ย้อนรอยเส้นทาง PhD ของโอ๋-อโณ (27): อะไรๆก็ไม่ถูก(เงิน)
อะไรๆก็ไม่ถูก(เงิน)
สำหรับน้องฟุงก็มีประสบการณ์ในการไปตรวจอัลตราซาวด์กระเพาะปัสสาวะ เพราะหมอต้องการตรวจสอบดูว่าทำไมน้องฟุงมี Hematuria (มีเม็ดเลือดแดงในฉี่) ต่อเนื่องกันยาวเลย (เราตรวจพบตอนไปต่อวีซ่าซึ่งต้องมีการตรวจร่างกายทั้งครอบครัว) คราวนี้ทางประกันก็จ่ายให้แต่ไม่ทั้งหมด เราต้องเสียเพิ่มเองบ้าง ก็ไม่น้อยทีเดียว เพียงแต่เราไม่รู้เท่านั้นว่าราคาที่บ้านเราน่าจะเป็นอย่างไร แต่ที่แน่ๆคือ เรารู้แล้วว่า ค่ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาลที่เพิร์ธนั้นแพงมากๆ
ยิ่งเป็นการทำฟันยิ่งแล้วใหญ่ เป็นที่ทราบกันว่า มีคนไทยหลายๆคนที่อยู่ที่นี่ เสียค่าเครื่องบินกลับมาเที่ยวเมืองไทยและทำฟันที่บ้านเรา ยังถูกกว่าทำฟันที่เพิร์ธเสียอีก โชคดีที่เราจัดการตรวจเช็คซ่อมแซมฟันกันอย่างเรียบร้อยแล้วก่อนจะมาอยู่ที่นี่ ทำให้ไม่ต้องมีประสบการณ์เรื่องนี้มาเล่า
เรื่องฟันๆ
สำหรับสุขภาพฟันเด็กๆนั้น ที่เพิร์ธจะมีบริการสำหรับสาธารณะที่น่าชื่นชมมากๆเป็นของ Dental Health Services ของรัฐออสเตรเลียตะวันตก จะมี Dental van ที่เป็นรถทันตกรรมไปจอดตามโรงเรียนต่างๆ แล้วก็ดูแลตรวจฟัน ทำฟันให้เด็กๆเป็นประจำทุกเทอมหมุนเวียนกันไป แล้วก็มีจดหมายรายงานผู้ปกครองให้รู้ว่าเด็กๆได้รับการตรวจและทำอะไรไปบ้าง เช่น ถอนฟัน อุดฟัน ขูดหินปูน เคลือบฟลูออไรด์ สอนการแปรงฟัน
วาระพิเศษที่คุณแม่โดนเรียกไปพูดคุยกับหมอฟันก็มีเช่น ของน้องฟุงมีฟันพิเศษงอกเกินอยู่หลังฟันหน้า ต้องทำการถอนออก ให้คุณแม่ไปรับทราบและอยู่ด้วย ส่วนพี่วั้น เราได้รับการเรียกไปพูดคุยว่า น่าจะต้องทำการจัดฟันให้เพราะมีฟันซ้อนกันมาก ทำความสะอาดยากแต่เพราะเป็นเรื่องที่ต้องทำต่อเนื่องกันยาวเป็นปีและควรทำกับหมอคนเดียวกันตลอด ให้เราตัดสินใจว่าจะทำเลยไหม ตอนนั้นเหลืออีกสักประมาณปีนึงก็จะได้กลับเมืองไทยก็เป็นอันรับทราบไว้ว่าจะกลับมาจัดการที่บ้านเราเองดีกว่า
ก็เป็นอันครบเครื่องเรื่องระบบการรักษาพยาบาลที่เรามีประสบการณ์ที่เมืองเพิร์ธ คราวหน้าว่าจะเล่าเรื่องประสบการณ์เกี่ยวกับการท่องเที่ยวในเพิร์ธและเมืองอื่นๆในรัฐออสเตรเลียตะวันตก เผื่อจะได้เป็นข้อมูลของใครๆที่อยากไปนะคะ
ต่อมาจาก series นี้ค่ะย้อนรอย PhD
ความเห็น (2)
ได้ความรู้เรื่องการใช้ชีวิตในต่างแดนมากเลยครับ สนุกด้วยครับ
ขอบคุณครับ
ธุรกิจทำฟันที่ภูเก็ตบูมมากๆ ค่ะ
ต่างชาติมีทริปมาทำฟันที่เมืองไทยนะคะ