เป็นคนไม่สนใจวัน
ไม่สนใจวันที่
บางทีก็ลืมเดือน
และอีกอย่างนึง ที่บางทีพาอายก็คือ
ลืมแม้กระทั่งไม่รู้ว่าปีนี้ ค.ศ. ใด
วันนี้ก็เช่นกัน เป็นวันเสาร์ ที่ยอมปล่อยตัวเองให้ทำตามหัวใจ
(หมายความว่า อยากทำไรก็ตามใจฉัน)
ตื่นเช้าที่ยังสลึมสลือ หลับบ้าง ลืมตาแล้วแกล้งหลับต่อบ้าง
แต่แอบเห็นว่าคุณสามีนั่งหน้าคอมพร้อมด้วยเสียงอัลกุรอานที่เปิดฟัง
และเผื่อแผ่มายังเราให้ได้ฟังด้วย
(อัลฮัมดูลิลลาฮฺ ที่เสียงอัลกุรอาน
เป็นเสียงเดียวที่ไม่ว่าจะดังแค่ไหนก็ไม่ปวดหัวเหมือนฟังเพลงหรือเสียงอื่น)
หลังจากสลึมสลือ หลับ ๆ ตื่น ๆ ก็ตื่นแบบจริงจัง
ด้วยเสียงของท่านแม่ (ฉายา.......ประจำบ้าน)
เริ่มเช้าวันนี้ด้วยอะไร จำไม่ได้
แต่ก็มาเปิดเฟสเอาตอนสาย ๆ
เห็นอวยพรและดุอาที่ส่งมาหน้าเฟส อยู่จำนวนหนึ่ง
ที่หลาย ๆ คนส่งมาให้เลยเป็นเหตุให้นึกขึ้นได้
วันนี้เป็นวันที่ 8 มีนา ที่หากย้อนไป เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว
ก็เป็นวันที่เด็กหญิงไมซาเร๊าะ ลืมตาดูโลก
ท่ามกลางญาติทั้งสองตระกูล (หนูชูสุก และขุนรักษ์)
ไมซาเร๊าะเกิดมา เป็นหลานคนแรกของทั้งสองบ้าน
และลูกคนแรกของครอบครัว
(ประโยคบนเพื่อยืนยันว่า มิใช่คนสุดท้องอย่างที่หลาย ๆ คนเข้าใจกัน)
การเป็นหลานคนแรก แน่นอนที่สุด ย่อมเป็นที่รัก(รึปล่าวของทุก ๆ คน)
แม่เล่าให้ฟังว่า ไมซาเร๊าะ เกิด ตรงกับวันศุกร์ ที่ 8 มีนา ตรงกับเวลาอาซานของละหมาดวันศุกร์พอดี แดดร้อนเปรี้ยง
(และมีเสียงต่อมาที่บางทีก็เสียงน้องว่า
นั่นแหละที่ใจร้อน ขี้โมโห ฮ่าาาาา ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามันเกี่ยวกันตรงไหน)
และแม่เล่าต่ออีกว่า ข้าพเจ้าเป็นเด็กที่ขี้ร้องมาก ๆ
กว่าจะนอนได้ ทุกเย็น ตาจะต้องอุ้มพาดบ่า และพาเดินชมวิว
จากท่าออก (ทิศตะวันออก)มาจนถึงหน้าปากซอย
(ซึ่งคำนวนแล้ว ไปกลับ เกือบสองกิโลเชียว)
เมื่อพากลับมาถึงบ้าน ข้าพเจ้าก็จะหลับมาบนบ่า
เมื่อถึงที่นอน ก็จะไม่ยอมนอนเปลเหมือนเด็กอื่น ๆ
ที่ ๆ จะหลับได้ต้องเป็นในตักเท่านั้น
นั่นหมายความว่า ต้องมีใครคนใดคนหนึ่งสละตักให้ข้าพเจ้านอน เพื่อให้หลับตลอดคืน ใครคนนั้นก็คือพ่อ กว่าที่ลูกอย่างข้าพเจ้าจะโต
พ่อจะต้องนอนหลับในท่าขัดสมาธิทั้งคืน
จนกลายเป็นนิสัย
เมื่อโตมา--ข้าพเจ้าก็เลี้ยงยากอีก เพราะขี้โรค และไม่สบายบ่อย
ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายนัก กับการรักษาและไปรพ.สำหรับเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว
บางทีเป็นหวัด พ่อก็ต้องสละอีก ก็คือยอมที่จะดูดน้ำมูก จากจมูก เพื่อให้ลูกหายใจได้สะดวก
ทุกคนภายในครอบครัว นอกจากตาที่ต้องแบกขึ้นบ่าทุกวัน
พ่อที่ต้องสละความสุขในการนอนเพื่อให้ลูกได้หลับสบาย
ไมซาเร๊าะก็โตมาด้วยความรักที่สมบูรณ์จากทุกคนในครอบครัว
ทำให้รู้สึกว่า ชีวิต สำหรับรักจากคนในครอบครัวแล้ว
ไม่เคยขาดซึ่งสายใยรัก
กับคุณตา ที่เลี้ยงมา และดูแลจนกระทั่งโต
เลี้ยงมาจนโต ..... นอนหลับบนตัก ... น่ารักจังเลยค่ะ
ขอบคุณบทความนี้นะคะ ^_^