บ่ายวันนี้ได้ตรวจผู้ป่วยหญิงอายุ 76 ปีรายหนึ่ง เป็นโรคข้อเข่าเสื่อมทั้ง 2 ข้าง ได้รับการรักษาโดยการทานยา ทำกายภาพบำบัด ฉีดยาบำรุงข้อ มาเป็นเวลา 4-5 ปีแล้ว 2 เดือนก่อนผู้ป่วยเริ่มเดินลำบากมากขึ้นและปวดเข่ามากขึ้น ชีวิตส่วนใหญ่นอนบนเตียงสลับกับการนั่งรถเข็น จนทำให้ผู้ป่วยรายนี้ตัดสินใจผ่าตัดแล้ว ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้หมอแนะนำให้ผ่าตัดใส่ข้อเทียมอย่างไรก็ไม่ยอมทำ
แพทย์ก็ใจดีทำผ่าตัดใส่ข้อเข่าเทียมพร้อมกันทีเดียว 2 ข้างเลย ผลปรากฏว่าหลังผ่าตัดไป 2 เดือนแล้ว ก็ยังเดินไม่ได้อยู่ดี ไปไหนมาไหนด้วยรถเข็น ซ้ำร้ายมีอยู่วันหนึ่ง ขณะทำกายภาพบำบัดเพื่อฝึกเดินแล้วก้าวขาบิดผิดท่า เกิดกระดูกหักตรงใกล้ๆข้อเข่าเทียมที่ใส่เข้าไป แพทย์แนะนำให้ผ่าตัดแก้ไขใหม่ แต่รอบนี้บอกว่าไม่ผ่าอีกแล้วผ่าก็เดินไม่ได้แถมกระดูกหักเพิ่มขึ้นมาอีก
เมื่อย้อนกลับไปดู ถามว่าผู้ป่วยรายนี้ให้บทเรียนอะไรเราบ้าง
1. ควรทำผ่าตัดให้เร็วกว่านี้ ไม่ใช่รอให้เดินไม่ได้แล้ว กล้ามเนื้อก็อ่อนแรงไปหมดแล้ว การฟื้นตัวจะทำได้ยากมาก ชุดกล้ามเนื้อขาทั้งหมดที่ใช้ในการเดินเป็นปัจจัยสำคัญมากๆที่ช่วยให้การฟื้นฟูหลังผ่าตัดได้ดีหรือไม่ดี
2. แนะนำให้ทำผ่าตัดทีละข้างจะดีกว่าและเลือกทำข้างที่แย่ๆก่อน เพื่อให้ข้างที่ดีกว่าช่วยในการเดินหลังผ่าตัด
3. ผู้ป่วยมีภาวะกระดูกพรุนร่วมด้วยแต่ไม่ได้รับการรักษาเรื่องกระดูกพรุนเลย ทำให้กระดูกเปราะบางหักได้ง่าย
4. น้ำหนักตัวเป็นปัจจัยสำคัญอีกเรื่อง ที่ควรได้รับการดูแลอย่างเข้มข้น อ้วนมากก็เดินไม่ไหวอยู่แล้ว เหนื่อยง่ายอีกต่างหาก
ผู้ป่วยรายนี้ต้องได้รับการดูแลและฟื้นฟูอีกยาวไกล ไม่ต่ำกว่า 6 เดือน จนกว่ากระดูกที่หักจะติดดี เมื่อผู่ป่วยยืนยันว่าจะไม่ผ่าตัดอีกแล้ว สิ่งที่ทำอยู่ขณะนี้
1. ใส่อุปกรณ์ดามขาที่หัก
2. เตรียมฟื้นฟูกล้ามเนื้อที่จะต้องใช้ในการเดินในอนาคต
3. ฝึกยืนบ้างด้วยขาอีกข้างที่ไม่หัก
4. ให้ยารักษาโรคกระดูกพรุน
5. ค่อยๆหาทางลดน้ำหนัก
สรุปแล้วจากนี้ไปไม่ใช่งานง่ายๆเลยสำหรับผู้ป่วยรายนี้ เป้าหมายคือช่วยทำให้ผู้ป่วยกลับมาเดินได้อีก ภายใน 6 เดือนข้างหน้า และผู้ป่วยยังหวังว่าจะเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศได้อีก ขอเป็นกำลังใจให้คุณป้าค่ะ
เป็นประโยชน์มากเลยครับ
มองเห็นประเด็นในการรักษา
รักษาช้าไปก็ไม่ดี
ขอบคุณสำหรับบันทึกดีๆ
กำลังบันทึกผักที่ป้องกันโรคกระดูกพรุนครับ
ภรรยาผม พักนี้บ่นปวดเข่าบ่อยๆครับ ถึงขึ้นเดินเขยกๆ ไปหาหมอบริษัทก็ให้ยานวด ยาแก้อักเสบ(นอเจสิก) มา
อยากถามว่า มีวิธีรักษาที่ถูกต้องอย่างไรครับคุณหมอ
แม่หนูก็เป็นค่ะ แต่กลัวไม่ยอมผ่าตัด ตอนนี้น้ำหนัก 70 อายุ 57 ค่ะ T T!
ขอบคุณ อ.ขจิต ค่ะ ได้แจ้ง อ.หนึ่ง เรื่องไปนครศรีฯแล้วค่ะ เดินทาง 23 ธค.นี้ค่ะ
คุณพิชัยคะ ช่วงอักเสบต้องพักขาค่ะ เดินให้น้อยลง อาจใช้ไม้เท้าช่วยประคอง ประคบน้ำแข็ง Norgesic เป็นยาแก้ปวดคลายกล้ามเนื้อค่ะ ไม่ใช่แก้อักเสบ ถ้ายังไม่ดีขึ้นไปให้แพทย์ตรวจใหม่ค่ะ
คุณ Arisa ต้องบอกคุณแม่ให้ลดน้ำหนักเลยค่ะ สำคัญมาก ลดได้หลายคนไม่ต้องผ่าตัดเลย แนะนำให้ลดลงซัก 10%ของน้ำหนักตัว ถ้าหนัก 70 กก. ก็ให้เอาลงสัก 7 กก. หลีกเลี่ยงการงอเข่ามากๆเช่น นั่งยองๆ พับเพียบ ขัดสมาธิ และขึ้นลงบันไดให้น้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น