ชื่นชมคนดี "คนค้นคนอวอร์ด" ครั้งที่ ๕

ศีลธรรมไม่กลับมา โลกาจะวินาศ

ผู้เขียนรับโทรศัพท์จากพี่หน่อย จินตนา แก้วขาว แกนนำกลุ่มอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมบ้านกรูดเมื่อต้นเดือนธันวาคม ๒๕๕๖ ว่าจะมารับรางวัลนักสู้ผู้ไม่แพ้ในงานคนค้นคนอวอร์ดครั้งที่ ๕ ประจำปี ๒๕๕๖ วันที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๕๖ ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย พี่บอกว่า "พี่จองที่นั่งให้สองที่นะ และพี่น้องพี่อีกหนึ่งรถตู้" ผู้เขียนเพิ่งกลับมาจากการปฏิบัติธรรมหลังวันที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๕๖ และกำลังวางแผนพาหลานสาวตัวน้อยและครอบครัวของเราสองครอบครัวไปเที่ยวก่อนปีใหม่ ก็ต้องเป็นอันพับไว้ก่อน พี่หน่อยจองที่นั่งให้ทั้งที และผู้เขียนไม่เคยไปงานนี้มาก่อน เท่าที่ทราบ ที่นั่งจะจัดสรรไว้ให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการมารับรางวัลจริง ๆ เช่น ท่านใดได้รับรางวัลในงานนี้ ก็จะให้ท่านนั้นเป็นผู้มีสิทธิพาชุมชน ผู้ติดตามมาเป็นกองเชียร์ได้ในจำนวนที่เหมาะสม ไม่รวมถึงกรรมการ สื่อมวลชน ผู้มาจัดบูธในงาน รวมประมาณผู้มาร่วมงานครั้งนี้ ๒,๘๐๐ คน และที่นั่งก็ไม่พอสำหรับทุกคนที่มาในงาน จนผูัมาร่วมงานจำนวนหนึ่งต้องลุ้นรออยู่นอกงาน

ผู้เขียนได้รับโอกาสอันดีงามเพราะทำงานวิจัยด้านสิทธิชุมชน และพี่แกนนำก็นับผู้เขียนเป็นน้องคนหนึ่ง ทุกครั้งที่เข้ามารับรางวัลในกรุงเทพ ก็จะจองที่นั่งให้ผู้เขียนเข้าร่วมในงานทุกครั้ง ปีนี้ทั้งปี เดินทางมารับรางวัลหลายรางวัล จนผู้เขียนเขียนลงบล็อกไม่ทัน มัวแต่ทำงานหลวงอยู่ ล่าสุดเมื่อเดือนที่แล้ว ก็เพิ่งรับรางวัลแทนคุณแผ่นดินมา ผู้เขียนยังไม่ได้นำมาลงบล็อก แต่งานนี้ ขอไม่พลาด ทั้งที่งานก็เต็มโต๊ะ

สาเหตุที่ไม่พลาดเพราะมีเวลามากพอที่จะอยู่ร่วมด้วยตั้งแต่งานเรื่มจนงานเลิก ได้มีโอกาสพบพานคนดี ๆ ได้รับรัศมีแห่งความดีงามเสมือนแรงดึงดูดที่ทำให้เราได้รับพลัง กำลังใจได้ปิติสุขไปพร้อม ๆ กัน

รางวัลเป็นเพียงปลายทาง หรือผลพวงแห่งความเหนื่อยยากที่ท่านผู้กล้าทำความดีทั้งหลายได้รับ หรืออาจจะมีระหว่างเส้นทางแห่งการต่อสู้ขอพวกท่านทั้งหลายที่มีผู้พบเห็นแล้วอดชื่นชมจนต้องค้นคนอย่างท่านมาประกาศคุณงามความดีให้พวกเราได้รับทราบกัน

ผู้เขียนเห็นคุณยายไฮเดินลงจากรถมาในงาน พี่หน่อยเข้าไปทักทายคุณยายไฮ แสดงความขอบคุณที่ท่านเดินทางไกลจากอุบลราชธานีเพื่อมามอบรางวัลลนักสู้ผู้ไม่แพ้ให้แก่พี่หน่อยในงานนี้ พี่หน่อยเล่าว่าตอนแรกที่ทีมงานทาบทามให้มามอบ คุณยายไฮบอกว่าไปไม่ไหวหรอก แต่พอทราบว่ามามอบให้พี่หน่อย แกนนำนักต่อสู้เพื่อสิทธฺชุมชนแห่งบ้านกรูด คุณยายไฮก็ยินดีหอบสังขารวัยเกือบ ๘๕ ปีมา

คนดีที่มีความกล้าหาญทางศีลธรรมมองตากันก็รู้ใจ ไม่ต้องพูดอะไรกันมาก เพียงแค่จับมือถือแขนกันเบา ๆ

สตรีเหล็กทั้งสองท่านผู้ได้รับรางวัลนักสู้ผู้ไม่แพ้เช่นกันผ่านสนามการต่อสู้เพื่อสิทธิอันชอบธรรมอย่างไม่ย่อท้อ

พี่หน่อยและผู้เขียนเข้ามาในงานและได้พบน้องกลุ่มดาวดินตัวแทนเยาวชนต้นแบบ ซึ่งเป็นนักต่อสู้เพื่อชาวบ้าน กรณีเหมือนแร่ที่เมืองเลย กลุ่มดาวดินเป็นนักศึกษา นิติศาสตร์ รุ่นแรก ของมหาวิทยาลัยขอนแก่น ท้าทายความคิดที่ว่านักศักษาในยุคโลกาภิวัฒน์ไม่ได้ได้หายไปไหน ยังคงอยู่ช่วยเหลือสังคมชุมชนท้องถิ่นที่อยู่ห่างไกลและได้รับความไม่เป็นธรรมอย่างไม่ท้อถอย แม้ว่าจะมีนักศึกษาส่วนใหญ่ที่แปลกแยกออกไปจากการเป็นส่วนหนึ่งของสังคมชุมชนที่ตนอยู่อาศัยไปแล้วก็ตาม

ในงานนี้ ผู้เขียนได้เห็นบอรด์ใหญ่ที่แสดงความไว้อาลัยแด่หมวดแชน และทำบุญบริจาคให้ท่านด้วย ภาคภูมิใจ ตื้นตันใจกับสิ่งที่ท่านเสียสละจนพูดไม่ออกเลยจริง ๆ คนดี ๆ เช่นนี้ หายากนัก

คุณยายยิ้มเห็นทีไรก็ยิ้มอย่างมีกำลังใจทุกครั้ง เสมือนว่าเราได้รับแรงบันดาลใจจากท่านอยู่ตลอดเวลา

ผู้เขียนเข้ามาในงานก็พบอาจารย์ศศิน เฉลืมลาภ ถือโอกาสถ่ายรูปกับคนดีของสังคมด้วยคน ท่านออกเดินเท้าจากแม่วงศ์ถึงกรุงเทพนับสามร้อยกว่ากิโลเมตรเพื่อมาบอกให้ผู้คนในสังคมไทยได้รับรู้ว่าธรรมชาติ ป่าเขาลำเนาไพร สัตว์ป่านานาชนิด เป็นของคนไทยทุกคน เราต้องร่วมกันอนุรักษ์ให้ลูกหลาน ไม่ควรสร้างงเขื่อนเพื่อทำลายที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตที่งดงาม

ผู้เขียนขอมีส่วนร่วมทำบุญในงานนี้โดยซื้อเสื้อคนค้นคน ซึ่งสื่อความหมายแก่นแกนของงานครั้งนี้

Theme ของงานครั้งนี้ก็คือศีลธรรมไม่กลับมาโลกาจะวินาศ โดยมุ่งเน้นที่การส่งเสริมให้คนเรามีศีลธรรมความดีงามเป็นเครื่องจรรโลงใจตนและค้ำจุนสังคมให้เป็นปึกแผ่น

รูปหมู่คนดีแห่งแผ่นดิน

เขียนใน GotoKnow โดย Sila Phu-Chaya
ใน คน - ธรรม - งาน

คำสำคัญ (Tags): #คนค้นคนอวอร์ด

หมายเลขบันทึก: 557061เขียนเมื่อ 22 ธันวาคม 2013 14:22 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 ธันวาคม 2013 13:44 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่าน