ฝึกงานวันที่สอง
วันนี้ พี่เล็ก - ณัฐทิพย์ วิทยาภรณ์ หัวหน้าช่วงชั้นที่ ๒ ได้เล่าให้ฟังถึงการทำ Lesson Study ในช่วงชั้นว่า สิ่งที่สำคัญคือการจัดตารางเวลาให้ครู เพื่อทำ Pre While Post ด้วยการนำเอาเวลาในการทำ Lesson Study มาลงในตารางเวลาการทำงานของครูแต่ละคนให้ลงตัว และแนะนำว่าเราต้องกันเวลาไว้สำหรับการเตรียมสอนให้ครูด้วย เพื่อที่เขาจะสามารถเอาเวลาที่เหลือมาพัฒนางานในการทำ Lesson Study ได้ด้วย แล้วครูก็จะสามารถทำ KM ของเขาเอง จากการนำแบบบันทึก แบบสะท้อนหลังสอนมาใคร่ครวญ และสะท้อนคิดร่วมกับคู่หู หรือกลุ่มครูในหน่วยวิชาเดียวกัน เพื่อให้เกิดการพัฒนางานไปเรื่อยๆ ไม่มีหยุด (ทำไป พัฒนาไป)
ในการสุ่มเปิดชั้นเรียนวิชาต่างๆ ควรมีการจัดตารางการทำงานของหัวหน้าช่วงชั้นและผู้ช่วยหัวหน้าช่วงชั้นให้เอื้อต่อการเข้าร่วมกิจกรรม Lesson Study ด้วย
พี่ปราง – ปรางอุษา ตันติอนันท์กุล ที่ปรึกษาหน่วยวิชา ESL ช่วงชั้นที่ ๑ – ๒ ที่ทำงานประกันคุณภาพการสอนครู เล่าให้ฟังว่า หน้าที่ของพี่เขาคือการเข้าไปสังเกตการณ์สอนในห้องแล้วสะท้อนคุณภาพการเรียนการสอนของคุณครู ด้วยการถามถึงแนวคิดในการออกแบบกระบวนการเรียนรู้ที่เขาใช้ในวันนั้นๆ แล้วสะท้อนสิ่งที่เราเห็นให้เขาฟัง เมื่อเขาเปิดใจอยากรับคำแนะนำของเรา เมื่อนั้นจึงค่อยบอกแนวคิด และคำแนะนำไป นอกจากนี้พี่ปรางยังมีหน้าที่ดูว่า การสอนของครูเป็นไปไปในทิศทางของโรงเรียนหรือไม่ และยังต้องคอยช่วยเหลือ สนับสนุน รวมถึงเข้าสอนแทนครูในบางครั้ง
เมื่อถึงเวลา ๙.๕๐ น. ในห้องพี่ปาดมีการประชุมวงขับเคลื่อนช่วงชั้น ที่มีผู้เข้าร่วมประชุมคือ พี่ปาด – รองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ พี่ใหม่ – ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านการจัดการความรู้ หัวหน้าช่วงชั้นที่ ๑ - ๒ ผู้ช่วยหัวหน้าช่วงชั้นที่ ๑ - ๒ คุณครูจากส่วนงานวิชาการ และส่วนงานมาตรฐานการศึกษาและการเทียบโอน วงประชุมวงนี้มีสมาชิกประจำ ๑๔ คน ที่จะเข้ามาพูดคุยแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันทุกวันอังคาร
ลำดับขั้นตอนของวง
๑. Check in สมาชิกคนใดคนหนึ่งเป็นเปิดวงด้วยการเคาะระฆังแห่งสติ และกล่าวนำการภาวนา จากนั้นให้แต่ละคนสะท้อนความรู้สึกปัจจุบัน แลกเปลี่ยนเรื่องทุกข์สุขกัน บ้างก็ให้กำลังใจกัน เป็นการหันกลับเข้ามามาดูความรู้สึกของตัวเอง แล้วสะท้อนออกมาแบ่งปันให้กับวง
๒. แต่ละคนเป็นเจ้าของพื้นที่ร่วมกัน เสนอวาระขึ้นมาได้ทุกคน ไม่มีใครเป็นประธานหรือเป็นเจ้าของวง
๓. Check out คล้าย AAR สะท้อนสิ่งที่ได้เรียนรู้
วาระประชุม ของวงในวันนี้คือ
สาระสำคัญจากการแลกเปลี่ยนวิธีการทำงานของผู้นำช่วงชั้น สรุปได้ดังนี้
การเข้าสังเกตการณ์ชั้นเรียน
๑. ในห้องที่มีครูใหม่เข้าสอน หัวหน้าช่วงชั้นจะเข้าสังเกตชั้นเรียนมากกว่า ๒ ครั้งต่อสัปดาห์
๒. ครูที่สอนในแต่ละวิชาจะมีครูคู่วิชามาเข้าสังเกตชั้นเรียนตามตารางการทำงานที่หัวหน้าช่วงชั้นจัดไว้
๓. คุณครูทุกคนจะทราบตารางการเข้าสังเกตชั้นเรียนของหัวหน้าช่วงชั้น และคุณครูเจ้าของห้องจะต้องส่งแผนการจัดการเรียนรู้ให้กับหัวหน้าช่วงชั้นทุกครั้ง
ประโยชน์ที่ได้รับจากการสังเกตการณ์ชั้นเรียน
๑. เวลาครูพบปัญหาเรื่องแผนการเรียนรู้ และพฤติกรรมนักเรียน หัวหน้าช่วงชั้นจะแนะนำได้ง่ายขึ้น
๒. หัวหน้าช่วงชั้นเห็นภาพรวม แล้วสามารถวิเคราะห์ได้ว่า ครูคนไหนมีจุดอ่อนแข็ง จุดอ่อนเรื่องอะไร และสามารถระบุเหตุของปัญหาได้ มีข้อมูลในการนำมาตัดสินใจได้ว่าจะแก้ไขอย่างไร สามารถสร้างทางเลือกได้หลายทาง และสามารถประเมินสถานการณ์ให้ครูเห็นและแก้ปัญหาได้อย่างเหมาะสม ถูกต้องกับสถานการณ์
องค์กรเรียนรู้ในช่วงชั้น
เน้นการทำงานแบบร่วมมือแนวนอน และเชื่อมทีมเล็กๆ เข้าหากันได้ สามารถแตะมือเข้าออกจากงานกันได้ แชร์ปัญหา หาทางแก้ไข และช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้ รู้ว่าใครทำอะไรอยู่ มีการปรับตัวอย่างเป็นธรรมชาติ แต่จะไม่ผูกกันไปทุกเรื่อง
การเปิดชั้นเรียน
หลังจากการประชุมวงขับเคลื่อนช่วงชั้น พี่นุ่น – พรพิมล เกษมโอภาส ผู้ช่วยหัวหน้าช่วงชั้นที่ ๒ ได้มาเติมความรู้ในเรื่องของการเปิดชั้นเรียนที่ฉันจะได้เข้าไปสังเกตการณ์ห้องพี่นุ่นในวันพรุ่งนี้ว่า ประกอบไปด้วย ๓ ขั้นตอน คือ
๑. ขั้น Pre: ผู้สอนระดับชั้นเดียวกัน วิชาเดียวกันมาร่วมกันเตรียมแผนการสอน
๒. ขั้น While : สอนในห้องตามแผน โดยมีทีมครูและครูที่สนใจมาร่วมสังเกตการณ์สอน (เดินดูได้ แต่ไม่ควรมีปฏิสัมพันธ์กับเด็ก)
๓. ขั้น Post : สะท้อนผลการสังเกตและเสนอแนะเพื่อปรับปรุงพัฒนาในครั้งต่อไป
ฉันสงสัยเรื่องขั้นตอนการเปิดชั้นเรียนว่าต้องทำยังไงบ้าง จึงได้รับคำตอบจากพี่นุ่นซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญที่เคยผ่านประสบการณ์มาอย่างโชกโชนว่า เรื่องสำคัญคือการวางตารางเวลาสำหรับ ครูที่เปิดชั้นเรียน และครูที่จะมาเข้าร่วมกระบวนการเรียนรู้นร่วมกันในครั้งนี้
การจัดตารางเวลาเพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้เข้าร่วม
๑. ถ้าครู ก อาสาจะเปิดชั้นเรียน หัวหน้าช่วงชั้นจะต้องจัดให้ตารางสอนห้องของครู ก สอนนำคนอื่น รวมทั้งต้องจัดให้ครูที่สอนในหน่วยวิชานั้นทุกคน (แนวนอน=ครูสอนในหน่วยวิชานั้นที่อยู่ในช่วงชั้นเดียวกัน , แนวดิ่ง = ครูสอนหน่วยวิชานั้นทั้ง ๒ ช่วงชั้น) ให้ว่างตรงกัน ทั้งขั้น Pre ขั้น While (สำคัญสุด) และขั้น Post ให้ครบทั้ง ๓ ขั้นตอน เพราะถ้าเข้าได้ไม่ครบการเรียนรู้จะขาดช่วง โดยครูทุกคนที่อยู่ในหน่วยวิชาเดียวกันจะต้องส่งตารางสอนมาให้หัวหน้าช่วงชั้นเพื่อการจัดตารางให้เหมาะสม
๒. ในการเปิดชั้นเรียนต้องเปิดทั้งหมด ๓ รอบอย่างต่อเนื่อง แต่ละรอบจะประกอบด้วย Pre, While, Post โดยในขั้น While จะใช้เวลา ๒ คาบเรียน หรือ ๙๐ นาทีติดต่อกัน
ขั้นตอนการเปิดชั้นเรียน
Pre A1 (วางโครงของการเปิดชั้นเรียน ทั้ง ๓ ครั้งล่วงหน้าคร่าวๆ) -> Pre A2 (วางแผนกระบวนการเรียนรู้ While A อย่างละเอียด) -> While A -> Post A -> Pre B -> While B -> Post B -> Pre C -> While -> C Post C (ถ้าเด็กยังไปไม่ถึงเป้าหมายก็จะต้องเพิ่มรอบ D และ E ต่อไป)
ฟังที่พี่ๆ เล่าแล้วฉันได้รู้ว่า กว่าจะได้มาซึ่งวิชาการสอนที่ไร้เทียมทาน ต้องแลกมาด้วยความเหน็ดเหนื่อยมหาศาลเลยเหมือนกัน พี่อ้อ – วนิดา สายทองอินทร์ หัวหน้าพัฒนาหน่วยวิชาภูมิปัญญาภาษาไทย คุณครูที่เคยเปิดชั้นเรียนถึงรอบ E เล่าให้ฟังว่า หากเราวางตัวตน ลดอัตตาของตัวเองได้ ก็จะพัฒนาตนเองด้วยกระบวนการของ Lesson study ได้ง่ายและราบรื่น เพราะจะได้เรียนรู้และเติบโตจากกระบวนการนี้มาก
การทำงานของครูคู่วิชาที่สอนในระดับชั้นเดียวกัน
ในการจัดตารางงานของคุณครู หัวหน้าช่วงชั้นต้องจัดตารางให้ครูคู่นี้สามารถ Pre While Post กันได้อย่างน้อย ๑ ห้องเรียน (ครูทุกคนสอน ๒ ห้อง)
ในขณะที่สอน อาจจะมีหัวหน้าช่วงชั้นหรือครูท่านอื่นเข้าไปสังเกตในห้อง ซึ่งหากพบประเด็นที่ต้องพัฒนาก็จะแนะนำให้แก้ไข และจะมีการตามเข้ามาดูอีกครั้งในรอบถัดไป การที่ครูจัดกระบวนการเรียนรู้ชุดเดิมซ้ำอีกครั้งในห้องเรียนถัดไป จะช่วยให้ครูผู้สังเกตสามารถเปรียบเทียบ และหาสาเหตุของความผิดพลาดได้เร็วขึ้น หรือไม่ต้องพบกับความผิดพลาดนั้นเลยหากปรับได้ทันเวลา วิธีการนี้จะช่วยให้ครูเก่งขึ้นเรื่อยๆ และมีแผนการเรียนรู้ที่ดีขึ้นเรื่อยๆ
ไม่มีความเห็น