ย้อนรอยเส้นทาง PhD ของโอ๋-อโณ (29): การท่องเที่ยวในเมืองเพิร์ธ


เขียนเล่าเรื่องราวสมัยที่อยู่เพิร์ธลงในวารสารสายใยพยาธิฯเมื่อนานมาแล้ว และเอามาลงใน GotoKnow อยู่พักหนึ่ง แล้วก็หยุดไป จำไม่ได้ว่าทำไม แต่ช่วงนี้เอาไปเก็บใส่ไว้ในเว็บไซต์ของบุคลากรมอ.Share.psu แล้วเลยเอามาเผื่อแผ่ตรงนี้ไปด้วยให้จบค่ะ ดีใจที่ได้เขียนไว้จริงๆ เพราะตอนนี้ให้เขียนก็คงไม่ได้รายละเอียดขนาดนี้แน่ๆ

แผนที่เป็นอุปกรณ์ติดตัวเสมอ 

สิ่งที่เป็นของสำคัญและสร้างนิสัยใหม่ให้พวกเราที่มาอยู่เพิร์ธก็คือ การใช้และพกพาแผนที่จนเป็นนิสัย เพราะผังเมืองของเขาจะดูได้ง่ายดาย ไปไหนมาไหนก็ใช้วิธีดูเอาจากแผนที่ มีทั้งแบบที่เป็นแผ่นพับเฉพาะย่านที่เขาจะมีแจกอยู่ทั่วไป เพราะความที่เป็นเมืองท่องเที่ยวอยู่แล้ว และทั้งที่เป็นเล่มๆประจำรถที่จะมีรายละเอียดของทั้งเมืองเป็นเล่มหนา ออกมาปีหรือ 2 ปีครั้ง ไปไหนๆแล้วหลงก็แค่เปิดดูชื่อถนน ชื่อย่านก็หาทางกลับได้ค่อนข้างง่าย รู้ระยะทางใกล้ไกล มีกี่ไฟแดงกี่วงเวียน มีวัด โบสถ์ โรงเรียน โรงพยาบาล สนามเด็กเล่น สถานที่ปิกนิก อยู่ตรงไหนฯลฯ ครบถ้วนอยู่ในแผนที่ 

Perth Zoo

สถานที่แรกๆที่เราไปเที่ยวก็คือ Perth Zoo จำได้ว่าไปอยู่กันแทบทั้งวันในนั้น เขาทำได้ค่อนข้างดี เพราะแม้จะอยู่ใจกลางเมือง ห่างจากท่าเรือกลางเมืองแค่สักระยะทางเดิน สัก 5 นาทีเท่านั้นเอง แต่เขาทำสภาพแวดล้อมภายในให้สัตว์แต่ละชนิดได้อยู่ในสภาพที่เหมือนจริงของเขาเอง จะไม่ใช่เป็นกรงๆ เป็นล็อคๆไปหมด และให้เรารบกวนสัตว์น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขาจะมีคนอธิบายให้ฟังว่าสัตว์แบบไหน มันอยู่กันยังไง ทำยังไงเราถึงจะไม่รบกวนเขา จะสังเกตเห็นว่าคนที่ทำงานเกี่ยวกับสัตว์ของเขา ก็จะเป็นคนที่รักสัตว์จริงๆ ทำให้เขาอธิบายหรือทำอะไรๆด้วยความรัก ซึ่งสื่อสารมาถึงเราได้จากการบอกเล่าพูดคุย ก็เลยยิ่งทำให้คนฟัง “อิน” ไปกับเขาได้ง่าย เหมาะอย่างยิ่งกับเด็กๆ

นอกจาก Perth Zoo ซึ่งเป็นสวนสัตว์ของทางการแล้ว ที่เพิร์ธก็ยังมีสวนสัตว์ของเอกชนอีกหลายๆที่ ซึ่งครอบครัวเราก็ได้ไปเยี่ยมเยียนกันมา 2-3 ที่ แต่ละแห่งก็แตกต่างกันในด้านวิธีการที่เขาให้เราเข้าถึงสัตว์ ที่ขาดไม่ได้ก็คือ จิงโจ้กับโคอาล่า ส่วนใหญ่เราจะไปแค่ที่ละหนเดียว เพราะค่าเข้าจะค่อนข้างแพงและไม่มีอะไรให้เราติดใจมากจนอยากจ่ายขนาดนั้นอีก (แต่ก็คุ้มค่านะคะ เพราะเขาทำดีๆทุกที่เลย) 

