บันทึกธรรมศึกษาความต่าง...ณ เรื่องความมีสัมมาที่จะแจ่มชัดมากเท่าใด ๆ หรือ การจักก้าวพ้นออกจากมิจฉา ฯ ในแต่ละบุคคล แต่ละชีวิตที่จักสามารถพัฒนาเท่าใด ๆ ย่อมจักมีม่านกั้น หรือ เกิดมีอุปสรรคขัดขวาง...
และอุปสรรคหลัก ๆ ที่ยิ่งใหญ่ก็คือ แต่ละชีวิตได้ถูกเจ้าไฟสามกองบงการ
ไฟ คือ ราคะ
ไฟ คือ โทสะ
ไฟ คือ โมหะ
ที่มาทำให้เกิดอาการลิงลมอมข้าวพองในบทบาทชีวิต หนักบ้าง เบาบ้าง ตามที่แต่ละคน แต่ละชีวิตสั่งสม และ จักต้องเรียนรู้ จนกระทั่งเกิดความชัดเจน.. ความไม่ชัดเจน.. ในตนเอง ด้วยตนเอง ฯ และหรือ โดยมีครูบาอาจารย์ การผ่านประสบการณ์ชีวิต จักเป็นเครื่องมือให้รู้จักจนก้าวพ้น หรือ จมหนัก ฯลฯ
การที่ตนเอง หรือ แต่ละบุคคลได้พบ ได้เห็นว่า... มีบางบุคคลที่ทำหน้าที่ ที่ควรกระทำ หากเขาเหล่านั้นออกอาการเงื้อง่าราคาแพง หรือ ชักช้าในบทบาท ที่ควรแสดงออก โดย ไม่เป็นไปดังใจเรา...หรือ ตรงข้ามกับที่ใจเราคิด ฯ จึงได้วิพากษ์ วิจารณ์กันไปมากมายต่าง ๆ นา ๆ เฉกเช่นนี้..นี้..
ที่สุด เราแต่ละคนนั่นแหละ ย่อมจักได้ย้อนกลับมาศึกษาอาการ..ความเห็นของตน ๆ ณ ขณะน้น ๆ ไปด้วยอย่างรอบคอบ และ อย่างใจเย็น ฯ
ในเมื่อเรา มิใช่ คนที่เราวิพากษ์ วิจารณ์ และ มิใช่..คนที่ทำหน้าที่นั้น ๆ เพื่อที่จะให้ตรงใจเรา หากคงต่างไปจากใจเรา ฯลฯ
ที่สุด ผู้รู้ตนเองก่อน ก็จักเข้าใจอาการ บทบาทที่แสดงออกทั้งของตน และ ของบุคคลที่พบว่า... ล้วนเกิดจากไฟสามกองของแต่ละชีวิตมาคอยบังคับ และ บัญชาการ
ในส่วนผล ที่ปรากฏในสังคม จะส่งผลเป็นความเสียหาย หรือไม่ ? อย่างไร ? ทุกคนย่อมร่วมรับผล...
ในการแก้ปัญหาระยะ ชนิดที่ตลอดวัฏฏสงสารนานยาวนั้น " ต้องมาเน้นที่การศึกษา...ในแต่ละด้าน แต่ละศาสตร์ " ดังที่ครูบาอาจารย์หลายท่านในแผ่นดิน ได้เน้น และย้ำให้เกิดความชัดเจน ด้วยความห่วงใย...
เพราะ... " ตราบที่การศึกษาไม่เป็นไปเพื่อการลด ละ กิเลส กู้ประเทศไม่ได้ "
ถูกตรงขอรับพระคุณเจ้า
กราบนมัสการครับ