การประชุมของฝ่ายประถม (English Program)
อย่างที่เคยเล่าไว้ในบันทึกที่แล้วว่า ที่โรงเรียนของเราประชุมกันบ่อยๆ ทุกแผนก สัปดาห์ละหนึ่งครั้ง แต่ถ้าเป็นประถม ต้องประชุมกันถึงอาทิตย์ละสองครั้ง ต้องร้อนถึง Mr Keith Burgess ซึ่งเป็น Director อยู่กับเรามากว่าสิบปี ต้องจัดตารางสอนหลบหลีก เพื่อให้ครูมีเวลาประชุมกันได้ ถึงสัปดาห์ละสองวัน ครั้งละ 1 ช.ม. ที่ต้องประชุมสองครั้งก็คือประชุมครูไทยก่อนในวันพุธ แล้วจึงไปร่วมประชุมกับครูต่างชาติอีกครั้ง ในวันศุกร เพื่อให้เกิดความเข้าใจกลมกลืนกันจริงๆทั้งครูไทยและครูต่างชาติ ในช่วงที่ประชุมกันเด็กก็จะไปทำกิจกรรม การงานพื้นฐานอาชีพ บ้าง ลูกเสือบ้าง ทำให้ครูส่วนใหญ่ว่าง พอเข้าประชุมร่วมกันได้
ก็แล้วทำไม ไม่ประชุมครั้งเดียวพร้อมทั้งครูไทยและต่างชาติเล่า ? เคยทำมาก่อน แต่เห็นว่า ได้ประโยชน์น้อยกว่า เพราะครูไทยเป็นนักฟังมากกว่านักออกความคิดเห็น ยิ่งเป็นภาษาอังกฤษด้วยแล้ว ยิ่งแทบพูดกันไม่ค่อยออก ทั้งๆที่ฟังรู้เรื่องทำให้เสียความคิดเห็นดีดีจากครูไทยไปหมด ครูฝรั่งก็ช่างพูด ขืนประชุมพร้อมกัน เวลา ช.ม.อย่างที่เป็นอยู่ก็ไม่ค่อยจะพอ
ดังนั้นวันพุธบรรดาครูไทยทั้งหมดจึงเข้าประชุมด้วยกันก่อน ผลัดกันเป็นเลขา เป้นประธาน ตามนโยบายเดิมของโรงเรียน มีการออกวาระที่ชัดเจนและกระชับ เพราะประชุมกันได้แค่ ช.ม. เดียว หลังจากนั้น ก็ต้องกลับไปปฏิบัติหน้าที่ ของตนเอง
แม่ใหญ่ไปเข้าประชุมกับเขาบ้างเป็นบางครั้ง เนื้อหาประชุมส่วนใหญ่ เป็นเรื่องของกิจกรรมดีดีที่จะจัดกันตอนเช้าของทุกๆวันตอนเข้าแถว นอกจากนั้น ก็จะมีการบอกกล่าวเล่าแจ้งกันว่าแต่ละห้องจะมีกิจกรรมพิเศษอะไรบ้าง เช่นจะไปทัศนศึกษาที่ไหน มีการสอนแทนกันบ้างเมื่อครูบางท่านต้องไปร่วมกิจกรรมนอกโรงเรียน ซึ่งมักจะมีบ่อยๆ เช่นไปเป็นกรรมการประกวดทางวิชาการต่างๆของเขตการศึกษา ของสมาคมการศึกษาเอกชน ใครจะไป ใครจะแทน ก็จะบอกกันในที่ประชุม ถ้ามีเรื่องเกี่ยวกับพฤติกรรมเด้กที่มีปัญหา หรือปัญหาที่ผู้ปกครองแจ้งมาก็จะมาช่วยกันแก้ในช่วงนี้
สังเกตเห็นว่า เขาไม่ค่อยจะนำเรื่องวิชาการเข้ามาพูดกันในทีประชุมช่วงภาษาไทยนี้มากนัก
- เพราะทุกคนต้องรับผิดชอบวิชาการที่ตนเองสอนอยู่แล้ว
- เพราะจะต้องไปปรึกษาหารือกับครูฝรั่งร่วมห้อง หรือร่วมวิชา
- เพราะจะต้องร่วมกันสอนทั้งส่วนที่เป็นภาษาไทยและกับภาษาอังกฤษให้กลมกลืนกัน โดยฝ่ายครูฝรั่งเป็นผู้สอนนำ ครูไทยต้องอยุูในห้องด้วยเฉพาะเกรด 1-3
