พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสอนพสกนิกรชาวไทย ด้วยคำง่ายๆ วิธีคำสอนฟังแล้วเข้าใจง่ายของท่าน ท่านทรงสอนธรรมดา แบบพ่อสอนลูก จึงเป็นสิ่งที่เป็นพลัง เป็นแรงบันดาลใจให้ดิฉันเรียนรู้และต่อสู้ และรู้จักการใช้ชีวิตแบบ “พึ่งตนเอง” “พออยู่พอกิน” “พอเพียง” หลักการ 3 พ. ที่ใครๆ ก็สามารถทำได้ รวมทั้งตัวผู้อ่านด้วย
พึ่งตนเอง คือ ความสามารถในการดำรงตนอยู่อย่างอิสระ มั่นคง ดังคำที่ว่า “ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน” ซึ่งหมายถึงการทำสิ่งต่างๆ ได้ด้วยตนเอง เราเป็นมนุษย์ซึ่งต่างก็มีศักยภาพ แท้จริงแล้วเราสามารถทำอะไรหลายอย่างได้ด้วยตนเอง ดิฉันลงมือปลูกข้าวด้วยตนเองเป็นปีที่ 3 บนเนื้อที่ประมาณ 3 ไร่ ด้วยวิถีดั้งเดิมหรือเกษตรอินทรีย์ ที่พึ่งพาเทคโนโลยีเท่าที่จำเป็น(ใช้รถไถนา) เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่าย การปลูกข้าวที่คุ้มค่าคือต้องเอาใจใส่ ดูแลวัชพืชต่างๆ เรียนรู้เรื่องความช่วยเหลือเกื้อกูลกันกับเพื่อนบ้าน ซึ่งทำให้เข้าใจว่าการพึ่งตนเองนั้น ไม่ใช่การใช้ชีวิตอยู่อย่างลำพัง แต่คือการทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีและพร้อมที่จะแบ่งปันออกสู่สังคม คนที่ปลูกอาหารกินเองได้ถือว่าปลูกอาหารเลี้ยงคนอื่นได้ด้วย(ภูมิใจมากๆ)
ความพออยู่พอกิน เป็นหลักการง่ายๆ ในเรื่องของ ‘ความพอดี’ คือไม่น้อยเกินไปและไม่มากเกินไป อีกทั้งไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น
พระองค์ทรงโปรดเกล้ามีพระราชดำริ ให้รู้จัก ว่าพอเพียง และ เพียงพอ คำพ่อสอน เศรษฐกิจให้เริ่มจากในครัวเรือน วางรากฐาน เป็นพี้นฐาน เลี้ยงครอบครัว แบ่งจัดสรร พื้นที่ดิน เขตใช้สอย หนึ่งปลูกผัก พืชสวนครัว และไม้ผล แนะขุดบ่อคลองไว้ใช้น้ำ และเลี้ยงสัตว์ อีกพืชผัก สมุนไพรให้เต็มสวน ข้าวในนา ปลาในน้ำ ไม่ยากจน หากอดทน รู้ขยัน รู้พอเพียงเดินตามหลักแนวปรัชญาคำพ่อสอน เป็นระยะเวลาร่วม 10 ปีที่ดิฉันปฏิบัติมา หลายอย่างเริ่มดีขึ้น พืชผัก ผลไม้ พืชสมุนไพร เต็มสวน มีน้ำมีปลา มีแพะ มีวัว มีไก่เนื้อ ไก่พันธ์ไข่ สิ่งที่ตามมาปุ๋ยคอก ปุ๋ยชีวภาพ เกิดระบบนิเวศทางธรรมชาติ มีนก มีผึ้ง และสัตว์ตามธรรมชาติอีกหลายชนิด ร่มเย็นมีความสุขอย่างแท้จริงค่ะ
ขอบพระคุณทุกๆท่านที่แวะเยี่ยมบ้านสวนนะคะ
โชคดีมีความสุขทุกๆวันค่ะ
ในหลวงให้มาดีเเล้วครับ... เเต่เราก็สามารถต่อยอดให้ดีขึ้นได้ครับ..