สองเดือนเศษที่ผ่านมาผู้เขียนเป็นนักศึกษาครูสมาธิรุ่นที่ ๓๓ ของสถาบันพลังจิตตานุภาพของหลวงพ่อวิริยังค์ ศูนย์นครปฐมโดยเรียนที่วัดห้วยจระเข้และเป็นรุ่นที่ ๒ ที่เปิดสอน
ที่นี่ หลักสูตรนี้ใช้เวลาเรียน ๖ เดือนเต็มเฉพาะวันเสาร์และวันอาทิตย์
ทุกครั้งที่มาเรียนผู้เขียนสังเกตเห็นทีมงานจำนวนไม่ต่ำกว่า ๔๐ คน สวมเสื้อสีฟ้าสัญลักษณ์ของสถาบันพลังจิตตานุภาพที่คอยดูแลพวกเราอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาดห้องเรียน ดูแลห้องน้ำูดูแลสถานที่เดินจงกรมและนั่งสมาธิ ดูแลเรื่องอาหารกลางวัน เตรียมน้ำปานะยามบ่าย ดูแลอำนวยความสะดวกทุกอย่างให้พวกเราเรียนรู้อย่างมีความสุข โดยมาทำงานตั้งแต่หกโมงเช้าเพื่อทันให้พวกเราได้เข้าห้องเรียนก่อนเก้านาฬิกา
ผู้เขียนรู้สึกชื่นชมพี่เลี้ยงหลากหลายวัย มีทั้งเด็กสาววัยรุ่นอย่างน้องโมที่คอยถ่ายภาพ ดูแลด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ พี่จอยวัยกลางคนที่คอยหาที่ว่างให้คนที่มาสาย น้องเก่งที่สภาพจิตไม่ปกตินักแต่มีน้ำใจคอยมาช่วยดูแลเรื่องน้ำดื่ม และส่งเสียงดังเป็นผู้กำกับการแสดง และคอยเล่นกับแมวและสุนัขของวัดยามที่พวกเราเดินจงกรมด้านล่าง ตลอดจนพี่เลี้ยงสูงวัยหลายคนที่อุิทิศตนเพื่อนักศึกษาทุกคน
ประธานรุ่นที่ ๓๒ ขวามือ และทีมงานพี่เลี้ยงในวันต้อนรับน้องใหม่
บ่ายวันนี้ที่ห้องเรียนครูสมาธิสถาบันพลังจิตตานุภาพอาจารย์นกผู้ประสานงานครูสมาธิศูนย์วัดห้วยจระเข้พบและพูดคุยกับนักศึกษาเพื่อขอความร่วมมือทำงานจิตอาสาต่อไปอีกหกเดือนหลังเรียนจบ
ใครจะมาเป็นพี่เลี้ยงทั้งสองวัน วันเสาร์และวันอาทิตย์บ้างคะ ?
มีคนยกมือไม่ถึงสิบคนหนึ่งในนั้นมีฉันอยู่ด้วย
ใครจะมาเป็นพี่เลี้ยงวันเสาร์บ้างคะ ?
มีคนยกมือสามสิบกว่าคน
ใครจะมาเป็นพี่เลี้ยงวันอาทิตย์บ้างคะ ?
มีคนยกมือหนึ่งคน ฮา ฮา ....
ใครคิดว่าจะมาเป็นอาจารย์สอนสมาธิบ้างคะ ?
มีคนยกมือหนึ่งคนคือฉันเอง...ช่างกล้านะ...
อาจารย์นกชี้แจงเรื่องการเป็นอาจารย์สอนสมาธิต้องเป็นพี่เลี้ยงในวันเสาร์และวันอาทิตย์ไม่ต่ำกว่า ๘๐% ต้องสอบและต้องเข้ารับการอบรมเรื่องการเป็นอาจารย์สอนสมาธิอีกสามวัน ต้องผ่านการทดสอบด้านต่าง ๆ ต้องสอนให้ดู และต้องอายุไม่เกิน ๖๕ ปี
ส่วนพี่เลี้ยงอายุไม่เป็นปัญหาต้องการจำนวนมาก
ในที่สุดอาจารย์นกพยายามโน้มน้าวให้นักศึกษาทุกคนตระหนักและเห็นถึงคุณค่าความจำเป็นในเรื่องจิตอาสา "หากไม่มีจิตอาสาช่วยงานหลวงพ่อเห็นทีศูนย์นี้จะต้องปิด
ดำเนินการพราะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีพี่เลี้ยง หลวงพ่อมีนโยบายให้พวกเราเรียนจบแล้วก็เป็น
พี่เลี้ยงอีกหกเดือนเพื่อช่วยงานหลวงพ่อต่อนะคะ ไม่ยากเลย ไม่นานหรอกค่ะ แป๊บเดียวเองค่ะ"
ผู้เขียนหันซ้ายแลขวามองไปทั่วห้อง นักศึกษารุ่นนี้อายุเฉลี่ยห้าสิบปีขึ้นไป อายุต่ำสุด ๒๓ ปี สูงสุด ๘๑ ปี ส่วนใหญ่อยู่ในวัยกลางคนอายุราว ๔๐ - ๖๐ ปี ล้วนแต่มีครอบครัว...ที่สำคัญงานจิตอาสาเป็นงานที่เกิดจากจิตสำนึกในการทำชีวิตให้สมบูรณ์เพื่อผู้อื่น คนที่จะทำงานตรงจุดนี้ได้ล้วนแต่เป็นผู้มีศรัทธาสั่งสมบารมีและฝึกฝนตนเองตั้งแต่เยาว์วัย
นักศึกษารุ่นหน้าจะเรียนได้อย่างไร ถ้านักศึกษารุ่นปัจจุบันไร้คนเสียสละ อีกหนึ่งเดือนเปิดรับพี่เลี้ยง ผู้เขียนคนหนึ่งที่ตั้งใจจะคืนกำไรให้สังคมด้วยการเป็นพี่เลี้ยงทั้งสองวัน....และได้แต่หวังว่าเพื่อน ๆ นักศึกษาส่วนใหญ่คงกล้าเปลี่ยนใจเพราะเวทีแห่งนี้ต้องการพี่เลี้ยงจำนวนมาก
ธรรมทิพย์
๒๖ ตุลาคม ๒๕๕๖
พิธีรับน้องที่แสนอบอุ่นของพี่เลี้ยง
...... ดูแลผู้สูงวัย ..... ใส่ใจคุณภาพผู้สูงอายุ ..... ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณค่ะ ที่แวะมาใ้ห้กำลังใจ
ชื่นชมค่ะ...ที่หาดใหญ่ก็มีเรียน....วันหนึ่งครูนกจะไปร่วมชั้นเรียนค่ะ...ขอเวลาอีกนิดหน่อย
สาธุๆๆกับจิตอาสาครับ
ชื่นชมทุกๆๆท่านมาก
หลวงพ่ออยู่ที่แคนาดาใช่ไหมครับ
สาธุอนุโมทนากับจิตอาสาทุกท่านค่ะ
สาธุอนุโมทนากับจิตอาสาทุกท่านค่ะ
สาธุอนุโมทนากับจิตอาสาทุกท่านค่ะ
สาธุอนุโมทนากับจิตอาสาทุกท่านค่ะ