มือ-เท้า-ปาก ???


 

     ในช่วง 2 – 3 อาทิตย์ที่ผ่านมานี้ที่่จังหวัดเพชรบุรี...พบโรคที่เด็กเป็นมากที่สุด คือ โรค มือ-เท้า-ปาก (Hand foot mouth syndrome : HFMS) มากที่สุดค่ะ .... เป็นเด็กมากว่าเด็กโตค่ะ ...ผู้ปกครองพาบุตรหลานมาพบ คุณหมอสมพนธ์ (นพ. สมพนธ์ นวรัตน์) เห็นแล้วน่าสงสารมากๆ ค่ะ และผู้ปกครองก็เครียดวิตกกังวลด้วยนะคะ เด็กๆก็ร้อง งอแงนะคะ ....โรคนี้มีอาการดังนี้นะคะ

 

      โรคมือเท้าปากเปื่อย Hand foot mouth syndrome (HFMD) เป็นโรคที่มักพบการติดเชื้อในกลุ่มทารกและเด็กเล็ก แต่บางรายจะมีอาการรุนแรง ขึ้นอยู่กับชนิดของไวรัสที่มีการติดเชื้อ โรค HFMD ส่วนใหญ่พบในเด็กอายุน้อยกว่า 10 ปี โดยเฉพาะอายุต่ำกว่า 5 ปี มีอาการไข้ร่วมกับตุ่มเล็กๆ เกิดขึ้นที่ผิวหนังบริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้า และในปาก ส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อ coxsackievirusA16 และ EV71 โรคมือเท้าปากจะเกิดเชื้อไวรัสกลุ่ม Enterovirus genusผู้ป่วยจะมีไข้ฉับพลันและมีแผลเปื่อยเล็กๆ ในลำคอบริเวณเพดาน ลิ้นไก่ ทอนซิล มีอาการเจ็บคอมากร่วมกับมีน้ำลายมาก และมีอาการกลืนลำบากปวดท้องและอาเจียน

 

สาเหตุของโรคมือเท้าปาก

        โรคปากเท้าเปื่อยส่วนใหญ่เกิดจาการติดเชื้อไวรัสที่ชื่อว่า coxsackie A16 มักไม่รุนแรง เด็กจะหายเป็นปกติภายใน 7-10 วัน ส่วนที่เกิดจากEnterovirus 71 อาจเป็นแบบเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ที่ไม่รุนแรง หรือมีอาการคล้ายโปลิโอ ส่วนที่รุนแรงมากจนอาจเสียชีวิตจะเป็นแบบสมองอักเสบ ซึ่งมีอาการอักเสบส่วนก้านสมอง ทำให้หมดสติ หากเกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจะทำให้เกิดหัวใจวาย ความดันโลหิตจะต่ำ มีอาการหัวใจวาย และ/หรือมีภาวะน้ำท่วมปอด

 

อาการของโรคมือเท้าปาก

     ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่จะไม่แสดงอาการป่วยหรืออาจพบอาการเพียงเล็กน้อย เช่น มีไข้ ปวดศีรษะ คลื่นไส้ ปวดเมื่อย เป็นต้น จะปรากฏอาการดังกล่าว 3-5 วัน แล้วหายได้เอง สำหรับผู้ที่มีอาการมักจะเริ่มด้วยไข้ เบื่ออาหาร ครั่นเนื้อครั่นตัวเจ็บคอ หลังจากไข้ 1-2 วันจะเห็นแผลแดงเล็กๆที่ปากโดยเป็นตุ่มน้ำในระยะแรกและแตกเป็นแผล ตำแหน่งของแผลมักจะอยู่ที่เพดานปาก หลังจากนั้นอีก1-2 วันจะเกิดผื่นที่มือและเท้า แต่ก็อาจจะเกิดที่แขน และก้นได้ เด็กที่เจ็บปากมากอาจจะขาดน้ำ

1. ไข้  มีอาการไข้สูงอาจเกิน 39 องศาเซลเซียส2 วันแล้วจะมีไข้ต่ำๆ ประมาณ 37.5 - 38.5 องศาเซลเซียส อีก 3-5 วัน

