มองเราเองแล้วหรือยัง?


                หลายคนเคยค้นหาข้อดี จุดเด่น จัดอันดับ ของประเทศไทยในเวทีระดับอาเซียน เอเชีย และโลก แต่จะมีสักกี่คนที่ค้นหาคำว่า "ข้อเสีย" "จุดด้อย" ของประเทศไทย...เพื่อที่จะมองย้อนกลับมาถามตัวเองว่า...ถึงเวลาหรือยังที่เราจะเปิดกะลายอมรับความจริงกับประเทศของเราเสียที.....

                ผมสนับสนุนสื่อโทรทัศน์หลายช่องหลายรายการที่นำเสนอปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในท้องถิ่นต่างๆที่ไม่ได้รับการเยียวยาอย่างจริงจัง สะท้อนมุมมอง แง่คิดของคนในชุมชน หรือคนที่เขาเดือดร้อนจริงๆว่าปัญหาจริงๆมันคืออะไร แล้วเราจะแก้ปัญหาด้วยวิธีใด หน่วยงานเกี่ยวข้องจะต้องรีบเร่งดำเนินงานอย่างไรเพื่อ แก้ปัญหาให้เป็นรูปธรรม เพราะเรามีแต่โฆษณาที่แนะนำประเทศในทางที่ดี สื่อภาพลักษณ์ประเทศว่ามีข้อดี จุดเด่นอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วก็เปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านว่าเราเจ๋งสุด เราดีสุด เราจะดีจากข้างในจริงๆเมื่อไหร่ ดีอย่างที่ไม่ต้องเอาไปเปรียบเทียบกับใคร ประเทศไหน ดีที่เริ่มต้นที่ตัวเราเอง ครอบครับสู่ชุมชน ชุมชนสู่สังคม สังคมสู่ภูมิภาค ภูมิภาคสู่ประเทศ สร้างพื้นฐานให้แข็งแรงก่อนไม่ได้เหรอ ประชาชนไม่ใช่เหรอที่เป็นรากฐานแห่งความมั่นคงที่แท้จริง เพราะเรามีแนวคิดอนุรักษ์นิยมเฉยๆแต่ไม่ได้ส่งเสริมความเป็นไทยอย่างแท้จริง ความเป็นไทยมีหลายอย่างและเกิดขึ้นหลายช่วง เราจะเอาความเป็นไทยในอดีตหรือความเป็นไทยที่เกิดจากการปลูกฝังสามัญสำนึกในสมัยปฏิวัติประเทศรัฐบาลจอมพลป. ความเป็นไทยคืออะไร? กระทรวงวัฒนธรรมส่งเสริมจริงจังแค่ไหน วัฒนธรรมไม่สามารถปรับปรุง บูรณาการเข้ากับสมัยใหม่ได้อย่างนั้นหรือ ศิลปะ ภาษา สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลสมัยทั้งนั้น ไท หรือ ไทย เจตนารมณ์จริงๆแล้วหมายถึงอะไร เพราะเราเข้าข้างตัวเองมากไปว่าเราดูดี ยิ่งใหญ่ เป็นเอกราชไม่เคยตกเป็นเมืองขึ้นของใคร ทั้งๆที่ประวัติศาสตร์ฟ้องเห็นๆ แต่เรากลับบอกไม่ใช่ เพราะคนไทยพิกวิกฤตเป็นโอกาสได้เสมอมา เราจะอยู่กับโลกแห่งความเชื่อ หรือโลกแห่งความเป็นจริงก็อยู่ที่ว่าเราจะเปิดใจยอมรับความจริงหรือเปล่า เราชอบด่ากันเองว่า ไอ้ลาวบ้าง ไอ้เขมรบ้าง ไอ้พม่าบ้าง แล้วเขาจะมองเราอย่างไร ถ้าเขาเอาคำว่า"ไทย" เราไปด่ากันบ้าง เราจะรู้สึกอย่างไร ถ้าจะชาตินิยมที่ไม่เป็นอารยะจริงๆก็จงอย่าเป็นชาตินิยมเลย สิ่งที่สำคัญกว่านั้นผมกลับมองว่าเป็นเรื่องของวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ของคนในชาติ ปากท้อง ชนชั้น ที่เราควรมองว่าเป็นปัญหาร่วมกันของคนในชาติ ไม่ใช่แค่ปัญหาหนึ่งปัญหาใดของรัฐบาล หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง หรือ คนไยคนใดคนหนึ่ง เรามักคิดไปเองว่าคนไทยมีอุปนิสัยรักและสามัคคีกัน แล้วคนที่ไม่เป็นอย่างนั้นก็มีมันก็ไม่ใช่คนไทยน่ะสิ คนไทยเป็นพวกชอบดูถูก...เอาความเชื่ออยู่เหนือเหตุผล เอาอุดมการณ์เหนือความถูกต้อง ถามว่าเมื่อไหร่เราจะพัฒนา ... ไม่มีใครตอบได้หรอกครับ ตราบใดที่ยังคงเห็นปัญหาเกิดขึ้นภายในประเทศ ประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรม ปากท้องของประชาชน การทำมาหากินในยุคข้าวยากหมากแพง มันยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง เป็นกระแส...แต่ก็ไม่จีรังยั่งยืน การพัฒนาไม่ได้เน้นนโยบายยั่งยืน เปลี่ยนมือ เปลี่ยนรัฐบาล นโยบายบ้างก็สานต่อ บ้างก็ก่อใหม่ ยังไม่ทันได้เห็นเป็นรูปธรรมก็เปลี่ยนรัฐบาล ทั้งโดยยุบสภา โดยการเลือกตั้ง โดยม๊อบ โดยเหตุผลอื่นๆทางการเมือง ขาดความเป็นเอกภาพ ไร้เสถียรภาพไม่ว่ากลุ่มหรือหน่วยงานใด เอาความฉลาดมากกว่าความดี เอาคนเก่งมากกว่าคนดี ขาดการปลูกฝังจิตสำนึกให้กับเยาวชน เพราะอะไร....? ก็เพราะ หาผู้ใหญ่ที่จะเป็นตัวอย่างดีๆยากแล้วทุกวันนี้ แม้แต่นักวิชาการ นักวิจารณ์ นักอะไรต่อมิอะไร คุณภาพการศึกษาตกต่ำ เด็กก็ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ในช่วงหลังๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง อนุรักษ์นิยม ทรงผม การแต่งกาย ทุกอย่างมันถูกเปิดผนึก เปิดจิตเปิดใจออกมา เพื่อสะท้อนปัญหาของสังคมไทย ว่าทำไมถึงไม่พัฒนาเสียที ปัญหาการเมือง สังคม เศรษฐกิจ อาชญากรรม การก่อการร้าย การประท้วง คุณภาพชีวิต ค่าครองชีพ ปัญหายาเสพติด เอดส์ สุขลักษณะ สาธารณูปโภค ความเครียด ขาดการสำรวจความพึงพอใจ การสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ปัญหาพุทธศาสนาเสื่อมเพราะมีการหากินด้วยบนชายผ้าเหลือง ปัญหาคอรัปชัน การทุจริตการเลือกตั้ง ประเทศไทยประสบปัญหาเหล่านี้แทบทุกวัน การแก้ปัญหาไม่เป็นรุปธรรม ขาดความใส่ใจ ทั้งรัฐเอง ประชาชนเอง ผมว่ามันถึงเวลาที่เราต้องหันหน้ามาคุยกันเพื่อหาทางออกของประเทสอย่างจริงจังแล้ว การให้อภัย การให้โอกาส เป็นสิ่งที่ดีนะผมว่าถ้าเราทำได้ เราเป็นชาวพุทธแต่กลับไม่เคยนำหลักพุทธอะไรเลยมาใช้แก้ปัญหา ใช้แต่อารมณ์ ใช้แต่ความรู้สึก ใช้แต่จิตวิญาณ อดมการณ์อันแรงกล้าที่จะปฏิวัติ หัวรุนแรง การแทรกแซงการก้าวก่าย การละเมิดสิทธิ หน้าที่ซึ่งกันและกันและบอกว่าทำเพื่อประเทศ แล้วประเทศคืออะไร ผมนะมองว่าประเทศจริงๆในความหมายก็คือ คนทุกคนที่มีสัญชาติเดียวกันอยู่ร่วมกันนสังคมเดียวกัน รวมทั้งประชากรทุกคนภายในดินแดนเดียวกัน มันไม่ใช่พื้นดิน พื้นน้ำเลย สิ่งเหล่าเป็นแค่องค์ประกอบรอง หลักจริงๆก็คือ มนุษย์ คนเรานี่แหละครับ เราไม่ทำเพื่อคน แล้วจะทำเพื่ออะไร การอนุรักษ์ การส่งเสริมการรักษ์พลังงาน ก็ล้วนแล้วแต่เพื่อมนุษย์ทั้งนั้น เพื่อให้เรามีทรัพยากรใช้อย่างยั่งยืน มีอากาศที่บริสุทธิ์ ทุกอย่างทำเพื่อมนุษย์ทั้งนั้น ถ้าทำเพื่อประเทศจริงคุณต้องทำเพื่อคน ไม่ใช่อุดมการณ์ ทำเพื่อคนไทยทุกคน ทำเพื่อเพื่อนมนุษย์ทุกๆคน เชื่อว่าเราทุกคนต้องการเห็นประเทศของเราเจริญขึ้น ไม่ใช่เจริญด้านคุณวัตถุ แต่เจริญปัญญา(ซึ่งไม่ได้หมายความถึงความฉลาดเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นคุณธรรม ความดีงาม ความเห็นแจ้งแห่งสัจธรรม ความจริงแท้ของชีวิตมนุษย์) อนาคตประเทศนี้อยู่ในมือของคนในประเทศนี้เท่านั้น ปัญหาเกิดที่ใดก็แก้ที่นั่น ยอมรับผิดด้วยจิตสำนึกที่รับผิดจริงๆ คิดดี ทำดี เป็นตัวของตัวเอง อยู่และใช้ชีวิตอย่างให้กำลังใจกันเถิดครับ หยุดทำร้ายกัน หยุดทำร้ายประเทศไทยเสียที........

                ทำความดี.....ละเว้นความชั่ว.....ทำจิตใจให้ผ่องใส สร้างวินัยและจิตสำนึกให้กับตัวเองกันเถิดครับ ชีวิตนี้ไม่มีอะไรแน่นอนไปกว่าความตายอีกแล้ว ชีวิตที่ยังเหลืออยู่ ก็ทำให้ชีวิตมีความสุขที่สุด ทำให้คนรอบข้างมีความสุขที่สุด ทำให้สังคมน่าอยู่ แค่นั้นแหละครับ สัจธรรมของชีวิตมนุษย์ ถ้าเป็นไปได้ก็คุ้มแล้วชีวิตนี้ที่ครั้งหนึ่งเคยเกิดมาเป็นมนุษย์......

อภิรักษ์ เส็งไธสง

 

หมายเลขบันทึก: 558367เขียนเมื่อ 6 มกราคม 2014 12:09 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 มกราคม 2014 12:09 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

เห็นด้วยนะน้อง.. เราหลงบ้ากันไปใหญ่ละ ว่า เมื่อรวมกันเราจะเป็นหนึ่งเดียว..พี่คิดว่า เด็กๆ ยังมองไม่เห็นข้อเสียเลย ถูกแต่รัฐและมหาลัย สื่อโฆษณา กันไปเอง ผู้ใหญ่ก็รู้อยู่ว่า เรามีปัญหากันเชิงประวัติศาสตร์มาแล้วทั้งสิ้นในอาเซี่ยนเอง เรารู้เราดีพอยัง เรารู้เขาดีพอไหม เรามองด้านเดียวหรือไม่ เราควรใช้นโยบาย "แสวงจุดร่วม สำรวมจุดต่าง" ให้เป็น มิฉะนั้น มันจะกลายเป็นปัญหาที่ยุ่งเหยิงกันไปใหญ่ พี่จะเขียนเรื่องนี้สักกวัน.. ดูๆไป เหมือนเราจะกลายเป็นทะเลลึกที่จะรองรับปัญหา ผู้คน ภัยความมั่นคง โรคร้าย อาชญากรรมข้ามชาติ วัฒนธรรมลูกผสม ฯ ที่จะถาถม ไหลสู่ไทยเพิ่มขึ้น จนกลายเป็น Multi-culturalism เฉกเช่นอเมริกัน ที่กลายเป็นเป้าหมายอพยพของคนทั่วโลก แล้วอะไรเกิดขึ้น ศึกษาดู

ขอบคุณนะครับที่เสนอข้อคิดดีๆให้อ่าน

ขอบคุณความคิดเห็นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพิ่มพูนทัศนคติที่ดีมากๆครับ

...เอาความเชื่ออยู่เหนือเหตุผล ....เอาอุดมการณ์เหนือความถูกต้อง ......ถามว่าเมื่อไหร่เราจะพัฒนา.... ชอบจังเลยประโยคนี้ค่ะ..


ขอบคุณค่ะ


ขอบนะคุณครับผม ^^ ผมเชื่อว่าคนเราทุกคนไม่ได้ต้องการอะไรไปมากกว่า การอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข

บ้านเราเมืองเรา ยังต้องยกเครื่องกันอีกหลายเรื่องครับ ในวังวนของลัทธิบริโภคนิยม ผู้คนหันไปบูชาวัตถุจนเสื่อมธรรมะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท