บทสาขาที่ 5.2 เรื่องไสยศาสตร์กับเทคโนโลยี่แนววิทยาศาสตร์สังคม Black magic technology and social science
รายการ ภูมปัญญาภาษาเลอะเลือน
จาก นายณัฐนพ อินทาภิรัต ถึง คุณยายธี
คุณยายธีครับ กระผมได้ยินคำกล่าวไว้ในประโยคที่ว่าtechnology คือเครื่องขยายอินทรีย์ของมนุษย์ จาก รศ. ดร. ประศักดิ์ หอมสนิทซึ่งท่านอาจารย์ รศ. ดร. ประศักดิ์ หอมสนิท อ้างว่าไปนำคำสอนประโยคนี้มาจากพระผู้ใหญ่ คุณยายคิดเช่นเดียวกันกับกระผมด้วยเปล่า ว่าจริง..ถ้าอย่างไร... อย่างนั้นคิดไปก่อนก็ได้ เพราะมีความคิดอีกหลายวิธี มีอีกวิธีหนึ่งนะคุณยาย คิดว่า ไม่ได้ด้วยเลห์ ก็ต้องได้ด้วยกล ถ้าไม่ได้ด้วยมนต์ก็ต้องได้ด้วยคาถา อย่างนี้ กระผมขอคิดเอง เพราะสิ่งนี้ทำให้สังเกตเห็น
มนต์ คือตัวบทของอักขระ อักษร เมื่อรวมประโยค – บทความ เป็นชุดความเรียกว่าคาถา - เรียกว่า (ท่องมนต์ปนคาถา) ไม่ใช่บ่นคาถา...น่าเกลียดครับ
คาถา เมื่อใช้แล้วมีอนุภาพ มีประสิทธิผลทางจิตใจ เสกของให้ขลังลงเลขยันต์ เป็นเครื่องขยายอินทรีของมนุษย์ได้ อ้าวคุณยายไม่ใช่มีแค่technology อย่างเดียวหรือ
เวท คือความรู้ติดเชิงฉลาด คำว่า ”Wit” จริตสำนวนความรู้จากพื้นธาตุ Root Metter เป็นเครื่องขยายอินทรีย์ของมนุษย์ทางความคิดทางนามธรรมได้เช่นกัน
อาคม จัดเป็นเวทมนต์คาถาโดยรวม ความหมายมุ่งทิศไปทางอาถรรพ์ แล้วจะใช้ความหมายอย่างไรดีครับคุณยาย..คนไทยให้ความหมายเหมือนกัน – เท่ากัน
Technology คือเครื่องขยายอินทรีย์ของมนุษย์ ประเภทคาถาอาคมแนว Psychologists scare มีใช้ก่อนสมัยองค์ฤษีนารอด ก่อตัวขึ้นราวสมัยประวัติศาสตร์โลกยุคสำฤทธิ์ Bronze Age ประมานก่อนพ.ศ.1000 – 3000 (กระผม เกิดไม่ทันครับคุณยาย)
สมัยโน้น กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วฤษีชื่อ วาลมิกิ สร้างหลักฐานแต่งวรรณคดี “ราม” ขึ้น...เพื่อที่จะสอนคนในรูปวรรณคดี ให้รู้จักความดี – ชั่ว ระหว่างสัญลักษณ์ความดีนั้นตกอยู่ที่ฝ่าย”ราม”หมด ส่วนความไม่ดีทั้งหมดตกอยู่ที่ “ดัลลัสสีมัน” ไทยเรียก ทศกัณฐ์.. อ้าว...คุณยาย..ความดีน่ะใครๆเขาก็อยากได้ทั้งนั้นแหละ แล้วทำไมไม่แบ่งให้ทศกัณฐ์บ้าง..หมดกัน..แม้กระทั่งเมีย (มลโท) ก็ยังแต่งเรื่องกำหนดสร้างปมด้อยให้มีราคีคาว.. แน่ะ..โดยพาลี ..(ลิงมีกรรมตกสวรรค์ ก่อนจะตกจากสวรรค์ลงมาข่าวแจ้งว่า เป็นเทวดาที่หล่อมาก ไม่รู้ว่าเสียเรื่องนี้หรือเปล่า นำนางสาว มลโท ไปครองซะก่อน) ฤษี 5 ตนก็ช่างกระไรเลย สัปเพร่า เสกให้เป็นมนุษย์ทั้งที่มีเต้าไม่เท่ากัน..นี่..คุณยาย..เห็นไหม..ความยุติธรรมลำเอียงน่ะ..มันมีมากี่ช่วงคนแล้ว..โถ...นางคางคกกตัญญู..มนุษย์ ก็เหลือเกิน นางเกิดเป็นมนุษย์แท้ๆ โดนกลับขั้วให้ไปเป็นฝ่ายยักษ์..ทั้งๆที่คนดูคนชมก็เป็นมนุษย์ด้วยกัน ฤษี 5 ตนเสกให้แล้วก็แล้วกัน..คุณยายครับแล้วยักษ์บางตนในเรื่องจักรๆวงเนี่ยะ..กินคนนะครับ..ยักษ์บางตนรักมนุษย์อย่างลูกเช่นสังข์ทอง/สินสมุทร์..แปลกตรงที่พระอภัยมณีไปเนรคุณนางเงือกได้ไง..โธ๋..เขาอุสาหะพาหนีรอดจากนางยักษี แล้วยังจับมาทำเมียทั้งๆที่เขาเป็นปลา..ผู้ชายก็เป็นอย่างนี้แหละ.
ก็สืบแต่งแบ่งกระจายขยายความเข้าสู่ดินแดนสยามเป็นรามเกียรต์ไป โขนบางประเทศนั่งแสดงบนไม้กระบอกยาวท่อนเดียว ยังดีกว่า โขนทางอินเดียตอนใต้มีแค่พื้นดินใต้ต้นไม้ตั้ง 180 องศาหันหน้าให้คนชม ฉากก็ใช้ผ้าพาดบ่า (ผ้าขาวม้า) ดึงกันคนละมุมเอาตัวเองยืนเป็นเสาท้องพระโรงแทน นั่งกับพื้นดินนั่นแหละ นางสีดาก็แต่งตัวสีคล้ำๆหน่อยเพราะจะต้องกราบต้องว่ายกะดินตรงหน้าองค์ราม เรือน 3 น้ำ 4 สตรีตามกฎ ส่วนตัวพระใหญ่ทำเป็นนั่งไขว่ห้าง มีไม้ยาวศอกกว่าถือติดมือมาค้ำก้นตัวเอง เอาสีข้างพิงเสนาที่ยืนบริการกางร่มให้ ที่จริงแล้วเรื่องรามเกียรต์เป็นเรื่องของการปกครองด้วยวิธีจิตวิทยา และเป็นส่วนหนึ่งของเรื่อง
อีกสายหนึ่งกล่าวว่า กลุ่มโนแมค พวกอารยันผิวขาว (ก็ขาวแขก..ของเขาก็แล้วกัน) เป็นผู้เขียนเรื่อง”ราม” ขึ้น พวกผิวดำบางคนแทบจะอมเขียว ผมหยิก ผิวกร้านเพราะชอบทำงานกลางแดดถูกกำหนดให้เป็นยักษ์เป็นอสูรไป จัดเป็นพวกทมิฬ แต่ถ้าเป็นหนังสือของฝ่ายทมิฬเขาก็ว่าเขาเป็นฝ่าย”ราม” หล่อ ดี สวย เลยละคุณยาย..แล้วชนะตลอดเหมือนกลุ่มโนแมคอารยันด้วย..เอ่อ..เอาแล้วซิ..คุณยาย ใครดีใครเลวกำหนดเอาเองก็ได้แล้ว แต่คนไทยให้ความหมายเชิงตลก คำว่าอสูรหมายถึงอสุรา หมาถึงผู้ไม่ดื่มสุรา..ยังดีนะครับคุณยายที่ยักษ์ไม่ดื่มสุรา ตกลงยักษ์ไม่ผิดศีล 5 ไม่เหมือนมนุษย์เทวาอ้างว่าเป็นน้ำอัมฤทธิ์..เข้าเรื่อซะที่คุณยายกระผม ไปไหนแล้วก็ไม้รู้
เป็นการมองอีกมุมเมื่อTechnology คือเครื่องขยายอินทรีย์ของมนุษย์ ประเภทคาถาอาคมแนวPsychologists scare ทางความคิดออกแผลงฤทธิ์ พวกหมออาถรรพ์ศาสตร์อ้างวง”ราม”ตั้งสำนักงานมนุษย์ติดต่อวงเทพได้ สถานที่นั้นอ้างว่าเทวลัยแม้กระทั่งในสลัม ยกระดับวงวานสืบสายขนานนามว่ากลุ่มพราหมณ์ เกิดระบบชั้นวรรณะเกิดนโยบายให้ในสิ่งที่ดีและความดี จากนั้นเข้าเรื่องราวเกี่ยวข้องกับ พรหม คุณยายครับ คำว่าพราหมณ์ๆพรหมๆคล้ายกับ ต้นการทำสมาธิและจำง่ายดีครับ สิ่งนี้ถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธ์มีคุณค่าทางจิตใจ จากนั้นได้ให้มีเทพชั้นสูง เทพชั้นกลาง เทพที่อยู่เหนือมนุษย์ และพวกที่ชิงดีชิงเด่นกับมนุษย์ ก่อกวน รังควาญ ประเภท พวกผี อาถรรพ์ ดำพญา ซาตาน ไม่ต่างกับคนร้ายมารังควาญแล้วประชาชนแจ้งให้ตำรวจแก้ไข
ยุคปัจจุบัน All as we hear เขาปิดกันให้แซ็ด.. คุณยาย..เดี๋ยวนี้เข้าห้องน้ำแทบไม่ต้องใช้มือช่วยแล้ว สะดวกสบายง่ายไปหมด อดเป็นห่วงมือจะง่อยจริงไหมครับคุณยาย..ที่เขาว่าคน เคยมีหางใช้โหนต้นไม้ได้ด้วย แต่พอไม่ได้ใช้มันก็เลยหายไป Tail Disappear และมนุษย์ไม่มีตาอยู่แถวท้ายทอยทำอย่างไรถึงจะมองเห็นด้านหลังได้ มีวิชานั่งทางในถอดกายทิพย์ ออกไปเที่ยวดูสวรรค์นรกโดยไม่ได้รับอนุญาตจากยมบาล(เขาว่ากัน)ไม่อย่างนั้นก็ไปจ้างหมอผีแอบดูสามีว่าไปไหน..ถ้ามีเงินละก้อเสียไปก็แล้วกัน ของแท้มีน้อยแต่กระผมยังไม่เจอเลยเพราะบางครั้งอยากจะขอพึ่งพา ที่กระผมกล่าวนี้เพราะเล่าขานกันมานานร่วมพันปี
คุณยายต้องเคยได้ยินเพลงของวสันต์อัสนีบ้างในประโยคที่ว่า “ได้อย่างก็ต้องเสียอย่าง”กระผมว่าจริงนะครับ คนเราจะดี จะร้าย จะเลว จะน่าเกลียด เป็นไปได้ทั้งนั้นขออย่าให้มันลึกจนขุดไม่ได้แล้วก็มาปรับเกลี่ยเอาด้วยสติดีกว่า ในอนาคตข้างหน้าคุณยายอาจจะได้เห็นคนเดินออกมาจากจอ Note Book เมื่อคุณยายเปิดคอมฯ แล้วจะมีเซลขายไก่ K F C มาขายให้ถึงห้องนอนเชียวละ ย่อมต้องมีโจรมาขโมยรหัสในระบบของคุณยายด้วยเช่นกัน ระวังนะครับโจรยุคพ.ศ. 4500 (ไม่ใช่ยุคกระผม) มันจะออกมาจากจอแล้วโจรกรรมของที่คุณยายกำลังกด GO TO KNOW อยู่เนี้ยะ..เพราะมันชอบคอมฯคุณภาพดีมี Brand Name จะพับเก็บแล้วกลับเข้าไปในจอคอมฯนั้นแหละ พร้อมกับคอมฯของคุณยายหายไปด้วย .เจ็บใจมันทิ้งสาย Internet ไว้ให้เป็นที่ระลึก...คุณยาย..ทำไงดี..
ปล.ให้มันไป
รายการ ภูมปัญญาภาษาเลอะเลือน
การใช้เพลงเพื่อประกอบการแสดงโขนไทยในเรื่องรามเกียรต์ ส่วนใหญ่ใช้เพลงหน้าพาทย์หมายถึงเพลงแจ้งประกอบกริยาตามระดับศักดิ์ของผู้แสดงในที่สวมคราบละครนั้น เป็นกริยา – อารมณ์ ว่าจะเป็น เดิน เหิร เหาะ บิน หายตัว / เจ็บปวดรวดร้าว เศร้า โศกาอาดูร/ รักชอบ สมหวัง ดีใจ ฯลฯ...Emotion of behavior บางครั้งใช้เพลงประเภทสองชั้นธรรมดาประกอบการร้องร่ายรำอย่างง่ายเพื่อปรับความเครียด Tension degree ตามระยะท้องเรื่องเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ
ณัฐนพ มนู อินทาภิรัต
ใน บทสาขาที่ 5 เรื่อง ความสัมพันธ์ของที่มาจากแหล่งวัฒนธรรมดนตรี
ความเห็น (4)
gvkfvd""เอาดอกหงอนไก่..(ที่ขันไม่ออก..มาฝาก..จ้า)..มันขึ้นเอง..ข้างกองขยะคอนกรีต..อ้ะะ
...ขอบคุณ ท่านอาจารย์ และ ยายธี ค่ะ... บันทึกนี้ได้ ความรู้ดีดี ค่ะ
ดอกหงอนไก่สมุนไพรของคุณยายน่ะ..แค่เห็นก็จามจนหวัดกระเจิง..หายเลย..คุณยายไม่เชื่อถามอาจารย์หมอเปิ้ลดูน๊ะ.
อาจารย์หมอครับ...................แหม..........ทั้งหมดนี้...ผัดลงกะทะได้ทั้งหมดเลยล่ะ...