2. เจ็บคอ เจ็บในปากกลืนน้ำลายไม่ได้ ไม่กินอาหาร

3. พบตุ่มแผลในปาก ส่วนใหญ่พบที่เพดานอ่อนลิ้น กระพุ้งแก้ม อาจมี 1 แผล หรือ 2-3 แผล ขนาด 4-8 มิลลิลิตร เป็นสาเหตุให้เด็กไม่ดูดนม ไม่กินอาหารเพราะเจ็บ ผื่นหรือแผลในปากจะเกิดหลังจากไข้ 1-2 วัน

4. ปวดศีรษะ

5. พบตุ่มพอง (vesicles) สีขาวขุ่นบนฐานรอบสีแดง ขนาด 3-7 มิลลิเมตร บริเวณด้านข้างของนิ้วมือ นิ้วเท้า บางครั้งพบที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ส้นเท้า ส่วนมากมีจำนวน 5-6 ตุ่ม เวลากดจะเจ็บ ส่วนใหญ่ไม่ค่อยแตกเป็นแผล จะหายไปได้เองในเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ 

6. เบื่ออาหาร

7.เด็กจะหงุดหงิด

8.ในเด็กโตจะบ่นปวดศีรษะ ปวดหลัง อาจมีอาเจียน เจ็บคอ น้ำลายไหล จากนั้นจะพบตุ่มพองใส ขนาด 1-2 มิลลิเมตร2 ข้างของบริเวณเหนือต่อมทอนซิล (anteriar fauces) ซึ่งอาจแตกเป็นแผล หลังจากระยะ 2-3 วันแรก แผลจะใหญ่ขึ้นเป็น 3-4 มิลลิเมตร จะเห็นเป็นสีขาวเหลืองอยู่บนฐานสีแดงโดยรอบ ทำให้มีอาการเจ็บคอหรือกลืนลำบากเวลาดูดนมหรือกินอาหาร เด็กจะมีอาการน้ำลายไหล ส่วนใหญ่จะหายได้เองภายใน 3-6 วันค่ะ 

 

ระยะฝักตัวของโรคมือเท้าปาก หมายถึงระยะตั้งแต่ได้รับเชื้อจนกระทั่งเกิดอาการใช้เวลาประมาณ 4-6 วัน

 

การติดต่อของโรคมือเท้าปาก โรคนี้มักจะติดต่อในสัปดาห์แรก เชื้อนี้ติดต่อจาก

1. จากมือที่เปื้อนน้ำมูก น้ำลาย และอุจจาระของผู้ป่วยหรือผู้ติดเชื้อ (ซึ่งอาจจะยังไม่มีอาการ) หรือน้ำในตุ่มพองหรือแผลของผู้ป่วย

2. การหายใจเอาเชื้อที่แพร่กระจายจากละอองฝอยของการไอ จาม ของผู้ป่วยหรือผู้ติดเชื้อ (droplet spread)

ระยะที่แพร่เชื้อของโรคมือเท้าปาก

  ประมาณอาทิตย์แรกของการเจ็บป่วย เชื้อนั้นอาจจะอยู่ในร่างกายได้เป็นสัปดาห์หลังจากอาการดีขึ้้นแล้ว ซึ่งยังสามารถติดต่อสู่ผู้อื่นได้แม้ว่าจะหายแล้ว การแพร่เชื้อมักเกิดได้ง่ายในช่วงสัปดาห์แรกของการป่วย ซึ่งมีเชื้อออกมามาก เชื้อจะอยู่ในลำคอ ประมาณ 2-3 สัปดาห์ ไวรัสเข้าสู่ร่างกายทางเยื่อบุของคอหอยและลำไส้ เพิ่มจำนวนที่ทอนซิลและเนื้อเยื่อของระบบน้ำเหลืองบริเวณลำไส้ และเชื้อจะออกมากับอุจจาระ ยังไม่มีหลักฐานที่เชื่อถือได้ว่า การแพร่กระจายของโรคเกิดจากแมลง น้ำ อาหาร หรือขยะ 

 

การป้องกันโรคมือเท้าปาก

 โรคมือเท้าปาก  จะติดต่อจากคนสู่คนโดยการสัมผัส น้ำมูก น้ำลาย เสมหะของผู้ป่วย รวมทั้งน้ำจากตุ่ม และอุจาระ การลดความเสี่ยงของการติดต่อทำได้โดย

