nobita
นาย ชัยพร รัตนดิลก ณ ภูเก็ต

ผมเอาแต่ใจ หรือเธอไม่มีมาตรฐาน


ผมเริ่มต้นบันทึกนี้ ในขณะนี้ความรู้สึกยังกรุ่น ๆ...

     ทุกครั้งที่ผมต้องว่ากล่าวตักเตือนการให้บริการของร้านค้า หรือร้านบริการต่าง ๆ หลายแห่ง สุดท้ายผมมักจะตั้งคำถามกับตัวเองเสมอว่า ตัวเองในร้อนมากไปไหม  เราต้องการการบริการที่เยอะไปหรือไม่  ผมเอาแต่ใจไปหรือเปล่า .... จนทำให้ต้องหันกลับมาพิจารณาตัวเองอยู่เนือง ๆ แต่สุดท้ายเมื่อไตร่ตรองด้วยตัวเองแล้วก็พอจะตอบตัวเองได้ว่า ก็ในเมื่อเหล่าผู้ให้บริการที่โดนผมตำหนิไปนั้นต่างทำตัวช่างน่าตำหนิเสียนี่กระไร  อย่างเช่นเหตุการณ์ที่ผ่านมาล่าสุด...

     เวลาสามทุ่มเศษ ผมไปเลือกซื้อสินค้าที่ห้างหนึ่ง หยิบของใส่ตะกร้าไม่เกิน 10 ชิ้น แล้วมายืนรอจ่ายเงิน ซึ่งพบว่า มีช่องรับชำระเงิน 2 ช่องที่กำลังทำงานอยู่  ช่องแรก มีคนซื้อของไม่กี่ชิ้นกำลังจะเสร็จ พนักงานเก็บเงินก็หยิบป้าย "กรุณาใช้บริการช่องถัดไป" มาวางกั้นไว้ นั่นแสดงว่า เขาจะไม่รับชำระเงินแล้ว ผมจึงมาต่ออีกช่องที่มีคนยื่นรอจ่ายค่าสินค้าที่มีของจำนวนมาก ผมรอสักพัก ก็มองว่า ช่องแรกนั้นรับชำระเสร็จแล้วน่าจะรับชำระเงินให้ผมได้เพราะของไม่กี่ชิ้นคงคิดไม่นานจะปิดอะไรก็ไม่ว่า ผมก็ลองเดินไปหาเขาดูเผื่อเขาจะรับให้  แต่ได้รับการปฏิเสธว่า ปิดรับชำระแล้ว ให้ไปชำระช่องที่เขากำลังทำงานอยู่...

     ณ เวลานั้น ผมก็ไม่ได้โทษพนักงานคนนั้น เพราะยอมรับเงื่อนไขได้ว่า เขาประกาศปิดช่องชำระเงินก่อนแล้ว ไม่เป็นไร ผมก็กลับมาต่อคิวแถวเดิมรอต่อไป แต่พอผ่านไปไม่เกิน 3 นาที  ปรากฎว่า มีลูกค้าคนหนึ่งเดินเข้าไปนำสินค้าไปวางในช่องที่ติดป้ายว่าปิดรับชำระนั้น แล้วพนักงานคนนั้น ก็ยังรับชำระค่าสินค้าให้ลูกค้าคนนั้นอีก...  อย่างนี้หมายความว่าอย่างไร

     ความรู้สึกตอนนั้น ผมไม่รู้ว่า คนอื่นที่เจอเหตุการณ์แบบนี้จะรู้สึกอย่างไร แต่สำหรับผม ผมรู้สึกว่า เขาไม่ให้เกียรติลูกค้า ไม่ให้เกียรติผม เลือกปฏิบัติ สองมาตรฐานในการชำระเงิน และ ...... อีกมากมาย

     เมื่อผมชำระค่าสินค้าในช่องที่ต้องต่อแถวแล้ว สุดท้ายก็ต้องเรียกผู้จัดการร้านมาสอบถาม และว่ากล่าวตักเตือนให้ดูแลการบริการให้ดีกว่านี้ โดยเฉพาะการให้บริการต้องเป็นมาตรฐาน ถ้าปิดก็ต้องปิด ถ้าไม่รับก็ต้องไม่รับ จะมาบอกว่าเห็นลูกค้ามีสินค้าเพียงไม่กี่ชิ้นเลยรับชำระ แบบนี้ทำไม่ถูก ขอให้ว่ากล่าวตักเตือนพนักงานด้วย

     การกระทำของผม ไม่ได้ทำเพื่อความสะใจ ไม่ได้ทำเพื่อให้ใครเดือดร้อน เพียงแค่อยากได้ความเป็นธรรม ความยุติธรรม ในสังคมบ้าง เพราะในวันนี้ สังคมมีมาตรฐานที่หลากหลายเหลือเกิน จากความไม่เสมอภาคก่อให้เกิดการเรียกร้อง ร้องเรียน และประท้วงไม่หยุดหย่อน เมื่อไรก็ตามที่เรายอมรับกติกาเดียวกัน ไม่เลือกปฏิบ้ติ เมื่อนั้นความสงบสุขก็จะกลับมาอย่างแน่นอน ผมเชื่ออย่างนั้น

     และสำหรับผม ผมยอมรับที่ใครจะมองว่า ผมขี้วีนเอาแต่ใจ ก็ในเมื่อผมต้องจ่ายเพื่อใช้บริการเหล่านั้นราคาที่จ่ายก็เท่ากันเขาเหล่านั้นก็ต้องให้บริการที่เหมือนกันและเป็นมาตรฐานเดียวกันกับผมและคนอื่น ๆ จริงไหมครับ

หมายเลขบันทึก: 553998เขียนเมื่อ 19 พฤศจิกายน 2013 17:44 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 พฤศจิกายน 2013 17:44 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)
ใช่ค่ะ หากคิดจะทำงานด้านบริการต้องทำด้วยใจค่ะ ลูกค้าต้องมาที่หนึ่ง

...บางทีแคชเชียร์เปลี่ยนกะทำงาน...ที่เห็นอาจเป็นแคชเชียร์คนใหม่นะคะคุณnobita...

ดร.พจนาครับ ยืนยันว่าคนเดิมครับ เพราะชั่วเวลาไม่เกินห้านาทีเอง

เคยเจอแบบนี้ค่ะ ....

แต่ก็ลองเดินกลับไปจ่ายใหม่อีกครั้ง..หลังจากคนที่แคชเชียร์รับชำระเงินแล้ว

แล้วตั้งคำถามด้วยภาษาดอกไม้ว่า....ของนี่ไม่เกิน ๑๐ ชิ้นเอง ขอจ่ายตรงนี้ได้ไหมคะ ^________^ !!

น้องแคชเชียร์...ใช้อวัจนภาษาตอบกลับมาด้วย.....การตวัดสายตาและหยิบของไปรูดปรื๊ด ๆ หยิบของใส่ถุงให้อย่างกระแทกกระทั้น (วนิดาก็ได้แต่ฝึกวางใจ....และยังยิ้มให้เธอนิดนึง)


แต่กลับบ้านมามีคำถามในใจมากมาย คุณ nobita เคยสงสัยไหมคะ

แล้วมีช่องให้ชำระตั้งหลายช่องไว้ทำไม......แต่เปิดช่องชำระเงินเพียงแค่ ๓-๔ ช่อง (ยกเว้นในวันต้นเดือนที่ส่วนใหญ่เปิดให้ชำระได้หลายช่อง)


(@^______________^@)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท