ปิดปีใหม่ ๒๕๕๗ ย่าหยุดงาน ๕ วัน...พวกเราอยู่พร้อมหน้า พร้อมตากันทั้งครอบครัว...ลุงภัครกลับมาจาก กทม. เนื่องจากทำวิทยานิพนธ์เสร็จแล้ว ส่งให้อาจารย์ที่ปรึกษาตรวจ รอการนำไปปรับแก้ต่อไป...พวกเราอยู่กันครบทุกคน...นี่คือ ความรัก - ความอบอุ่นของเรา "ชีวิตครอบครัว"...
ย่าหมู - ปู่ต้น ก็มาจากปทุมฯ เพื่อมาเยี่ยมตาทวด...ปีนี้ ตาทวดจะอายุครบ ๘๐ ปี แล้ว...อาการของโรคที่ตาทวดเป็นนั้น เป็นอย่างที่หมอบอกทุกเรื่อง...สมองของตาทวดเริ่มจำได้น้อยลง ช่วงนี้ เริ่มไม่ค่อยรับรู้อะไรแล้ว จำคนไม่ค่อยได้...แม้แต่ย่าหมู ปกติตาทวดจะจำได้ แต่มาคราวนี้ ถามว่าใคร? ตาทวดตอบว่า "ไม่รู้"...พวกเราก็ได้แต่ทำใจ และทำหน้าที่ลูก - หลาน เลี้ยงดูท่านต่อไป...
ช่วงหยุดงานในตอนกลางวัน พวกเราไปนาที่พ่อเพรียงของ "ฟ้าคราม" ได้ทำไว้ในครั้งนี้...ฟ้าครามก็ไปด้วย...ครั้งนี้ ย่าเห็นความเปลี่ยนแปลงของหนูมากขึ้น...หนูเดินได้ไกลมาก เกือบกิโล...สิ่งนี้แหล่ะที่ย่าคิดว่า..."หนูจะเป็นเด็กที่แข็งแรงเพราะว่าได้เดินไกล ๆ เหมือนกับการออกกำลังกาย"...พัฒนาการด้านต่าง ๆ ของหนูก็มีเพิ่มมากขึ้น...แม้แต่พ่อเพรียงยังบอกกับแม่อ้อมว่า...ทำไมไอ้ฟ้าฯ มันพูดรู้เรื่องมากเลย ไม่เหมือนแต่ก่อนที่พูดไม่ค่อยจะฟังหรือรู้เรื่อง...ย่าว่า...ความจำของหนูเร็วมาก เพราะตอนนี้หนูอายุเพียงแค่ ๒ ขวบครึ่งเอง...แต่หนูรู้และสามารถแยกแยะสิ่งต่าง ๆ ได้แล้ว...ย่ายังคิดว่า...หนูมีพัฒนาการที่เร็วมาก
มีอยู่คืนหนึ่ง ย่านำ i Pad ของลุงภัครซึ่งย่าชาร์ตแบต ฯ ไว้เต็ม ๑๐๐ % ไปเปิดดู หนูขอย่าเล่น Youtube เปิดเล่นของเล่น เช่น การปั้นดินน้ำมัน ฟังเพลง เป่าโป่ง ฯลฯ ซึ่งหนูสามารถเปิดดูได้ด้วยตัวของหนูเอง...หนูกำลังเล่นอยู่...พอดีลุงภัครเข้ามาเห็น บอกกับหนูว่า..."ฟ้าฯ หนูเอา i Pad ของหนูไปสิ อันนี้ของลุงนะ เพราะลุงภัครกลัวฟ้าครามทำหล่น :):)"...หนูก็ส่งให้...ลุงภัครไปเปิดดูเห็นย่าชาร์ตแบตฯ เต็มไว้ ก็พูดต่อว่า...เออ!!! ดี แบตฯ เต็มเลย ของ i Pad ของฟ้าฯ มีแค่ ๓๗ % เองนะ...เท่านั้นเอง...หนูก็โต้ตอบลุงภัครทันทีและหันมาบอกกับย่าว่า..."ลุงภัครนิสัยไม่ดี คริ ๆ ๆ" หนูช่างต่อว่าเสียด้วย...รู้ด้วยว่า ถ้าหนูเล่น i Pad ของหนูซึ่งแบตฯ เหลือเพียงแค่ ๓๗ % สักประเดี๋ยวแบตฯ ก็จะอ่อน แล้วหนูจะเล่นต่อไม่ได้ ต้องชาร์ตแบตฯ ก่อน...
แล้วหนูก็ยังไม่ฟ้องพ่อเพรียงอีกว่า "ลุงภัครนิสัยไม่ดี" อิอิ...ช่างจำ ช่างรู้เสียจริง ๆ "นางฟ้าฯ น้อย ของย่า"...ซึ่งหนูก็เริ่มแยกแยะได้แล้วว่าอะไรเป็นอย่างไร?...ส่วนพ่อเพรียงก็ช่างใจดีเสียเหลือเกิน ไปลากข้าวให้เขาแล้วเจอลูกหมาน้อยที่เจ้าของนำไปทิ้งไว้ อายุเพียงไม่ถึง ๑ เดือนเลย ก็เก็บเอามาให้ปู่เรเลี้ยงอีก นอกจากเจ้ากาแฟแล้ว ปู่เรเลยตั้งชื่อให้ว่า "เจ้าฟาร์ม" ซนมาก ปากเปราะ ช่างประจบ...ฟ้าครามบอกย่าว่า..."รักมัน" รักหมา รักแมว...นี่ก็เป็นการฝึกให้หนูมีจิตใจที่เป็นคนที่มีเมตตา ต่อสัตว์ ต่อผู้อื่นได้อีกทางหนึ่ง
ช่วงนี้พ่อเพรีงของหนูก็ปลูกผักกินได้ เช่น ถั่ว แตง ฯลฯ เพื่อกินและนำไปขายในตลาดด้วย...
ขอขอบคุณสำหรับดอกไม้กำลังใจค่ะ :):)
ความรัก ความอบอุ่น ความเข้าใจ คือ สายใยรักของครอบครัว นะคะ
ขอบคุณค่ะ ดร.เปิ้ล :):)