ประชุม WORLD LEISURE ณ เมืองจีน


ขณะที่เขียนบันทึกนี้ ความรู้สึก Cultural Shock ยังคงอยู่ในความทรงจำของผม ความรู้สึก “รักเมืองไทย” เป็นความรู้สึกที่คอยให้กำลังใจตนเองเสมอ
 

ผมลองพยายามนึกรายการที่ตนเองประทับใจและไม่ประทับใจในการเดินทางมาประชุม World Leisure ณ เมือง Hangzhou และเยี่ยมเพื่อน ณ เมือง Shanghai

 

ความประทับคือการได้เจอเพื่อน และการดูแลของเพื่อนในเรื่องที่พักอาศัยและการกินอยู่ ทำให้ผมมีความสุขมากๆ และคิดถึงประโยคที่ว่า เพื่อนดีๆนั้นไม่ปล่อยให้เพื่อนลำบาก ผมยังได้มีโอกาสรู้จักเพื่อนใหม่ๆในยามที่มีปัญหาในการติดต่อสื่อสารกับคนจีนที่นั้น ทำให้ผมรู้ว่ามิตรภาพที่ดีสามารถผ่านความรู้สึกออกมาด้วยอวัจนภาษาและความมีคุณธรรม หรือบางครั้งมิตรภาพอาจเกิดจากการซื้อบริการที่ดีจากพนักงานโรงแรมและบริการการท่องเที่ยวธรรมชาติและวัฒนธรรมเชิงอนุรักษ์

 

ส่วนเรื่องไม่ประทับใจ ได้แก่ การถูกโกงค่าบริการ Taxi-ความไม่มีน้ำใจช่วยเหลือ-ไม่พยายามเข้าใจภาษาต่างชาติ-ไม่มีคำขอโทษของบางคน-ความไม่รักษาความสะอาด-ไม่เป็นระเบียบในคนหมู่มาก เป็นต้น ผมพยายามวิเคราะห์เหตุการณ์อย่างเป็นกลาง กล่าวคือ จำนวนประชากรจีนที่มีมากก่อให้เกิดปัญหาการด้อยโอกาสทางการศึกษาภาคบังคับ พร้อมๆกับปัญหาการปลูกฝังคุณธรรมแก่คนในสังคม ผมยอมรับว่าความเป็นประเทศขนาดใหญ่ที่มีการปกครองแบบคอมมิวนิสต์และความยากจนของคนส่วนใหญ่ในสังคม อาจทำให้แต่ละคนรู้จักมีความอดทน ขยันขันแข็งทำงาน และรักครอบครัว แต่พวกเขาเหล่านี้ขาดคุณธรรมของการเป็นพลเมืองที่ดีของสังคม ได้แก่ การรู้จักช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยบุคลิกภาพที่สุภาพอ่อนโยน เป็นต้น

 

เปรียบเทียบกับประชาชนไทยส่วนใหญ่ การปกครองแบบประชาธิปไตยและดำเนินชีวิตด้วยหลักธรรมะทำให้ สยามเมืองยิ้ม เต็มไปด้วยคนไทยที่ยิ้มแย้มแจ่มใสและช่วยเหลือผู้อื่นด้วยความจริงใจ จริงอยู่ที่บางครั้งชาวตะวันตกพยายามสร้างวัตถุนิยมให้กับเมืองเล็กๆ ทั้งไทยหรือจีน เพื่อสร้างรายได้ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ด้วยหลักการของ การใช้เวลาว่างให้มีประโยชน์ ออกในแนว Commercial Leisure

 แต่ในความเป็นจริง Leisure Education ที่เน้นการพัฒนาคุณธรรมและสร้างทัศนคติที่ดีแก่คนในสังคม เช่นการใช้ในเวลาว่างเพื่อรักษาความสวยงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมสถาน น่าจะเป็นสิ่งที่ถูกต้องมากกว่า 
คำสำคัญ (Tags): #social#activity
หมายเลขบันทึก: 55853เขียนเมื่อ 26 ตุลาคม 2006 16:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 16:10 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
เห็นด้วยเลยกับความไม่พยายามสื่อสารกับคนต่างชาติของคนจีน (อาจเป็นเฉพาะบางกลุ่มรึเปล่าไม่รู้) เพราะเจอมาแล้ว และเมื่อเปรียบเทียบกับคนญี่ปุ่นที่ถือว่าเป็นชาตินิยมแล้วเค้าพยายามที่จะสื่อสารกับเราให้เข้าใจมากกว่าถึงแม้ว่าเค้าจะพูดไม่ได้เหมือนกัน ทำให้เรารู้สึกสนุกเวลาไปที่ไหนๆเพราะถึงแม้พูดไม่รู้เรื่องแต่ก็เข้าใจกันได้ :) แถมเรื่องความสุภาพนี่ผิดกันจริงเลย สงสัยถ้าใครไม่รู้อาจคิดว่าเป็นโรคบ้าญี่ปุ่นไปแล้ว

Many thanks krab Kes...

I have read your weblog...there are quite professional images you took from Japan...

See you soon at the end of year krab...

Miss you my dear friend...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท