วันที่ 18 พฤศจิกายน 2556
เราตื่นแต่เช้า เมื่อคืนค่อนข้างร้อนเพราะแอร์ที่ห้องพักไม่เย็น ดิฉันยกเป้ที่ใส่คอมพิวเตอร์ซึ่งวางพิงผนังห้องข้างเตียง แปลกใจที่เป้เย็น คลำดูจึงพบว่าเปียกน้ำ เพราะแอร์มีน้ำรั่วลงมาตรงเป้ที่วางไว้พอดี ทำให้สายสำหรับสะพาย ด้านบน และก้นเป้เปียก โชคดีที่น้ำไม่รั่วใส่คอมพิวเตอร์ที่อยู่ด้านใน เป็นบทเรียนว่าไม่ควรวางของอะไรไว้ใต้ตำแหน่งของเครื่องแอร์
ช่วงเช้าคณะของเราจะไปที่ University of Medicine and Pharmacy ที่ Ho Chi Minh อาจารย์เจียมพยายาม confirm เขาตั้งแต่เมื่อวาน แต่ติดต่อคนที่ประสานงานไว้ไม่ได้ เช้านี้จึงติดต่ออีกครั้ง เราได้รู้ว่าที่เวียดนามเขาเริ่มทำงานกันตั้งแต่ 07.30 น. ส่วนตอนเที่ยงจะพักกลางวันจนถึง 13.30 น. ในที่สุดก็ติดต่อได้ เราเดินทางไปมหาวิทยาลัยด้วยแท๊กซี่ 1 คัน แท๊กซี่ที่นี่ใหญ่ดี นั่งได้หมดทั้ง 6 คน
University of Medicine and Pharmacy ดูขนาดไม่ใหญ่มากนัก มีทั้งอาคารเก่าและอาคารใหม่ที่สูงหลายชั้น เจ้าหน้าที่พาเราไปที่ห้องประชุม เราได้พบกับ รศ.นพ.Do Van Dung รองอธิการบดี รศ.นพ. Nguyen Duy Phong ซึ่งเป็นแพทย์ด้าน Epidemiology and Trpical Medicine, Family Medicine และ Doan Thi Anh รองคณบดี Faculty of Nursing and Medical Technology
สาระที่คุยกันเริ่มตั้งแต่การแลกเปลี่ยนข้อมูล มหาวิทยาลัยนี้มีทั้งหลักสูตร ป.ตรี โท บาง specialty ก็มีถึงระดับปริญญาเอก สอนด้วยภาษาเวียดนาม มหาวิทยาลัยแห่งนี้ได้ host นักศึกษาจากที่อื่นมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว ต่างประเทศเช่นญี่ปุ่นก็มีการให้ทุนแก่นักศึกษาไปที่นั่น มีอาจารย์ที่นี่จบจากมหาวิทยาลัยในประเทศไทย เช่น จุฬาลงกรณ์ มหิดล บูรพา สาขา Pharmacy เข้มแข็งที่สุด เพราะอาจารย์ส่วนใหญ่จบจากต่างประเทศ
เราบอกความประสงค์ที่มาว่าต้องการแสวงหาความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนนักศึกษา อาจารย์ และความร่วมมือด้านการวิจัย รองอธิการบดีทั้ง 2 ฝ่ายเป็นผู้เจรจาหลัก คุยกันได้สักพักก็พอจะสรุปความสนใจที่ตรงกันได้ว่าจะเน้นที่
รองอธิการบดีของ University of Medicine and Pharmacy แจ้งว่าจะมีความร่วมมืออะไรกันได้บ้างนั้นจะต้องมีการ discuss กับผู้บริหารก่อน ต้องการไปดูว่า มวล.เป็นอย่างไร เราตกลงกันว่าจะมี follow up meeting และ email exchange อันดับแรกจะต้องทำ MOU กันก่อน แต่บางแห่งที่ร่วมมือกันอยู่ก็ไม่ได้ทำ MOU เช่น มหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา
คณะบุคคลที่พูดคุยร่วมกัน ซ้ายสุดคือรองคณบดีของพยาบาล จบปริญญาโทด้าน Health Education
เราใช้เวลาพูดคุยกันจริงๆ ไม่มีพิธีรีตองมาก ดื่มน้ำชากันเท่านั้น เมื่อจบการพูดคุยแบบเป็นทางการและมอบของที่ระลึกกันเรียบร้อย เราก็แยกย้ายกันจับกลุ่มพูดคุย ดิฉันจึงได้รู้ว่าอาจารย์พยาบาลที่นี่ก็เคยไปบรรยายที่สถาบันการศึกษาใน Sweden
ระหว่างที่จะเดินทางกลับ เราได้สังเกตพบว่านักศึกษาที่นี่ไม่ต้องสวมเครื่องแบบ แต่แขวนป้ายชื่อ คณะของเราได้พูดกคุยกับนักศึกษาแพทย์คนหนึ่งที่เดินผ่านมาด้วย
ภายในมหาวิทยาลัย เด็กหนุ่มรายนี้คือนักศึกษาแพทย์
ที่หน้าประตูของมหาวิทยาลัย
เราเดินทางกลับโรงแรมที่พัก เพื่อเตรียมตัวเดินทางไปเมือง Dong Thap เพื่อไปลงนามความร่วมมือกับ Dong Thap University มหาวิทยาลัยจะส่งรถมารับในเวลา 12.00 น.
วัลลา ตันตโยทัย
วันที่ 24 พฤศจิกายน 2556
ไม่มีความเห็น