จริง ๆอยากเขียนบันทึกนี้ตั้งแต่เมื่อวาน นึก ๆ คิด ๆ เอาไว้ เพราะหมดเวลาต้องรีบไปรับเด็ก ๆ ...สาเหตุก็เพราะเมื่อวานมีกลิ่น... ไม่หอม นั่นเองแต่ไม่ได้หมายถึงพี่กลิ่นที่อยู่หน่วย OPD Lab. น๊ะค๊ะ แต่เป็นกลิ่นที่โชยมาจากห้องเก็บศพต่างหาก...
ผู้เขียนไม่ได้คิดจะลบหลู่แต่อย่างใด เนื่องจากห้องทำงานของหน่วยเคมีตั้งอยู่บนห้องเก็บศพพบดิบพอดี และเราก็ทำบุญเป็นประเพณีกันปีละครั้ง แต่เมื่อใดก็ตามที่มีศพที่เสียชีวิตมาหลายวันไม่ว่าจากสาเหตุใดก็ตาม ที่นำมาชันสูตรพวกเราจะรับรู้ได้โดยอัตโนมัติ แม้จะเป็นริดสีดวงจมูก เอ๊ย ! ไซนัสก็ตาม...
ใครก็ตามที่ใช้เส้นทางนี้ผู้เขียนสังเกตุเห็นพากันรีบจ้ำอ้าว ! ประเภทไม่พูดไม่คุย มือก็ปิดปากปิดจมูกเป็นพัลวัน ...
ผู้เขียนได้พูดคุยกับนายดำและอีกหลาย ๆคน เพราะเห็นบางคนแอบบ่น ก็เลยพยายามปลอบใจว่า พวกเรายังไม่เท่าไรหรอกน๊ะ คนที่มีหน้าที่โดยตรงนั่นน่ะ หนักกว่าเราหลายเท่า สมควรที่จะได้บุญมหาศาล...จะว่าไปแล้วลองคิดไปอีกแง่มุม หรือเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส เราน่ะโชคดีด้วยซ้ำไป เพราะทำให้เรา..."ปลง" ได้เพราะ "กลิ่น" นี้แหละจะช่วยเตือน....ว่ายังไงก็คงจะหนีความตายไม่พ้นเป็นแน่...
ดูเหมือนทกุคนที่คุยด้วยจะเออออห่อหมก แต่ก็ยังอดบอกไม่ได้ว่า "เมื่อตายแล้วขอให้ลูกหลานเก็บศพไวไว อย่าทิ้งไว้หลายวัน"....บางคนนึกปลงตาม แต่ก็อดบอกไม่ได้ว่า "อย่าให้มีกลิ่นแบบนี้บ่อยก็แล้วกัน"...
ทุกเช้าผู้เขียนมาทำงานจะเดินผ่านหน้าห้องเก็บศพทุกวันแม้แต่ตอนกลับ จำได้ว่าคุณย่าของพวกเด็ก ๆ ก็เคยถามว่าไม่กลัวหรือ ?? ผู้เขียนตอบว่า "กลัวค่ะ กลัวผีด้วย แต่เราไม่ได้ไปทำร้ายอะไรเขา เราทำงานโรงพยาบาลแม้จะทำงานห้อง Lab. แต่ก็เหมือนช่วยผู้ป่วยอยู่ห่าง ๆ" และบ่อยครั้งไปไม่ว่าจะเดินสวนทางกัน หรือเดินตามหลัง(ศพ) อยู่บ่อย ๆ แต่ในใจของผู้เขียนจะท่องเสมอนั่นคือ
"สัพเพสัตตา สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ ฯ" ในแบบฉบับ version ความจำสั้นของผู้เขียน
พี่เม่ยและครูอ้อยค๊ะ --ถ้าไม่บอกผู้เขียนไม่เชื่อ...ว่ากลัวผี--อิ อิ เรื่องแบบนี้ห้ามลบหลู่เป็นอันขาด
คุณ sompornp ค๊ะ เห็นด้วยมาก ๆ (บางครั้ง บางทีและบางหน) คนเป็นน่ะน่ากลัวกว่าเยอะ กำลังลุ้น ๆอยู่ค่ะ อยากจะให้มีการปรับปรุงห้องเก็บศพ ให้มีกลิ่นเล็ดลอดออกมาน้อยที่สุด