"หลาน อิฉันไม่กินข้าว"
“น้องมันเจ็บลิ้นไหม หมอ มันไม่กินข้าวเลย”
คุณยาย มาบ่นด้วยสีหน้าหนักใจ
"ทำอะไรมาป้อนมันก็ไม่กิน กินแต่นม จะมีอะไรมาเสริมหน่อยไหมหมอ”
คุณยายพูดต่อโดยไม่รอคำตอบ
ผมดูข้อมูลในจอและตรวจร่างกายเด็ก
เด็กชาย 1ขวบ น้ำหนัก 12 กิโลกรัม ดูแจ่มใสดี
ระบบอื่นๆปกติ ยกเว้นที่ลิ้นเป็นลายของเกสรลิ้นที่อ่อนแก่ไม่พร้อมกัน
“ถึงมื้ออาหาร เมื่อหลานไม่กินข้าว แล้วคุณยายให้กินอะไรครับ”
“ฉันก็ชงนมให้กิน กลัวมันหิว ก็มันไม่กินจริงๆนะ แม่มันก็ซื้อ.....(บ่นต่ออีกมาก)”
“หมอตรวจหลานแล้วนะครับ ลิ้นก็เป็นลายเป็นไปตามธรรมชาติ ตรงน้ันไม่เจ็บ
อื่นๆหลานก็แข็งแรงดี น้ำหนักก็อยู่ในเกณฑ์เหมาะสม
คุณยายเลี้ยงได้ดีอยู่แล้วนะครับ
แต่ที่ไม่กินข้าวเพราะ กินนมมากพอ เลยไม่หิว
และอาจจะฝึกการกินอาหารเสริมช้าไปทำให้เด็กไม่ถนัดกินอาหารแข็ง”
“เดี๋ยวกลับไปฝึกกันอีกนิดนึงก็น่าจะปรับตัวได้ครับ
ก่อนมื้ออาหารอย่าให้กินนม ให้ท้องว่างสักหน่อย ยายจะป้อนได้ง่ายขึ้น
เปลี่ยนอาหารหลากหลาย บรรยากาศน่าทาน ไม่มีสิ่งน่าสนใจอื่นมาเบี่ยงเบน
ป้อนสัก๑๕-๓๐นาที ก็หยุดครับ แรกๆอาจจะได้น้อย
เคล็ดลับอีกอย่างคือหลังอาหาร๑ชั่วโมง ไม่ให้กินนมหรือขนมอื่น
ให้เด็กรู้สึกหิวเด็กจะเริ่มรู้ว่าถ้าไม่กินอาหารในเวลาที่ป้อนจะหิวนะ
ต่อไปเด็กจะปรับตัวได้ครับ” คุณยายจากไปพร้อมวิตามินที่ 'ยังไงวันนี้ต้องได้ไป'
ปัญหานี้พบบ่อยทำให้
แต่ผมคิดถึงสื่ออีกสองชิ้นคือ
บ๊ายบายขวดนมช้าไปโรคภัยตามมา อ่านได้ที่นี่
และ คู่มืออาหารตามวัยสำหรับทารกและเด็กเล็ก Download ได้ที่นี่
เป็นหนังสือใน โครงการ “การจัดทําข้อปฏิบัติการให้อาหาร เพื่อสุขภาพที่ดีของทารกและเด็กวัยก่อนเรียน” บรรณาธิการ อุมาพร สุทัศน์วรวุฒิ สุภาพรรณ ตันตราชีวธร สมโชค คุณสนอง
สนับสนุนโดย สํานักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
ตอนต้นของหนังสืออาจจะดูยากไปนิดสำหรับบางท่าน
แต่ตอนสูตรอาหาร มีตัวอย่างอาหาร พร้อมภาพประกอบสวยงาม
อ่านแล้วอยากเข้าครัวเชียวล่ะครับ
ความเห็น (2)
คู่มืออาหารตามวัยมีประโยชน์มากเลยค่ะ ถ้ามีลูกคงมีโอกาสได้ฝึกทำเมนูน่าทานต่างๆในนี้