- เพราะถ้าครูฝรั่งสอนแล้วครูไทยสังเกตเห็นว่าเด็กไม่เข้าใจ ครูไทยมีหน้าที่มาสอนเสริมให้จนกว่าเด้กคนนั้นๆจะเข้าใจ ส่วนเกรด 4-6 นั้น ครูฝรั่งสอนเดี่ยวได้ เพราะเด็กสามารถสื่อสารด้วยตัวเองได้แล้ว
คงเป็น เพราะว่ามีหลาย "เพราะ" ที่กล่าวมาแล้ว นี่เอง เรื่องวิชาการจึงเป้นเรื่องที่ไปประชุมย่อยกันเองระหว่างครูคู่สอน และทำได้ในห้องพักครู ยามที่มีเวลาว่าง เนื่องจากโรงเรียนนี้ให้ครูทุกคนสอนสัปดาห์ละไม่เกิน 15 ช.ม. เหลือเวลาไว้ให้เตรียมการสอนและปรึกษาหารือได้เต็มที
การประชุมร่วม ไทยกับฝรั่ง ในบ่ายวันศุกร จึงมักเป็นการบอกเล่าว่าจะมีกิจกรรมอะไรบ้าง ต้องการให้ครูฝรั่งเข้ามาช่วยทำกิจกรรมอย่างไร ทางฝรั่งต้องการให้ครูไทยช่วยอะไร ก็มาบอกกันในช่วงนี้ ดูเป็นการรายงานความเป็นไปมากกว่าการสนทนาตรงๆ ด้วยข้อจำกัดทางด้านภาษา จะมีครูที่อยู่นานจนพูดภาษาอังกฤษคล่องแล้วที่สามารถสื่อกับฝรั่งได้ดดยตรง ครูใหม่ๆแม้จะมีไอเดียดีดี ก็ยังไม่สามารถนำเสนอไอเดีย ได้เต็มที่นัก ต้องฝากครูอื่นสื่อให้แทน แต่ก้ได้เรียนรู้ภาษาจากประสบการณ์จริง พบว่าผ่านไปสักปีสองปี ครูจึงจะเริ่มสื่อสารได้อย่างอิสระมากขึ้น
นอกจากการประชุมดังกล่าวนี้แล้ว ครูโจ๊ก ผ.อ. ของโรงเรียน ก็ยังเปิดเฟสบุค เป็นแบบ กลุ่มปิดเฉพาะครูประถมฯ ใครมีกิจกรรมอะไรดีดี ก็ถ่ายรูป บรรยาย แล้วนำมาลงไว้ในกลุ่มปิดนี้ เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันในกลุ่ม มีเรื่องด่วนรอใหถึงวันประขุมไม่ได้ หาตัวกันไม่เจอ ก้เขียนถามกันในนี้ ซึ่งก็คงคล้ายๆกับ Planet ใน gotoknow นั่นเอง ด้วยเหตุนี้ แม่ใหญ่จึงยังไม่ค่อยประสบความสำเร็จในการชักจูงให้เขาเข้ามาเขียนกิจกรรมดีดีลงใน GTK ทั้งๆที่ได้พยายามชักจูงมาตั้งแต่ เฟสบุคยังไม่ดัง
การประชุมสองครั้งต่อสัปดาห์ และใช้เฟสบุคกลุ่ม มาเป้นเครื่องมือสื่อสารระหว่างครู 57 คน ต่อนักเรียน 400 กว่าคน ทำให้หารดำเนินงานของฝ่ายประถม ไม่ติดขัด ไม่มีดินพอกหางหมู ไม่มีปมหลายๆปมให้มาแก้กันภายหลัง สงสัยอะไร ไม่เข้าใจอะไร ใครทำอะไรที่ไหน ก็สามารถจัดการได้ภายในสัปดาห์
ก็คงพยายามต่อไปที่จะให้ครูนำสิ่งดีดี มาแลกเปลี่ยนใน GTKตามที่อาจารย์จันฯ ท่านกรุณาให้คำแนะนำมา ด้วยการดึงเอาเรื่องดีดีของโรงเรียนและของครูมาเขียนใน GTK และนำไปใส่ไว้ใน เฟสบุค ของโรงเรียน เป็นการเชิญชวนทางอ้อมอีกทางหนึ่งให้เอาความรู้ไปแลกปลี่ยนกับสาธารณชนเขาบ้าง
ความเห็น (3)
เยี่ยมมากเลยค่ะ
ประชุมเป็นระบบ ย่อย กลุ่มเล็กใหญ่
ร้อยองค์ความคิด สรุปเป้าหมายร่วม
เพื่อเด็กไทยก้าวไปอย่างมั่นคง
ขอให้มีความสุขมากๆนะคะ
ขอบคุณค่ะ
