เมื่อคุณครูจอย – อนุสรา เล่าเรื่องของปอจบแล้ว คุณครูเจน – ญานิสา คำแสน คุณครูหน่วยวิชาภูมิปัญญาภาษาไทย ระดับชั้น ๕ ก็สะท้อนว่า “คนเป็นครูจะรู้สึกดีที่ได้เห็นพัฒนาการของเด็ก” แล้วครูเจนก็เล่าวิธีการสร้างแรงบันดาลใจในชั้นเรียนของตนให้ฟังเป็นการแลกเปลี่ยน
ครูเจนเล่าถึง เบล - ด.ญ. ปัณฑิตา ธูปกระแจะ ว่าโดยปกติแล้วมักจะทำงานช้า จนเพื่อนๆ พากันเรียกเบลด้วยความเอ็นดูว่า อิสซาเบลล่า(...ช้า) เธอชอบวาดภาพ และชอบที่จะเหม่อ เพราะสนุกที่จะคิดเรื่องต่างๆ เบลจึงใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการคิดฝัน ไม่เว้นแม้ในชั่วโมงของครูเจน
วันหนึ่งเบลถามครูเจนว่าขอวาดภาพประกอบได้ไหม ครูตอบว่าอนุญาตให้วาดภาพประกอบได้ตอนเขียนโคลง ๔ บรรยายนิทานเรื่องแพะน้อยเสร็จแล้ว
คำตอบของครูทำให้เบลหันกลับไปทำชิ้นงานที่ครูให้โจทย์ไว้อย่างตั้งใจ และเบลก็สามารถทำให้เสร็จสมบูรณ์ได้โดยใช้เวลาเพียง ๕ นาที !
ยิ่งไปกว่านั้น เบลยังย้อนกลับไปวาดภาพประกอบให้กับชิ้นงานที่เคยทำมาก่อนหน้านี้ จนเกือบครบทุกหน้า เมื่อลองสังเกตภาพประกอบที่เบลวาด ครูก็ได้พบว่าเบลมีแนวโน้มที่จะใช้ภาษาภาพได้ดีกว่าภาษาเขียน ทั้งเส้นและสีของภาพที่เบลวาดฉายความมั่นใจ ความสุข ที่เกิดจากการได้สร้างสรรค์ชิ้นงานออกมาอย่างชัดเจน
ในขณะที่วาดรูป เป็นขณะที่สมองของเบลได้ทบทวนสิ่งที่ได้เรียนรู้ผ่านการเขียนอย่างผ่อนคลาย และสมองก็ได้เรียนรู้อีกครั้งหนึ่ง เมื่อเบลแปลงเรื่องที่เขียนไปแล้วออกมาเป็นภาพประกอบ
อีก ๔ วันถัดมา นับจากวันที่เบลวาดภาพประกอบให้กับคำโคลงแพะน้อย เมื่อครูให้นักเรียนเขียนคำโคลงสี่สุภาพจากนิทานเวตาล เบลมีอาการงอแง และพึมพำออกมาให้ได้ยินว่าไม่อยากทำ
ครูเจนจึงถามเบลว่า “ชื่อหนูแปลว่าอะไรนะ”
เบลตอบว่า “ปัณฑิตา แปลว่า บัณฑิตค่ะ”
ครูเจนบอกกับเบลว่า “บัณฑิตต้องฝึกฝนตนเอง... คราวที่แล้วหนูทำงานเสร็จได้ภายใน ๕ นาที ครูจะคอยดูว่าครั้งนี้หนูจะลบสถิติเดิมได้ไหม”
เสียงเบลดังมาให้ได้ยินว่า “จริงเหรอคะ !”
และในที่สุดเบลก็สามารถรักษาสถิติไว้ได้ด้วยการเขียนงานให้เสร็จสมบูรณ์ได้ภายใน ๕ นาที เช่นเดิม
เสียงอุทานของเบล สะท้อนให้เห็นได้ชัดว่าความสำเร็จในการเขียนคำโคลงของเบล ได้รับแรงกระตุ้นจากงานวาดภาพประกอบซึ่งเป็นทั้งเครื่องจูงใจในการทำงาน และเป็นทั้งเครื่องมือในการสรุปความคิดออกมาเป็นภาพ กระบวนการที่เกิดขึ้นนี้ช่วยให้เบลจัดการกับความคิดของตัวเองได้ดีขึ้น อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้เจ้าตัวได้พบกับศักยภาพในการใช้ภาษาที่มีอยู่ แต่ไม่เคยรู้มาก่อนว่ามี
ในขณะที่เบลทำการแบ่งภาพเล่าเรื่องออกเป็นตอนๆ ในลักษณะของการ์ตูนช่อง เบลกำลังอยู่ในกระบวนการของการย้อนกลับมาทำความเข้าใจกับชิ้นงานที่ตนเองเขียนขึ้นซ้ำอีกครั้งอย่างเพลิดเพลิน เพื่อคิดหาวิธีการถ่ายทอดอย่างสร้างสรรค์ออกมาเป็นภาพ และกำลังสร้างถ้อยคำอีกชุดหนึ่งขึ้นมาถ่ายทอดเนื้อหาเดิม ด้วยสำนวนใหม่ในความเข้าใจของตัวเอง
และชิ้นงานที่เบลสร้างขึ้นจึงเป็นงาน ๓ ภาษา ที่ประกอบไปด้วย ภาษาพูด (ผ่านความเข้าใจของตัวละครที่ได้สร้างขึ้น) ภาษากวี (คำโคลง) และภาษาภาพ (ประกอบ)
แม้ว่าตอนนี้เบลจะถ่ายทอดความเข้าใจออกมาด้วยภาพได้ดีกว่าการถ่ายทอดออกมาเป็นถ้อยคำ แต่หากเบลพัฒนาการเขียนของตัวเองไปเรื่อยๆ วันหนึ่งเบลก็จะสามารถสื่อสารผ่านการเขียน และการวาดออกมาได้ในคุณภาพที่เสมอกัน
ครูเจนสะท้อนความเปลี่ยนแปลงของตัวเองว่า...
“ก่อนนี้ก็ตรวจสมุดตามหน้าที่ แต่พอเด็กวาดภาพประกอบมา รู้สึกการตรวจสมุดงานเริ่มกลายเป็นความสุข สมุดจดงานไม่ใช่แค่สมุดบันทึกความรู้ แต่ยังบันทึกความรู้สึกที่เกิดขึ้นในขณะที่เรียนรู้ด้วย...คำชื่นชมของครูมีผลกับเด็กมากจริงๆ ไม่ว่าใครก็ต้องการคำชื่นชม ถ้าหากมีอาการขี้เกียจทำงานเมื่อไหร่ เจนจะชวนให้ย้อนกลับไปดูงานเก่าของตัวเอง กลับไปดูที่ความสำเร็จเล็กๆ ของตัวเอง เพื่อให้เขาเกิดพลังที่จะทำงานชิ้นใหม่”
โคลงนานาสำนวน จากห้อง ๕/๓
โจทย์ “ให้เล่านิทานเรื่องแพะ เป็นโคลงสุภาพ ๑ บท ที่มีสัมผัส”
จ้า – ด.ญ. เจ้าพระยา วงศ์หนองเตย
ชื่อเรื่อง แพะในฤดูหนาว
ฤดูนี้นั้นหนาวเหน็บ เยือกเย็น
แพะเดินไปมาเห็น หนังเสือ
ห่มหนังเสือแล้วเห็น หมาป่า
โดนกินคงไม่เหลือ กระโดดหายไป
เป๊ป – ด.ช. พนธกร ประเสริฐสุข
ชื่อเรื่อง แพะกับหนังเสือ
แพะน้อยหนาวสั่นกาย ลมหนาว พัดมา
เห็นหนังเสือแพรวพราว ห่มหลัง
เจอหมาป่าถึงคราว ตกใจ
รู้ตัวห่มแค่หนัง เผ่นหนีใจหาย
ภาษาไทยสร้างชีวิต ชีวิตสร้างค่าภาษาไทย ชื่นชมกิจกรรมครับ