ทำไมต้องห้วยขาแข้ง..
หลายท่านอาจจะเคยไปห้วยขาแข้งมาแล้ว บางท่านอาจจะเคยไปนอนค้างอ้างแรมมาแล้ว หลายท่านอาจจะศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับห้วยขาแข้งมาแล้ว แต่เชื่อว่า ยังมีสาระอีกมากมายที่หลายท่านยังไม่ทราบ
ทำไมที่ห้วยขาแข้งมีกลุ่มองค์กรพัฒนาเอกชนทั้งระดับท้องถิ่นและนานาชาติตั้งอยู่ที่นี่ เช่น มูลนิธิสืบ นาคะเสถียร WWF มูลนิธิหนองขาหย่าง มูลนิธิคนเพียงไพร..
ช่วงปี 2539 – 2542 ก่อนที่ผมจะไปสังกัด บริษัทที่ปรึกษาทีม ผมมาทำงานโครงการ ประสานความร่วมมือเพื่ออนุรักษ์และพัฒนา กลุ่มป่าห้วยขาแข้ง ช่วงนั้นผมสังกัด Save the Children (USA) และต่อมาคือมูลนิธิคนเพียงไพร ร่วมกับ มูลนิธิหนองขาหย่าง และ ส.ป.ก. กรมป่าไม้
ช่วงนั้นรับผิดชอบพื้นที่ชายป่าห้วยขาแข้งในพื้นที่ อ.แม่วงก์ อ.แม่เปิน ของจังหวัดนครสวรรค์ ตลอดแนวป่าห้วยขาแข้งเป็นพื้นที่ ส.ป.ก. เรามีกิจกรรมในทุกหมู่บ้านมากมาย เพื่อตรึงชาวบ้านมิให้บุกรุกป่าห้วยขาแข้ง และอื่นๆ....
เราพบ เสือข้าวสุก ที่ประทับใจยิ่งนัก เราพบเศรษฐีจากกรุงเทพฯที่ยกมรดกมหาศาลให้ลูกๆแล้วพาภรรยาไปใช้ชีวิตบั้นปลายที่เขาชนกันเพื่อปลูกป่าถวายในหลวง และอยู่กับธรรมชาติ... เราพบชาวบ้านที่ขึ้นป่าไปเอาผลผลิตจากป่ามากมาย เช่น เห็ดโคนป่า หรือเห็ดโคนธรรมชาติจากป่าที่ใหญ่มากๆจากบริเวณที่จะสร้างเขื่อนแม่วงก์
ด้านเหนือของห้วยขาแข้งคืออุทยานแห่งชาติแม่วงก์ที่มีเส้นทางขึ้นไปบนยอดส่วนที่สูงที่สุด ที่เรียกช่องเย็น เป็นพื้นที่ที่เดือนเมษายนยังต้องใส่เสื้อแขนยาว หรือบางคนต้องใส่เสื้อกันหนาว นั่นคืออิทธิพลของป่าที่สมบูรณ์ ที่ช่องเย็นคือแหล่งดูนกของเหล่าบรรดานักดูนกที่ครั้งหนึ่งจะต้องมาที่ช่องเย็นเพื่อดูนกป่าที่หาดูยาก..
ผมฝอยมากไปหน่อย...ยังนึกว่า สามวันน้อยเกินไปด้วยซ้ำสำหรับเฮฮาศาสตร์ป่าห้วยขาแข้งครับ
ตามมาเก็บละเอียดอีกครั้งก่อนเดินทางไปร่วมกิจกรรมเฮฮาศาสตร์11