  • ล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำ โดยเฉพาะเมื่อสัมผัสกับเด็กที่ป่วย
  • ล้างมือให้สะอาดก่อนและหลังเตรียมอาหาร
  • ล้างมือหลังจากเข้าห้องน้ำ
  • ล้างมือก่อนและหลังป้อนนมให้เด็ก
  • ใช้ช้อนกลางและหลีกเลี่ยงการใช้แก้วน้ำหรือหลอดดูดน้ำร่วมกัน
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้ป่วย สวมถุงมือเมื่อจะทำแผลผู้ป่วย
  • ระมัดระวังการไอจามรดกันให้ใช้ผ้าปิดปากปิดจมูก
  • หลีกเลี่ยงที่มีคนมาก ไม่ควรนำเด็กเล็กไปในที่ชุมชนสาธารณที่มีคนอยู่เป็นจำนวนมากๆ เช่น สนามเด็กเล่นและห้างสรรพสินค้า ตลาด สระว่ายน้ำ
  • ทำความสะอาดอุปกรณ์ที่มีการจับบ่อย เช่นลูกบิด โทรศัพท์
  • ไม่แบ่งของเล่นกับเด็กปกติ
  • เด็กที่ป่วยให้หยุดเรียน ให้อยู่แต่บ้าน
  • ดูแลบ้าน โรงเรียน ให้สะอาดอยู่ตลอดเวลา

 

 

 

 

     

         ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงรวดเร็วมาก เด็กๆ เจ็บป่วยกันมากค่ะ ผู้ปกครอง พ่อ แม่ เมื่อทราบว่าลูกป่วยโรคนี้ ก็มีทุกข์ใจมากค่ะ ....ผู้เขียนหวังว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านบันทึกนี้นะคะ

 

ขอบคุณที่ให้เกียรติอ่านบทความนี้ค่ะ

หมายเลขบันทึก: 562364เขียนเมื่อ 21 กุมภาพันธ์ 2014 16:41 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 กุมภาพันธ์ 2014 16:41 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

-สวัสดีครับพี่หมอ..

-เป็นโรคที่น่ากลัวมากนะครับพี่หมอ..

-ใครมีลูกเล็กเด็กแดงต้องดูแลกันหนอ่ย..

-อาการโดยทั่วไปคล้าย ๆกันกับโรคอื่น ๆ

-คงต้องดูแลอย่างใกล้ชิดนะครับ..

-ขอบคุณครับ..

เกิดกับเด็กทำให้น่าสงสารนะครับ

ข่วยๆกันป้องกันรักษานะครับ

น่าจะรีบ ทบทวน งานวิจัย ทั่วโลกว่า มีสมุนไพรอะไร ที่ง่ายๆๆ ที่มีหลักฐานงานวิจัย ว่า ยับยั้งเชื้อไวรัส กลุ่มนี้ได้ดี ให้เป็นทางเลือก ทางเสริม มากกว่า ให้แต่ยาลดไข้ พารา

หลานข้างบ้านก็เป็นค่ะ กลับจากไปเล่นทรายริมทะเลมาก ร้องไห้ใหญ่เลยค่ะ เพราะทานนมไม่ได้

I will keep this as my hygiene must-do #1

โรคมือเท้าปาก จะติดต่อจากคนสู่คนโดยการสัมผัส น้ำมูก น้ำลาย เสมหะของผู้ป่วย รวมทั้งน้ำจากตุ่ม และอุจาระ การลดความเสี่ยงของการติดต่อทำได้โดย

  • ล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำ
  • เกิดขึ้นกับเด็กๆด้วย เอาแค่กับผู้ใหญ่อย่างเราๆ ก็คงแย่มากอยู่แล้ว..
  • ขอบคุณความรู้ครับ

ความรู้นี้มีประโยชน์มากครับ ขอบคุณมากครับผม

ขอบคุณที่เผยแพร่โรคภัยไข้เจ็บเช่นนี้...รู้ทัน...ระวังดูแล ป้องกัน และรักษาอย่างถูกต้อง...ขอบคุณค่ะ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท