ขุดออมสิน


ชาวบ้านหลายๆ คนถือว่าไข่แมงมัน คือ "ทรัพย์ในดิน" หรือ "ออมสินในดิน" ที่ธรรมชาติสร้างสรรค์เอาไว้ หากใครขุดเจอ คนนั้นก็จะมีรายได้เพิ่มอย่างงาม

เรื่องเล่าจากบ้านแม่ตาด  :

 

ขุดออมสิน

 

 

 

 

          หลายวันก่อนเพื่อนบ้านมาชวนผมไปขุด "ไข่แมงมัน" ซึ่งเป็นวิถีชีวิตอีกอย่างหนึ่งของชาวบ้านแม่ตาดในช่วงนี้ 

          อันว่า "แมงมัน" นั้น เป็นสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆ ในตระกูลของมด (ทางอีสานเรียกว่า "แมงก้นต่ง") แม่ของแมงมันจะออกสีส้มๆ อาศัยอยู่ในโพรงดิน แมงมันจะวางไข่ในช่วงฤดูหนาว พอถึงช่วงต้นฤดูฝนก็จะกลายเป็นมดขนาดใหญ่ที่มีปีกและจะออกจากโพรงมาตอมแสงไฟเพื่อผสมพันธุ์

          แมงมัน มี 2 ชนิด คือ "แมงมันก่ำ" กับ "แมงมันคา"

          แมงมันก่ำ...ตัวใหญ่กว่า สีน้ำตาล ไข่มีขนาดใหญ่กว่า กินได้ทั้งไข่และตัวแมงมันที่โตเต็มวัยแล้ว

          ส่วนแมงมันคานั้น ตัวสีเหลือง มีขนาดเล็ก กินได้เฉพาะไข่เท่านั้น ส่วนตัวแมงมันกินไม่ได้ เพราะรสขมมากๆ

          ช่วงนี้ เป็นช่วงที่แมงมันกำลังวางไข่ ชาวบ้านทางภาคเหนือเลยนิยมพากันขุดไข่แมงมันเอามาบริโภคและจำหน่าย โดยไข่ขนาดเล็กที่เรียกว่า "แย็บ" จะขายประมาณ กก.ละ 500 บาท ส่วนไข่ขนาดใหญ่(คล้ายไข่มดแดง) ขาย กก.ละประมาณ 700-1000 บาท ซึ่งสามารถสร้างรายได้เสริมให้กับชาวบ้านได้อย่างงามเลยทีเดียว

          ชาวบ้านหลายๆ คนถือว่าไข่แมงมัน คือ "ทรัพย์ในดิน" หรือ "ออมสินในดิน" ที่ธรรมชาติสร้างสรรค์เอาไว้ หากใครขุดเจอ คนนั้นก็จะมีรายได้เพิ่มอย่างงาม  หลายวันก่อนมีชาวบ้านครอบครัวหนึ่งซึ่งมีความเชี่ยวชาญพากันไปขุดแมงมันได้หลายโพรง ปรากฏว่าวันเดียวสามารถขุดแมงมันมาขายได้ถึง 7,000 บาทเลยทีเดียว

          ทั้งนี้  ไข่แมงมันมีโปรตีนค่อนข้างสูง สามารถนำไปทำเมนูอาหารได้หลายอย่าง เช่น  แกง  นึ่ง  ตุ๋น ยำ และดอง(จ่อม) เป็นต้น ซึ่งรับรองได้ว่าอร่อยทุกๆ เมนู

          วันนั้น.... ผมกับเพื่อนบ้านพากันขุดไข่แมงมันได้ 2 หลุม หลุ่มแรกได้ไม่ค่อยเยอะ แต่หลุมที่สองได้ไข่แมงมันเยอะพอสมควร เก็บเอาไว้กินส่วนหนึ่ง ที่เหลือก็ขายให้คนอื่น ได้เงินมาแบ่งกันคนละ 300 บาท.....สบายใจเฉิบ  555

          วันนี้ ก็เลยเก็บภาพตอนขุดแมงมันหรือ "ขุดออมสิน" เอามาให้ชมด้วยนะครับ

 

 

 

 

 

 

นักธรณีวิทยาผู้เชี่ยวชาญกำลังทำการวิจัยโพรงแมงมัน

 

เจอแมงมันแล้วววววววววววววว

 

มดสีส้มตัวเล็กๆ คือ แม่แมงมัน
ส่วนไข่สีขาวขนาดเล็กที่ยังไม่โตเต็มที่เรียกว่า "แย๊บ"

 

กำลังกรองและล้างเอาดินออก

 ไข่แย๊บ...ที่ล้างเอาดินออกแล้ว

 

 

โพรงนี้ไข่โตเต็มที่แล้ว

หากเจอแบบนี้ก็เหมือนกับเจอ "ขุมทรัพย์" หรือ "ออมสิน" กระปุกใหญ่เลยทีเดียว

 

นักธรณีวิทยาอาวุโสกำลังตักไข่แมงมันใส่กระสอบ

 

ไข่แมงมันที่โตเต็มที่จะคล้ายกับไข่มดแดง เพียงแต่จะใหญ่กว่า สั้นกว่า ใสกว่า และอร่อยกว่า

 

ต้องตักอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้ไข่แมงมันแตก

 

ไข่แมงมันสดๆ จากโพรงดิน

 

ไข่แมงมันที่ล้างสะอาดเรียบร้อยแล้ว

ช่วงนี้ขาย กก.ละ 700-1000 บาท

 

ถ้วยเล็กขนาดนี้ ขายถ้วยละ 25 บาท

 

ตุ๋นไข่แมงมันใส่ไข่ไก่

 

แมงมันที่โตเต็มวัยแล้ว

(ภาพจากอินเตอร์เน็ต)

 แมงมันทอด....อีกหนึ่งเมนูที่หายากและราคาแพง

(ภาพจากอินเทอร์เน็ต)

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 560966เขียนเมื่อ 5 กุมภาพันธ์ 2014 11:21 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 กุมภาพันธ์ 2014 11:40 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (21)

ตัวแม่มันจะกัดไหมครับเวลาไปขุด

เห็นอย่างไข่มดแดงแอง ยังโดนกัดกระโดดโลดเต้นสนุกสนานเลยล่ะครับ

ขุดแมงมันมาก ๆ จะมีวันหมดนะ แต่ขุดความร้ายของรัฐบาลขุดไม่หมด

แถวบ้านเรียกว่าการขุดหาไข่มด ซึ่งไข่มดนี้จะมีราคาแพงมาก กว่าจะขุดหาได้นั้นยากมากๆ และ ไม่ทราบว่าที่ตอนต่อไปมันคือ แมงมัน เพราะแม่เคยขุดได้ และถ้าเจอโพรงดินขนาดใหญ่ที่มีมดและไขมดอยู่ก็จะโชคดี

-สวัสดีครับท่าน..

-นักธรณีวิทยาอาวุโสทั้งหลายเจ๋งมาก ๆนะครับ

-ไม่ได้ขุดแมงมันนานแล้ว.

-ราคาแพงซะด้วย..

-งานนี้ท่านได้ส่วนแบ่งไปมากพอดู..ฮ่า ๆ

-ราคาถ้วยละซาวห้าบาท...พอซื้อนะครับ..

-สบายดีนะครับท่าน..

-ขอบคุณครับ

-เอาบุญมาฝากครับ..

สวัสดีครับ พี่ พ.แจ่มจำรัส

เวลาแมงมันกัดจะเจ็บเล็กน้อยนะครับ แต่คันมากๆ เลยทีเดียว

ไข่แมงมันจะคล้ายๆ กับไข่มดแดง ต่างกันตรงที่ว่าไข่มดแดงอยู่บนยอดไม้ ส่วนไข่แมงมันอยู่ใต้ดิน ไข่มดแดงจะยาวและขุ่นกว่า ส่วนไข่แมงมันจะใหญ่กว่า ใสกว่า และสั้นกว่า

แมงมันที่โตเต็มวัย(ภาคอีสานเรียกว่า...แมงก้นต่ง) ก็จะคล้ายๆ กับแม่เป้งมดแดงนะครับ ต่างกันตรงที่ว่าแมงมันจะออกสีแดงๆ รสชาติมันๆ ส่วนแม่เป้งมดแดงจะออกสีเขียวๆ และรสชาติเปรี้ยว แต่ไม่ว่าจะเป็นแมงมันหรือแม่เป้งมดแดงต่างก็กินได้เหมือนกันนะครับ

สวัสดีครับ ท่าน pap2498

ผมขออนุญาตไม่แสดงความคิดเห็นทางการเมืองนะครับ 555

สวัสดีครับ คุณสายม่าน

ไม่ทราบว่าคุณสายม่านเป็นคนที่ไหนเอ่ย? เป็นคนเหนือหรือเปล่าครับ?

ไข่มดที่กล่าวมา น่าจะเป็นไข่แมงมันเหมือนในบันทึกนี้แหละนะครับ เพียงแต่อาจจะเรียกชื่อต่างกันเท่านั้นเอง

สวัสดีครับ คุณ เพชรน้ำหนึ่ง

ช่วงนี้นอกจากผมจะเป็น "นักธรณีวิทยา" แล้ว ก็ยังเป็น "นักกีฏโภชนา" ด้วยนะครับ 555

วันก่อนได้ส่วนแบ่งแค่ 300 บาท เพราะไข่แมงมัน "เต้ง" เพียงหลุมเดียว แต่ปีที่แล้วขุดวันเดียว(3 คน)ได้ส่วนแบ่งมาคนละ 1000 บาท ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับโชคและไข่แมงมันว่ามันจะ "เต้ง" หรือเปล่าด้วยนะครับ

ผมและครอบครัวสบายดีครับ หวังว่าคุณเพชรและครอบครัวคงจะสบายดีเช่นกันนะครับ

สวัสดีค่ะ..คุณ อักขณิช....อ่านแล้ว..คิดถึง..มด..น้ำตาล..ที่ชนเผ่าดั้งเดิมใน..ออสเตเรีย..ขุดหา..กินน้ำตาล..จากตัวมด.....(เคยพบมดชนิดนี้..บ้างไหม..ในประเทศไทย...ช่วยถาม..ท่าน..นัก..ธรณีวิทยา..ปราชญ์ชาวบ้านให้ด้วยจ้ะ...ยายธี

...เป็นเมนูไม่ธรรมดา...เพราะต้องอาศัยนักธรณีวิทยานะคะ

ถึงเวลากินไข่แมงมันอีกแล้วหรือคับ

โพรงแรกคับน่าจะให้ไข่โตก่อนน่ะคับ ลูกเล็กๆเองคับ

ไข่ที่โตแล้วน่าจะกินอร่อยกว่าไหมคับ

การเมืองดีสังคมก็ดีด้วย

อ่านบันทึกของท่านอักขณิศ บันทึกนี้เป็นคำรบ 3 แล้ว ชอบๆๆๆๆๆ แต่ยังไม่ได้ปุจฉา วิสัชนา เลย จ้ะ...

ปุจฉา....ท่านสังเกตร่องรอยได้ดังฤๅ ... ว่าร่องรอยบนผิวดินแบบใดกัน...จึงจะเป็น...ออมสิน..ขุมทรัพย์มหาศาลของแมงมัน

วิสัชนา....

สวัสดีครับ คุณยายธี

มดน้ำตาล...ที่บ้านแม่ตาดไม่มีนะครับ และคิดว่าในเมืองไทยก็คงไม่มีอยู่เช่นกัน น่าจะมีอยู่เฉพาะถิ่นในออสเตรเลียเท่านั้น

แต่ถ้าหากเป็น "มดขนน้ำตาล" อันนี้มีให้เห็นเกือบทุกวันเลยครับ เผลอเปิดกระปุกน้ำตาลเอาไว้ไม่ได้เลยเชียว 555

สวัสดีครับ อาจารย์ ดร. พจนา แย้มนัยนา

การขุดไข่แมงมันเป็นวิถีชีวิตอย่างหนึ่งของชาวบ้านแถวนี้ เขาขุดแมงมันทุกปีๆ ละหลายครั้ง สั่งสมประสบการณ์จนกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องการขุดแมงมัน ทำให้รู้ว่าตรงจุดใดน่าจะมีแมงมันอาศัยอยู่

ผมสังเกตเห็นความชำนาญของชาวบ้าน ก็เลยเรียกเขาว่า "นักธรณีวิทยา" เพราะในการขุดแมงมันนั้นจะต้องมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องดินด้วย ตอนพากันไปขุดแมงมันเราก็จะใช้คำว่า "พากันไปวิจัยดิน" นะครับ เพราะต้องขุดดินขึ้นมาตรวจดูก่อนทุกครั้งว่ามีแมงมันอยู่หรือเปล่า

บางครั้งผมก็เรียกพวกเขาว่า "นักกีฏโภชนา" เนื่องจากมีความรู้เรื่องแมลงเกือบทุกชนิด รู้ว่าแมลงชนิดไหนกินได้หรือกินไม่ได้ด้วย

ก็เรียกกันแบบเฮฮาสนุกสนานกันเล่นๆ นะครับ 555

สวัสดีครับ พี่ยง

ช่วงนี้ถึงฤดูกาลขุดแมงมันอีกแล้วละครับ (ประมาณ ม.ค.-มี.ค. ของทุกๆ ปี)

ไข่เล็กๆ หากขุดเจอแล้วก็ต้องเอามานะครับ เพราะสามารถนำมากินหรือขายได้ หากปล่อยไว้ไข่จะเน่าเสียเปล่าๆ

ส่วนไข่ที่โตเต็มที่แล้ว รสชาติอร่อยมากๆ ครับ อร่อยกว่าไข่มดแดงเสียอีกนะครับ

สวัสดีครับ ท่าน pap2498

ข้อนี้ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งครับ

สวัสดีครับ คุณมะเดื่อ

แสดงว่าคุณมะเดื่อเป็นแฟนพันธุ์ของผมและสนใจเรื่องไข่แมงมันมากๆ เลยนะครับเนี่ย 555

ตอนไปนี้คือการ "วิสัชนา" เรื่องการขุดแมงมันนะครับ ตามคำเรียกร้องครับ 555

# วิธีการสังเกตว่าจุดใดน่าจะมีแมงมันอาศัยอยู่นั้น มีข้อสังเกตดังนี้ครับ คือ แถวๆ นั้นน้ำไม่ท่วม เป็นเนินดินเล็กๆ หรือมีจอมปลวกอาศัยอยู่....จากนั้นก็ลงมือขุดดินบริเวณนั้น ลึกประมาณ 1 ศอก กว้าง 1 ศอก แล้วให้สังเกตดูว่ามี "แม่แมงมัน"(มดสีส้มตัวเล็กๆ)อยู่ไหม ซึ่งบางทีอาจจะขุดหลายๆ จุด หากพบแม่แมงมันแล้ว ก็ขุดให้กว้างขึ้น แล้วก็สังเกตหา "รู" ที่แมงมันไต่ออกมา เมื่อผมแล้วก็ขุดตามรูไปเรื่อยๆ ในที่สุดก็จะพบ "โพรงแมงมัน" (กระปุกออมสิน)เองครับ (ยิ่งขุดใกล้จะถึงโพรง แม่แมงมันจะออกมาเยอะมากขึ้น และมีรูเพิ่มมากขึ้นด้วย) จากนั้นก็ทำการตักไข่แมงมันใส่กระสอบ และเอาไปล้างน้ำให้สะอาด เสร็จแล้วก็จะได้ไข่แมงมันที่ใสสะอาด หากกินก็อร่อยสุดๆ แต่ถ้าหากขายก็ได้ราคางามเลยละครับ

อย่างไรก็ตาม การขุดไข่แมงมันนั้น บางครั้งก็ขึ้นอยู่กับโชคลาภด้วยนะครับ บางครั้งขุดทั้งวันแต่ไม่ได้เลยสักหลุมก็มี เหนื่อยหรือเสียแรงเปล่า(บางโพรงกว่าจะขุดเจอโพรง ก็ต้องขุดดินยาวเป็น 10 เมตรเลยทีเดียว) ในขณะที่บางวันโชคดี ขุดแป๊บเดียวด็เจอและได้วันละหลายโพรงเลยทีเดียว

ช่วงนี้แมงมันที่บ้านแม่ตาดกำลังมีเยอะ ว่างๆ ก็ขอเชิญคุณมะเดื่อมาศึกษาดูงานการขุดไข่แมงมันได้นะครับ "นักธรณีวิทยา" บ้านแม่ตาดทุกคนยินดีต้อนรับและพร้อมที่จะถ่ายทอดความรู้ให้อย่างไม่ปิดบังเลยละครับ 555

ออกจากเชียงใหม่ ไปอยู่พิษณุโลกนานมาก สารพัดแมลงที่เคยกินสมัยเด็ก ๆ ระยะนี้ไม่เลือกกินแล้วครับ

เพราะกลัววิธีการปรุง ที่สำคัญเท่าที่เลือกกิน(อยู่บ้าง) ก็เบียดเบียนชีวิตสัตว์อื่นพอตัวอยู่แล้ว

สวัสดีครับ คุณคณิน อุดมความสุ

ที่ชาวบ้านแม่ตาด การขุดแมงมันถือเป็นวิถีชีวิตอย่างหนึ่งนะครับ ซึ่งนอกจากจะนำมาเป็นอาหารแล้วก็ยังทำให้มีรายได้ด้วย เรียกว่า ปากท้องต้องมาก่อนเสมอนะครับ

เมื่อก่อนไม่ยุ่งการเมืองเลย แต่เดี่๋ยวนี้เห็นจากการเสพข่าวแล้วพิจารณาเองบ้างจากสังคมบ้างจึงเห็นความไม่โปร่งใส อยากเห็นประเทศก้าวหน้า ก้าวไกล กลัวเพื่อนบ้านตามทัน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท