เทวดาของบ้านเรา


        " เกิดเป็นคน ต้องรู้จักการทำดี ” ประโยคนี้ยังคงอยู่ในใจฉันตั้งแต่จำความได้ จนมาถึงวินาทีนี้ เป็นคำสอนของผู้ชายธรรมดาๆคนหนึ่ง ที่ลูกๆเรียกว่า “ พ่อ ” ผู้ชายที่เปรียบเสมือน “ เทวดาของบ้านเรา ”

         ที่ลูกๆเปรียบพ่อเป็นเทวดา ไม่ใช่เพราะพ่อมีอิทธิฤทธิ์ ไม่ใช่เพราะมีเงินและอำนาจ แต่เป็นเพราะว่า พ่อเป็นคนดีและมีคุณธรรม

         ตั้งแต่ฉันจำความได้ พ่อมักจะคอยสอนและทำเป็นตัวอย่างเสมอ เรื่องการทำดี ฉันจำได้ว่า มีครั้งหนึ่งที่พ่อเก็บกระเป๋าเงินได้ข้างถนน ตอนนั้นพ่อกับฉันกำลังขับรถบรรทุกหิน เพื่อไปส่งให้ลูกค้า พ่อเปิดกระเป๋าเงินใบนั้นดู แต่ไม่ได้ให้ความสนใจกับจำนวนเงินเลยแม้แต่น้อย พ่อเปิดเพื่อหาบัตรประชาชน หรือหลักฐานต่างๆที่พอจะติดต่อกับเจ้าของกระเป๋าเงินใบนั้นได้ หลังจากนั้นพ่อได้นำมันไปให้ตำรวจเพื่อติดต่อหาเจ้าของต่อไป

         แล้วเราก็ขับรถออกมาเพื่อทำงานของเราต่อไป ระหว่างทางนั้น พ่อได้ถามฉันว่า “ แปลกใจไหม ที่พ่อนำกระเป๋าเงินใบนั้นไปให้ตำรวจ ” ฉันส่ายหน้าทันที พร้อมตอบพ่อไปว่า “ เพราะมันไม่ใช่ของเรา ” พ่อยิ้ม พร้อมตอบว่า “ ใช่ มันไม่ใช่ของเรา ” แล้วพ่อก็ยกตัวอย่างเรื่องหนึ่งขึ้นมา เป็นเรื่องตอนที่ฉันเรียนอยู่ชั้นอนุบาล ตอนนั้นฉันทำดินสอหาย เป็นดินสอลายการ์ตูนที่น้าซื้อให้ ฉันเสียใจมาก ร้องไห้กลับบ้านเลย พอถึงบ้าน พ่อถามว่าเกิดอะไรขึ้นที่โรงเรียน ฉันจึงตอบพ่อตามความจริง พ่อถามฉันว่า รู้สึกอย่างไรที่ดินสอหาย ฉันตอบพ่อไปแบบไม่รีรอว่า เสียดายและเสียใจมาก เพราะฉันรักดินสอการ์ตูนด้ามนี้มาก เพราะมันสวยและเป็นด้ามที่น้าซื้อให้ “ เห็นมั๊ยหล่ะ ขนาดของเราหาย เรายังเสียใจเลย แล้วถ้าเป็นของคนอื่น เขาก็ต้องเสียใจเหมือนกัน ” นอกจากพ่อจะสอนเรื่องคุณธรรมแล้ว พ่อยังสอนให้รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา สิ่งของนั้นไม่ว่าจะเป็นของมีราคาแพงหรือถูก มันล้วนมีคุณค่าเสมอเมื่ออยู่กับเจ้าของมัน ฉันรู้สึกภูมิใจจังที่พ่อคืนกระเป๋าเงินใบนั้น ถึงแม้ว่ายังไม่ถึงมือเจ้าของ แต่สักวันเจ้าของคงได้รับของคืน ฉันเชื่ออย่างนั้น

            คำว่า “ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ” พ่อบอกว่ามันเป็นจริงเสมอ ขอให้เชื่อในเรื่องการทำดี ว่าเราจะได้ดีเสมอ สิ่งตอบแทนนั้นอาจจะไม่เป็นสิ่งของเสมอไป แต่อย่างน้อยเราจะรู้สึกภูมิใจ ไม่มีสิ่งใดภาคภูมิใจมากไปกว่า การทำความดีอีกแล้ว ฉันชอบฟังคำสอนของพ่อ เพราะพ่อพูดจากใจจริง บางครั้งก็ยกตัวอย่างเป็นเหตุการณ์ บางครั้งก็เล่าเป็นนิทาน บางครั้งก็เล่าเป็นพระเวชสันดรชาดก เพราะพ่อเคยบวชมาก่อน เด็กบางคนอาจรู้สึกเบื่อ แต่ไม่ใช่ฉันแน่นอน

           มีคำสอนของพ่ออีกมากมายเหลือเกินที่ฉันไม่ได้เอ่ยถึง แต่มันยังอยู่ในใจของฉันเสมอมา พ่อจ๋า ไม่รู้ว่ากี่ครั้งแล้วที่หนูได้บอกมันออกไป และไม่รู้ว่ากี่ครั้งแล้วที่พ่อได้ฟัง แต่หนูรู้ว่าพ่อจะไม่เบื่อ เหมือนกับที่หนูจะไม่มีวันเบื่อที่จะพูดคำว่า “ หนูรักพ่อ เทวดาของบ้านเรา ”

 

 

 

 

 

 

นางสาวพลอยไพลิน  ศรีรินทร์

พยาบาลวิชาชีพ

หมายเลขบันทึก: 556270เขียนเมื่อ 13 ธันวาคม 2013 13:33 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 ธันวาคม 2013 13:33 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

พ่อ คือ พระ

พ่อ คือ ครู

พ่อ คือ พี่

พ่อ คือ เพื่อน

พ่อ คือ เครื่องเล่น

พ่อ คือ ทุกๆอย่างสำหรับลูก

จงดูแลและตอบแทนท่านในยามที่ยังทำได้

จะได้ไม้่ต้องมานั่งเสียใจ ในวันที่อยากทำแต่ไม่มีท่านอยู่อีกแล้ว

-สวัสดีครับ..

-ตามมาร่วมรำลึุกถึงพระุคุณพ่อครับ..

-ตัวอย่างที่ดีมีค่ากว่าคำสอน..

-ขอบคุณบันทึกนี้ครับ

วัชราภรณ์ ประภาสะสุทธิ์

ดีจัง..

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท