"สิ่งตกผลึกจากชีวิต"
ชีวิตทุกชีวิตถูกหล่อหลอมมาจากธรรมชาติของพ่อแม่มาดีแล้ว...แต่ยังไม่ดีพอที่จะกล่าวได้ว่า รู้และเข้าใจจักรวาล โลก ชีวิต จิต ความจริง และสิ่งรอบตัว ได้สมบูรณ์แบบ
เราทุกคนมีเมล็ดแห่งพลังสร้างสรรค์อยู่ทุกคน...แต่หากใครนำเอาพลังนี้ไปใช้ในทางสร้างผลในทางทำลาย ชีวิตเขาก็จะสิ้นโอกาสได้ในการเจอรากเหง้าเค้ามูลแห่งพลังดั้งเดิมของตน ... จงใช้ชีวิตตามความปรารถนาของท่านและผลิตประสบการณ์ออกมาสู่สายตา ประชาคมโลกเถิด..มันจะมีค่ามาก เนื่องจาก คำพูด ข้อคิด อาจเป็นแรงกระตุ้นให้เซลล์สมอง คิดสาวสืบสวนได้คล่องแคล่วอีกด้วย แล้วจงนำเอาประสบการณ์ที่ดี มาแบ่งปันผู้อื่นให้เกิดกุศลบุญด้วย
การเป็นกัลยาณมิตรให้กันคือ ความผูกพันด้านสติปัญญาของสัตว์โลกที่ชื่อว่า "มนุษย์" ผู้ซึ่งเกิดมาบนโลกเกือบจะร้อยปี ย่อมมีคลังข้อมูลแห่งโลก ที่เป็นประโยชน์แก่อนุชน คนข้างหลัง... เวลาคือ เงื่่อนไขของการสร้างองค์ความรู้ สมองคือ ฐานที่รองรับข้อมูล การถ่ายทอดคือ การบอกถึงประสบการณ์ของบุคคลนั้น
ดังนั้น ทุกช่วงแห่งชีวิต ทุกเสี้ยวแห่งจิต ที่คิดและสะสม ย่อมมีผลต่อการดำรงชีวิตของตนเองและคนอื่น เช่น คนที่เสียไปแล้ว แต่พวกเขายังเขียน ยังคิด ฝากไว้ในสมุดหนังสือ ให้เราได้อ่าน ได้ศึกษาหาความรู้จากคนที่ตายแล้ว และคนที่กำลังมีชีวิตอยู่ ต้องขอบคุณและคารวะพวกมนุษย์ทุกคนที่สื่อข้อมูลภายในออกมาสู่โลก
เพราะนี่คือ "สิ่งที่ตกผลึกจากมันสมองมนุษย์"
---------<>----------
ความเห็น (3)
วิีถีแห่งชีวิต มีผู้เขียนไว้ว่า พ่อแม่ เป็นผู้ให้ชีวิต ครู เป็นผู้สอนชีวิต ตัวเรา เป็นผู้ ลิขิตชีวิต
เมื่อเราได้เกิดมาเเล้วนั้น...จงเลือกทำความดี เพื่อให้ลูกหลานเห็นไว้เป็นเเบบอย่าง...
..ขอบคุณ..บันทึกดีดีนี้ค่ะ ....