ผ้าไหมไทยดังกึกก้อง สู่ชุดฉลองพระองค์และกระเป๋าทรงถือสุดล้ำค่าเพื่อพระมารดาแห่งไหมไทย


วิโรจน์   แก้วเรือง

ศศิพิมพ์ ลิ่มมณี

       สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณในการส่งเสริมอาชีพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม และทรงสนับสนุนอาชีพทางด้านหัตถกรรมการทอผ้าไหมลวดลายต่างๆ มาตั้งแต่ปี 2513จนกิจกรรมขยายออกไปอย่างกว้างขวางและเป็นที่มาของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงเป็นแบบอย่างในการอนุรักษ์และเผยแพร่ภูมิปัญญาไหมไทย ด้วยการฉลองพระองค์ด้วยผ้าไหมไทยในทุกโอกาส ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ด้วยพระราชกรณียกิจที่พระองค์     ทรงงานด้านหม่อนไหมด้วยพระวิริยะอุตสาหะมาตลอด ทำให้เกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมและทอผ้าไหมได้มีอาชีพที่ยั่งยืน มีรายได้พึ่งพาตนเองอย่างสมศักดิ์ศรี ทำให้ประชาชนเกิดความตระหนักได้ถึงความรัก ความห่วงใยของพระองค์ที่มีต่อพสกนิกร และบังเกิดความภาคภูมิใจในเกียรติภูมิความเป็นไทย จนเป็น ที่ประจักษ์ชัดทั้งในประเทศและต่างประเทศเพื่อประกาศพระเกียรติคุณในพระปรีชาสามารถและ

       พระอัจฉริยภาพ และเพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 12 สิงหาคม 2555  คณะรัฐบาลและปวงชนชาวไทยจึงได้ถวายพระราชสมัญญา “พระมารดาแห่งไหมไทย”แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เพื่อจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ชาติไทยสืบไป

 

      กรมหม่อนไหม  กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นเพื่อสนองพระราชประสงค์ของพระองค์ ในการอนุรักษ์งานศิลปหัตถกรรม ภูมิปัญญาไหมไทย ส่งเสริมและสนับสนุนอาชีพปลูกหม่อนเลี้ยงไหมและงานหัตถกรรมไหมไทย รวมทั้งพัฒนางานวิชาการด้านหม่อนไหมให้เป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับหอการค้าไทย-อิตาเลียนเพื่อดำเนินความร่วมมือพัฒนาระบบการควบคุมตรวจสอบรับรองคุณภาพผ้าไหมไทยรวมทั้งส่งเสริมผ้าไหมไทยในการจัดทำสินค้าคู่แฝดกับสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์และสินค้าที่มีชื่อเสียงของประเทศอิตาลี

      ในปี 2555ซึ่งเป็นปีที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษาบริษัทกุชชี่(GUCCI Company) และกรมหม่อนไหมจึงร่วมมือกันจัดทำสินค้า GUCCI รุ่นพิเศษ (Special Edition for Thailand) โดยใช้ผ้าไหมไทยเป็นวัตถุดิบ เพื่อให้เป็นสินค้าพิเศษสุดชิ้นเดียวในโลก สำหรับทูลเกล้าถวายสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เพื่อเฉลิมพระเกียรติฯเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 12 สิงหาคม 2555

กว่าจะมาเป็นชุดฉลองพระองค์และกระเป๋าทรงถือหนึ่งเดียวในโลก

1. การออกแบบ

     ทีมนักออกแบบชั้นนำของบริษัท GUCCI ประเทศอิตาลี นำโดย Ms. FridaGiannini ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบ เป็นผู้วางแผนการออกแบบสินค้าที่จะผลิตสำหรับโอกาสพิเศษในครั้งนี้โดยเน้นการใช้ผ้าไหมไทยที่มีเอกลักษณ์ในสายตาชาวโลก และมีกระบวน การผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีความยั่งยืน เพื่อเป็นตัวแทนของผ้าไหมในระดับพรีเมียมที่มีคุณภาพสูงสุดประเทศหนึ่งในโลก

     1.1 กระเป๋าทรงถือ

      รูปแบบของกระเป๋าทรงถือที่นักออกแบบเลือกใช้ในครั้งนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากกระเป๋าในคอลเลกชั่น“GUCCI BAMBOO”  ซึ่งผลิตครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1947 (พ.ศ. 2490) สะท้อนมุมมองการเลือกใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติผนวกกับงานออกแบบที่พิถีพิถัน เป็นที่มาของกระเป๋าทรงถือ มีชื่อว่า GUCCI’s iconic new bamboo bag especially for Her Majesty โดยกำหนดวัตถุดิบหลักในการผลิต คือ ผ้าไหมไทย หนังจระเข้ และไม้ไผ่ ทั้งนี้นักออกแบบได้เสนอภาพร่าง (sketch) กระเป๋าทั้งหมด 8 สี และตกแต่งรายละเอียดด้วยหนังชนิดต่างๆ ผ้าไหมไทย ป้ายหนังภายในกระเป๋าสลักลายนูนดังนี้

ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชวินิจฉัยเลือกกระเป๋าแบบที่4ซึ่งตัวกระเป๋าผลิตจากผ้าไหมไทยสีเหลือง ตกแต่งขอบกระเป๋าด้วยหนังจระเข้ หูกระเป๋าทำด้วยไม้ไผ่

1.2 ชุดฉลองพระองค์

ภาพร่างชุดฉลองพระองค์จากผ้าไหมไทยมีด้วยกันทั้งหมด 3 แบบๆ ละ 5 สี ดังนี้ 

 

2. การผลิตกระเป๋าทรงถือและชุดฉลองพระองค์

     กรมหม่อนไหม มีหน้าที่หลักในการเฟ้นหาผ้าไหมไทยที่มีคุณภาพสูง มีเอกลักษณ์ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเลือกผ้าไหมจากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และจากบริษัทผู้ผลิตไหมไทยจำนวน 9 บริษัท ส่งต่อให้กับบริษัท GUCCI เพื่อผลิตเป็นกระเป๋าทรงถือและชุดฉลองพระองค์ต่อไป ซึ่งผ้าไหมไทยทอมือสีเหลืองจากสมาชิกของศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพฯ จังหวัดบุรีรัมย์ ถูกคัดเลือกให้นำมาเป็นวัตถุดิบหลักสำหรับการผลิตกระเป๋าทรงถือรุ่นGUCCI’s iconic New Bamboo bag especially for Her Majestyที่มีความสวยงาม ตกแต่งด้วยหนังจระเข้ และเพิ่มความโดดเด่นด้วยหูหิ้วของกระเป๋าที่ทำจากไม้ไผ่ นำมาเผา แล้วนำมาดัดให้เป็นรูปครึ่งวงกลมจำนวน 140 ชิ้น ส่วนชุดฉลองพระองค์นั้นใช้ผ้าไหมจากบริษัทกรีนวิลล์เทรดดิ้ง จำกัด กรุงเทพฯ นำมาตัดเย็บอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้สมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระราชินีผู้ทรงเป็นที่รักของปวงชนชาวไทย

          อธิบดีกรมหม่อนไหม ได้เบิกคณะผู้แทนบริษัทกุชชี่ เข้าเฝ้าสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งเสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์เป็นองค์ประธานในพิธีเปิดงาน ประกาศเกียรติคุณ “งานพระมารดาแห่งไหมไทย” แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 12 สิงหาคม 2555 และงานตรานกยูงพระราชทาน สืบสานตำนานไหมไทย ประจำปี 2556เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2556 ณ อาคารอิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี เพื่อทูลเกล้าฯถวายกระเป๋าทรงถือและชุดฉลองพระองค์

            การใช้ผ้าไหมไทยของบริษัทกุชชี่ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตสินค้าชั้นนำของโลก มาเป็นวัสดุหลักในการออกแบบตัดเย็บเป็นชุดฉลองพระองค์และกระเป๋าทรงถือ ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 12 สิงหาคม 2555 ครั้งนี้ ย่อมแสดงให้ทั่วโลกได้รับรู้ว่า”ไหมไทย”เป็นเอกลักษณ์ของชาติ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทรงคุณค่า เปี่ยมด้วยศิลปวัฒนธรรมชั้นสูง สมควรที่ปวงชนชาวไทย จะร่วมกันอนุรักษ์พัฒนาไหมไทย ให้อยู่คู่ไทย คู่โลก สืบไป

บรรณานุกรม

  1. วิโรจน์ แก้วเรืองและศศิพิมพ์ ลิ่มมณี. 2556.ไผ่ :ประโยชน์สารพัน จากอาหารสู่สิ่งทอ.คัลเลอร์เวย์,106 (19),

หน้า42-45.

  1. สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์. 2556. รายงานพิเศษ : พระราชสมัญญา พระมารดาแห่งไหมไทย, 11 สิงหาคม 2556.

http://thainews.prd.go.th/centerweb/news/NewsDetail?NT01_NewsID=WNRPT5608110020001

  1. ศูนย์สารสนเทศหม่อนไหมและประชาสัมพันธ์ กรมหม่อนไหม. 2556.กรมหม่อนไหม เตรียมทูลเกล้าฯถวายชุดฉลองพระองค์และกระเป๋าทรงถือ แบรนด์ GUCCI แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 12 สิงหาคม 2555, 11สิงหาคม 2556. 
  2. www.qsds.go.th

 ที่มา : colourway ปีที่ 19 ฉบับที่ 108 พฤษภาคม-มิถุนายน 2556 โดย วิโรจน์ แก้วเรือง และ ศศิพิมพ์ ลิ่มมณี

หมายเลขบันทึก: 552658เขียนเมื่อ 6 พฤศจิกายน 2013 11:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 พฤศจิกายน 2013 11:35 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

  จริงๆแล้ว คนไทยเราเก่งม๊าก ๆๆ นะคะ .... ความคิด สร้างสรรค์มากๆ ค่ะ  Creativity .... อย่างมากค่ะ 

 

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท