ฉบับที่ ๖ “..... คุณหมอตัวน้อย”
ฉบับที่ ๖ “..... คุณหมอตัวน้อย”
คุณ จรรยา ใจหนุน เขียนเรื่องเล่าส่งมาที่ ศจย.และได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการให้นำเสนอในเวทีการแลกเปลี่ยนความรู้ ในการประชุมบุหรี่กับสุขภาพแห่งชาติครั้งที่ 10 วันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ.2554 ที่โรงแรมมิราเคิลแกรด์ จึงจะนำเรื่องของ คุณ จรรยา ใจหนุน มาเล่าต่อเพื่อเสริมสร้างกำลังใจให้กับคนที่ยอมแพ้ให้กับบุหรี่
..... คุณหมอตัวน้อย
จรรยา ใจหนุน
พยาบาลวิชาชีพ ชำนาญการ
โรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จ.ตาก
ฉันทำงานด้านการบำบัดผู้ติดบุหรี่มานานพอสมควร เคยได้ยินผู้ป่วยที่มาขอเลิกบุหรี่หลายคนบอกว่า อยากเลิกเพราะ “ลูกหลานขอร้อง” ที่สำคัญมีผู้ใหญ่บางคนเลิกได้สำเร็จเสียด้วย ฉันมีความสนใจประเด็นนี้เป็นที่สุดว่า เด็กมีวิธีการทำให้ผู้ใหญ่หยุดสูบบุหรี่ได้อย่างไร ฉันเริ่มเรียนรู้อย่างจริงจัง ก็พบว่า เด็กส่วนใหญ่ได้รับข้อมูลมาจากโรงเรียนว่าบุหรี่เป็นสิ่งไม่ดี ครั้งเมื่อน้องณัฐลูกชายของฉันยังเรียนชั้นอนุบาล วันหนึ่งเขาถามฉันว่า “คุณแม่ครับ วันนี้คุณครูถามเพื่อนในห้องว่า พ่อของใครสูบบุหรี่บ้างหนูเห็นเพื่อนๆที่ยกมือบอกว่า ไม่อยากยกมือเลย อายเพื่อนที่มีพ่อสูบบุหรี่ เพื่อนคนหนึ่งบอกว่า อยากให้คุณพ่อเลิกสูบบุหรี่ กลัวคุณพ่อเป็นมะเร็ง” นั่งเงียบไปสักครู่ฉันก็ได้ยินลูกชายพูดด้วยสีหน้ายิ้มแป้นแล้วก็หูบยิ้มลงทันทีว่า “หนูโชคดีที่มีคุณพ่อไม่สูบบุหรี่ แต่คุณย่ายังสูบบุหรี่อยู่เลย เฮ้อ.. จะทำอย่างไรให้คุณย่าเลิกสูบดีนะ”
คุณย่าของน้องณัฐสูบบุหรี่ตั้งแต่เด็กแล้วก็เป็นโรคความดันโลหิตสูง สูบมานานจนไม่มีความคิดจะเลิกสูบ ฉันเคยได้ยินหลานสาวตัวน้อยแอบมาเล่าให้พี่ณัฐ “เรามาช่วยกันทำให้คุณย่าเลิกสูบบุหรี่กันนะ ให้น้องหมิวบ่นให้คุณย่าฟังทุกวันเลยนะ พี่ณัฐจะช่วยด้วย” ได้ผลดีเหมือนกันเพราะช่วงหลังๆไม่เห็นคุณย่าสูบบุหรี่ให้เห็น แต่คุณย่าก็ยังเลิกสูบบุหรี่ไม่ได้ ฉันรู้สึกเห็นใจและชื่นชมความตั้งใจของทั้งสองคน
ทุกปีช่วงปลายเดือนพฤษภาคมน้องณัฐจะตื่นเต้นเป็นพิเศษเพราะรู้ว่าจะถึงวันงดสูบบุหรี่โลก “ปีนี้จะต้องชวนคุณย่าเลิกสูบบุหรี่ให้ได้ คุณแม่ครับ ขอปากกาสัก 1 แท่ง จะเอาไปเป็นของขวัญให้คุณย่า” ปากกาที่น้องณัฐขอเป็นปากกามีฉลากเขียนไว้สวยงามว่า “กำลังใจสู่วันใหม่ไร้ควันบุหรี่” ฉันเห็นความตั้งใจของลูกชายมาตลอดจึงได้ให้กำลังใจและให้คำแนะนำเพิ่มเติม “หนูจะไม่ยอมแพ้คุณย่าหรอก ถ้าคุณย่ายังไม่เลิกสูบ หนูก็จะไม่เลิกชวน น้องหมิวยอมแพ้ก็ไม่เป็นไร”
น้องณัฐจากคนที่ขี้อาย ไม่ค่อยพูด ไม่กล้าแสดงออกในห้องเรียน สื่อบุหรี่ทำให้เขาค้นพบตัวเองว่า เขาสามารถพูดชักชวนคนได้ ที่สำคัญเขาสามารถชวนคุณย่าให้เลิกสูบบุหรี่ได้จากคำพูดของคุณย่าที่ว่า “น้องณัฐอุตส่าห์มาชวนย่าได้ทุกปี วันนี้ย่าจะเลิกสูบบุหรี่แล้วเพื่อน้องณัฐ” ใครๆต่างพากันชมว่า “น้องณัฐทำให้คุณย่าเลิกสูบบุหรี่ได้”
ในช่วงสัปดาห์รณรงค์วันงดสูบบุหรี่โลกปี 2552 ทุกเย็นหลังจากออกกำลังกาย เขาจะไปที่บ้านคุณย่าทุกวันพร้อมหอบข้าวของพะรุงพะรัง เช่น สื่อต่างๆทั้งภาพพลิก แผ่นพับ ภาพโปสเตอร์ที่ได้จากมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ที่นำมาติดฟิวเจอร์บอร์ด และเครื่องวัดความดันแบบดิจิตอลที่ฉันมีไว้ใช้ประจำบ้าน เริ่มจากการเดินชวนให้คนมาเที่ยวที่บ้านคุณย่าหลายๆคน และเริ่มให้ความรู้เกี่ยวกับบุหรี่ หลังจากนั้นก็ได้วัดความดันให้กับทุกคนรวมทั้งคุณย่าด้วย สิ่งที่น้องณัฐทำเป็นที่ชื่นชอบของทุกคน “วันนี้มีคนสมัครเลิกบุหรี่กับหนู 2 คน คือคุณย่ากับคุณลุง เยี่ยมเลย”
ฉันไม่กล้าคิดล่วงหน้าว่าพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร น้องณัฐจะผิดหวังหรือสมหวัง แต่สิ่งที่ฉันเห็นและรับรู้คือหัวใจอันบริสุทธิ์ดวงหนึ่งที่อยู่ตรงหน้าช่างเบ่งบานอย่างงดงามยิ่ง
ตัวเอง แล้วพูดอย่างเขินๆว่า “คุณย่าครับ ขอให้คุณย่าเลิกสูบบุหรี่ให้ได้นะครับ สุขภาพจะได้แข็งแรง หนูจะเป็นกำลังใจให้” คุณย่ายิ้มแล้วบอกว่า “ย่าจะเลิกบุหรี่แล้วเพื่อน้องณัฐ”
“คุณย่าเลิกสูบบุหรี่ครบ 1 ปีแล้ว ” และปีนี้น้องณัฐบอกว่า “คุณย่าครับ 2 ปีแล้วนะที่ไม่สูบบุหรี่ ทำต่อไปนะครับ” สำหรับคุณย่านั้นทุกวันนี้ฉันจะได้ยินคนแถวบ้านพูดถึงคุณย่าเสมอว่า “ไม่น่าเชื่อว่ายายถีจะเลิกสูบบุหรี่ได้” เมื่อคนๆหนึ่งเริ่มเห็นว่า ตัวเองมีคนที่รักและให้กำลังใจ ชีวิตก็จะมีความหมายขึ้น จึงยอมเปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่ ที่สำคัญการเปลี่ยนแปลงได้ทำให้อีกชีวิตมีความภาคภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จนั้น
อ่านเรื่องเต็มได้ที่
ศจย.
ความเห็น (3)
-สวัสดีปีใหม่ 2557 นะครับ..
ถูกต้องครับ...กำลังใจสำคัญที่สุด...ขอให้ผู้ที่สูบบุหรี่ใช้วันปีใหม่เพื่อเป็นของขวัญในการเลิกบุหรี่
เป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่อยากเลิกบุหรี่เพื่อเป็นของขวัญให้ตัวเองและคนที่เรารักนะคะ