้เรียนต่อโดยให้ในรูปทุนอุดมศึกษา ท่านผู้ให้ทุนท่านนี้น่ารักมาก ตอบจดหมายปูที่ขยันเขียนไปหาทุกฉบับ ยามปีใหม่ก็มีของขวัญให้ ปูเองก็ส่งของขวัญเล็กๆน้อยๆไปหาเสมอ
ช่วงรอยต่อหลังจบ ม.6 ปูลังเลอยู่นาน ก่อนตัดสินใจเข้ามาเรียนปวส. ในกรุงเทพฯเพราะพี่สาวเข้ามาทำงานอยู่แล้ว ปูเลือกเรียนที่โรงเรียนพาณิชย์ใกล้ๆห้องเช่าของพี่สาวที่ขออาศัย และเลือกที่จะทำงานไปด้วย
การเรียนไปทำงานไปคงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ปูก็ทำมาแล้วครึ่งปี และยังไม่มีทีท่าว่าจะเลิกทำ ทุกวัน หลังเลิกเรียนประมาณบ่ายสองโมง ปูไปทำงานเป็นพนักงานตรวจสินค้าของบริษัทผลิตรองเท้าแห่งหนึ่ง งานไม่หนักมากนัก แต่ก็เหนื่อยพอดู ปูเคยเล่าว่า ลองไปทำงานที่โรงงานแห่งหนึ่ง งานหนักแต่ได้ค่าตอบแทนน้อย หลังจากนั้นปูสัญญากับตัวเองว่า จะต้องพยายามเรียนให้ได้มากที่สุด จะได้มีโอกาสทำงานที่ดี ไม่ต้องเหนื่อยมากขนาดนั้น
เลขาฯดูรายงานการเงินของปูที่ส่งมาถึงมูลนิธิแล้วก็ถอนหายใจ ทั้งชื่นชมและเห็นใจปู ในช่องรายจ่าย มีเงินช่วยค่าห้องให้พี่สาว 500 บาท กับเงินส่งให้น้องเรียน 1,000 บาท ที่เมื่อเทียบกับเงินเดือนที่ทำงานเดือนละ 5,500 บาทแล้ว ก็เป็นจำนวนเงินไม่ใช่น้อย
นักศึกษาที่แบกภาระทั้งของตัวเองและทางบ้านไว้บนบ่าเล็กๆอย่างปู คงมีอยู่ในประเทศไทยอีกเป็นจำนวนมาก เลขาฯได้แต่ชื่นชมออกมาดังๆไว้ที่นี่ หวังว่ากำลังใจและทุนการศึกษาจำนวนไม่มากจากผู้ให้ทุนผ่านทางพูนพลัง คงช่วยผ่อนภาระหนักอึ้งเหล่านั้นลงได้บ้าง
ขอบคุณมูลนิธิพูนพลังที่ช่วยให้ส่วนหนึ่งของสังคมไทยได้มีโอกาสเรียนหนังสือและได้รู้จักการใช้จ่ายเงินได้อย่างคุ้มค่าเพื่ออนาคตตนเองและครอบครัวค่ะ
เป็นกำลังใจให้เสมอนะค่ะ :)