Caversham Wildlife Park

 สถานที่ที่เราติดใจที่หนึ่ง และไปกันมากกว่า 1 ครั้ง ใครไปใครมาให้เราได้พาเที่ยว เราก็จะพาไปที่นี่ โดยค่าเข้าชมก็สมเหตุสมผลดีก็คือ Caversham Wildlife Park ครั้งแรกที่เราไปเที่ยวก็เป็นเพราะได้ยินมาจากคนอื่นอีกทีว่าเขาให้เราเข้าไปในที่อยู่ของโคอาล่าได้เลย เราเคยไปอีกที่มาก่อนที่มีโคอาล่าแล้ว เขาจะมีเจ้าหน้าที่คอยอุ้มให้เราแค่จับๆลูบๆหลัง เพราะโคอาล่าเป็นสัตว์ที่มีเล็บแหลม เขากลัวว่าจะเป็นอันตรายทั้งต่อคนดูและตัวโคอาล่าเอง ตัวคนอุ้มเองก็จะมีเสื้อหนังและใส่ถุงมือหนังที่มีเฉพาะส่วนให้นิ้วโผล่ออกมา แต่ที่ Caversham เขาให้เราเข้าไปในส่วนที่เป็นบ้านของโคอาล่าได้เลย เราก็จะสามารถเข้าไปอยู่ใกล้ๆแตะหลังเขาถ่ายรูปได้ แต่ห้ามเอามาอุ้มเท่านั้น เขาอยู่กันเป็นครอบครัว ตอนที่เราไปเขาหลับ พอเขาตื่นก็จะมีเจ้าหน้าที่มาบอกให้เราไปดูได้ เราเลยได้เห็นเจ้าตัวซนที่ตื่นๆอยู่วิ่งไปวิ่งมาบนต้นยูคาลิปตัส มีแถมลงมาเดินที่พื้นด้วย แต่ตัวใหญ่ๆจะดูขี้เกียจ ตื่นมาก็กิน ให้เราจับได้แต่เขาไม่เคลื่อนที่ไปไหน กินๆอยู่ไม่นานก็หลับไปอีก ดูน่ารักแต่แสนจะขี้เกียจมาก พวกเราไล่ตามถ่ายรูปกับเจ้าตัวเล็กๆที่ไม่อยู่นิ่งกันสนุกสนานไปเลย ตอนนั้นน้องฟุงเพิ่งจะ 2 ขวบกว่าๆเท่านั้น พี่วั้นพี่เหน่นก็ 7-8 ขวบ ตื่นเต้นกันใหญ่

ได้ให้อาหารจิงโจ้เอง มีตัวที่เขาเรียกว่าอัลพาก้า ที่เหมือนลาบวกแพะ มีขนที่หัวเหมือนม้า ตาหวานสวยมาก เห็นแล้วก็หลงรักเขาเลยค่ะ สัตว์ส่วนใหญ่จะสุภาพ รวมทั้งเจ้านกกระจอกเทศที่ตัวโต แต่ก็กินได้สุภาพ แต่ต้องรู้วิธีให้อาหาร  ตอนแรกๆเราจะหยิบส่งให้เขา เขาก็เอาปากแหลมๆมารับต่างคนต่างกลัว เจ้าของ Park เขาเดินดูอยู่ เขามาสอนวิธีให้ว่า ให้เราเอาอาหารใส่กลางฝ่ามือ แล้วแบมือเอาไว้ นกกระจอกเทศเขาก็จะมาจิกกินอย่างสุภาพจากมือเราได้ง่ายๆเลย สิ่งที่น่าประทับใจอีกอย่างก็คือเจ้าของนี่แหละค่ะ ชื่อคุณเดวิดเขามาพูดกับพวกเราเป็นภาษาไทย เพราะเขาได้ยินเราพูดไทยกัน เขาเคยมาอยู่เมืองไทยและรักเมืองไทยอีกด้วย รู้สึกว่าเป็นคนไทยนี่ดีจังเลยไปไหนๆใครก็ชอบก็รักบ้านเมืองเรา

นี่ยังไม่ทันเล่าถึงสถานที่เที่ยวหลายๆที่กลางเมืองเพิร์ธเลย ก็ท่าทางจะหมดโควต้าเสียอีกแล้ว เอาไว้เล่าต่อคราวหน้านะคะ

ยังมีที่เด่นดังอีกหลายที่ และจะเล่าเคล็ดลับในการเที่ยวแบบประหยัดของครอบครัวเราสู่กันฟัง

ต่อมาจาก series นี้ค่ะย้อนรอย PhD

หมายเลขบันทึก: 550491เขียนเมื่อ 8 ตุลาคม 2013 17:00 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 สิงหาคม 2014 20:02 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

 มาถึงตรงนี้ง่วงมากแล้วค่ะ มีเวลาคราใดจะมาอ่านย้อนหลัง ย้อนรอยคุณโอ๋ค่ะ

คิดถึงเหมือนกันค่ะ เมืองที่คุณโอ๋พูดถึง ไปย่ำมาแล้วเมื่อหลายปีก่อนค่ะ ......

ยังอยากไปอีกค่ะ .........อยากไปเดินขึ้นภูเขาบลูเมาเท่น และไปเยี่ยม 3 สาว three sisters อีกครั้งค่ะ

ต้องพักยกหาสตังค์ ประทังชีวิตก่อนค่ะ

 

ติดตามอ่านบันทึกที่น่าประทับใจมากนะคะดร.อโณทัย...

เป็นการเที่ยวที่มีคุณค่าต่อชีวิตมากๆค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท