การปลดล็อกใบประกอบวิชาชีพครู


 

 

ข้อเสนอของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่ให้ปลดล็อคใบประกอบวิชาชีพครู นั้น ผมตั้งข้อสังเกต ดังนี้
๑. ระยะเวลาที่ผ่านมาระบบการผลิตครู ได้พยายามช่วยกันปฏิรูปมาถึงปัจจุบัน ใช้เวลา ใช้งบประมาณไปมากมาย เดินทางมาจนได้ระยะเวลาหนึ่ง จะถอยหลังอีกกระนั้นหรือ
๒. กว่าจะยกระดับวิชาชีพครูได้ ยากลำบาก ต้องต่อสู้กับ อุปสรรคนานัปการ ทั้งคนที่ไม่รู้เรื่อง ชอบมาจัดให้ บางคนก็ใส่ความคิดแบบเชิงดูถูกวิชาชีพครู ใส่แนวคิดการปฏิบัติที่ไร้เหตุผล  ขอให้คนในวงวิชาชีพเขาจัดกันเองบ้างมิได้หรือ หมอรักษาคนตายทันที แต่ครู...เอาคน "รู้แต่เนื้อหา" "บ้าแต่สาระ" ถ่ายทอดไม่เป็น สร้างทัศนคติให้เด็กเกลียดวิชานั้นไปจนวันตาย แบบนี้เรียกว่า ไม่อันตรายอย่างนั้นหรือ 
๓. ผมเข้าใจว่า สถานการณ์ที่มันเป็นปัญหาทุกวันนี้ น่าจะเป็นปัญหาที่ ครูสายอาชีวศึกษา ขาดแคลนครูสายช่างอย่างหนัก เช่น ครูสอนวิศวกรรมศาสตร์ ระดับ ปวช. ปวส. ผมเสนอว่าตรงนั้น เปิดให้อาชีวศึกษา เลย หรือตัด กลุ่มอาชีวศึกษา ยกเว้นให้ก็ได้  คนที่จะมาสอนไม่ว่าจะเก่งมาจากที่ไหน ขออย่างเดียว คุณพิสูจน์ก่อนว่า คุณมีความเป็นครูอย่างแท้จริง  คุณเข้าใจหรือไม่ว่า  นักวิทยาศาสตร์ กับครูวิทยาศาสตร์ มันคนละสายพันธุ์ ครับ
๔. ขอย้ำว่า แก้กฎหมายก็ได้ ให้อำนาจ คณะกรรมการคุรุสภา มีหน้าที่ ออกข้อยกเว้นให้เท่าที่จำเป็น โดยยึดหลักการที่ว่า ต้องมีความเป็นครู พิสูจน์แล้วว่า ไม่มาสร้างทัศนคติที่เป็นลบต่อการเรียนวิชานั้นๆ ซ้ำเติมเด็กให้เกลียดการเรียนวิชานั้นไปชั่วชีวิต เพราะเพียงครูสอนไม่เป็น ถ่ายทอดไม่เป็น
๕. พวกครูชาวต่างชาติ จะไปงอนง้ออะไรหนักหนา รับรองว่า พวกชาวต่างชาติที่เก่งๆ ไม่มีใครออกมาลำบากตรากตรำนอกบ้านหรอก พวกที่มาก็คอยแต่จะเอาอย่างเดียว เรื่องมาก เรียกร้องมาก ไม่ค่อยปรับตัวให้เข้ากับเจ้า  ของประเทศเลย คนไทยสอนได้ หากได้รับการพัฒนาให้ดี คนไทย จำนวนหนึ่งก็ไม่เชื่อมือครูไทย สรุป อย่าไปเปิดประตูโล่ง จนไร้ศักดิ์ศรี อย่าให้คนต่างชาติ กดขี่ เรียกค่าตัวแพงๆ ทั้งๆ ที่ก็กินข้าวเท่ากัน สอนก็ไม่ได้ฉลาดกว่าคนไทยเลย ครูไทยหลายคนน้อยใจ ครับ
๖. หากระบบการผลิตครู ถูกกล่าวหาว่า ด้อยคุณภาพ ผมเสนอให้สอบรับใบประกอบวิชาชีพครูทุกคน ทุกสถาบัน ใครแน่จริง ก็ได้ ไม่แน่จริงก็ไปหาอาชีพอื่นทำ การสอบก็ต้องจัดการสอบให้สะท้อน"ความเป็นครู" จริงๆ นะครับ

ขอท่านอย่าทำร้ายวิชาชีพครู มากไปกว่านี้เลยครับ

หมายเลขบันทึก: 548504เขียนเมื่อ 17 กันยายน 2013 09:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 กันยายน 2013 09:17 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

ผมไม่เห็นด้วยกับการปลดล็อคใบประกอบวิชาชีพครู  "วิชาชีพครู"  นั่นเป็นต้องเน้นบุคคลที่ถ่ายทอดเป็น  สามารถบอกในสิ่งที่ยากต่อการเข้าใจ  ให้ผู้เรียนเข้าใจโดยง่าย  

ผมเคยมีกรณีของนิสิตทุน ป.บัณฑิต วิชาชีพครู จบป.ตรี สาขาทางวิทยาศาสตร์ แล้วมาเรียนวิชาชีพครูเพียง 1 ปี ควบคู่ไปกับการเรียนรายวิชา  เมื่อไปฝึกสอนในสถานศึกษา  นิสิตมีความกังวลในการสอนเป็นอย่างมาก  ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร  อันเนื่องมากจากมีเวลาคลุกคลีในวงการศึกษาไม่มากพอ  เมื่อเปรียบเทียบกับนิสิตที่เรียนในหลักสูตร 5 ปี  สามารถถ่ายทอดความรู้ได้เป็นอย่างดี  มีไวพริบในการแก้ปัญหา  และการควบคุมชั้นเรียนได้เป็นอย่างดี

 

ผมเชื่อในเรื่องวิชาชีพครูครับ

ครูที่ดีต้องเรียนรู้การถ่ายทอดให้นักเรียน

มีจิตวิญญาณของความเป็นครู

ในมหาวิทยาลัยบางแห่งมีปัญหามาก

รับคนจบปริญญาเอกมา จากการต่อ ปริญญาตรี โท เอก ที่ไม่ใช่วุฒิครู

ไม่มีประสบการณ์ในการสอน ครูสอนอย่างเดียวไม่สนใจนิสิตนักศึกษา (ประมาณว่าจบต่างประเทศ แต่สอนไม่เป้น งง งง)

เป็นปัญหามากเลยครับ

มาแจ้งอาจารย์ว่า

สามารถใช้ที่นี่สอนได้นะครับ

ดีกว่าที่ Facebook ที่อาจารย์ใช้อีกครับ

 ClassStart.org  

ขั้นตอนการเริ่มต้นใช้ระบบ |  คู่มือการใช้งาน |  เอกสารแนะนำ (.pdf) 

ขอบคุณท่านอาจารย์ขจิต มากครับ ผมจะใช้ครับ

ขออนุญาตลองใช้ด้วยนะคะ ติดไอที เหมือนกัน 

เห็นด้วยกับคณบดี ในเรื่องของใบประกอบวิชาชีพ ใข้ได้ดีทั่งคนไทยและชาวต่างชาติ ทำให้มีความตื่นตัวและเห็นคุณค่าของการศึกษาไทย  มาถูกทางแล้วคะ การมีใบอนุญาตทำให้เราได้ครูดีๆ เข้ามานระบบมากขึ้น และทำให้ครูที่ไม่พร้อมก็มีการพัฒนาขึ้น ในที่่นี้ก็รวมถึงครูชาวต่างชาติด้วยคะ ที่พวกเขาก็ต้องพัฒนา และต้องสอนแบบมีใบประกอบวิชาชีพ ตอนนี้ที่โรงเรียนก็มีครูชาวต่างชาติหลายคนมีใบประกอบวิชาชีพ และหลายคนกำลังศึกษาและพยายามสอบให้ได้มา น่าจะเป็นเรื่องดี และน่าสนับสนุนอยากให้ทำต่อไป 

สำหรับครูชาวต่างชาติบางคนที่ไม่ดี ไม่เข้าใจระบบของไทย เขาก็จะหายไปเองคะ เพราะการสอบให้ได้มาซึ่งใบประกอบวิชาชีพนี้ มันไม่ง่ายถ้าไม่ศึกษา หรือไม่มีประสบการณ์ และเนื้อหาในนั่นก็ว่าด้วยความเป็นไทย วัฒนธรรมไทยรวมไว้เช่นกัน คิดว่านี่ก็เป็นทางออกทีดีในการแก้ปัญหาความไม่เข้าใจวัฒนธรรมของเจ้าของประเทศได้อย่างหนึ่งคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท