ปกิณกะ..ปัจจัยที่ทำให้การศึกษาตกต่ำ


ตอนแรกผมว่าจะรออีกวันสองวัน รอให้ความคิดและประสบการณ์จริง ตกผลึก เสียก่อน จึงจะเขียนบันทึกว่าด้วยเรื่องราวการศึกษาต่อไป พอดีได้อ่านความคิดความเห็นของเพื่อนสมาชิก..หลายท่าน ทำให้มีแรงบันดาลใจขึ้นมา แล้วใจก็บันดาลแรงให้บันทึกนี้เกิดขึ้น

ท่าน อ.นุ บอกผม..ให้กล้าหาญ..และก้าวต่อไป ..หากผมไม่ถูกตั้งกรรมการสอบสวน หรือถูกปิดบล็อกเสียก่อน..คุณพี่ ประธาน.. กล่าวถูกต้องในแง่มุมนักการเมืองที่ทำให้การศึกษาผิดเพี้ยนได้มากมายขนาดนี้..และ krutoiting ที่ให้ถ้อยคำที่เป็นสาระสำคัญของปัญหาที่เกิดขึ้น นั่นคือ..เขตพื้นที่ ไม่กลั่นกรองงานเท่าที่ควร

ท่านผู้อ่านที่เคารพครับ ท่านเชื่อหรือไม่ ถ้านำความคิดเห็นเกี่ยวกับการศึกษาที่ทุกท่านให้ผมและบันทึกต่างๆ ในช่วง ๕ วันที่ผ่านมา ไปมอบให้รัฐบาลและรมต.ศธ. แล้วกำหนดเป็นนโยบายและแนวปฏิบัติในการพัฒนาคุณภาพ น่าเชื่อว่าประสิทธิภาพและประสิทธิผลทางการศึกษา จะดีขึ้นเป็นลำดับ (ว่าแต่ว่าเขาจะฟังเราหรือเปล่า)

ผมขอกราบขอบพระคุณทุกกำลังใจ ที่มอบ"ดอกไม้"ที่สวยงามให้แก่ผม ทำให้รู้สึกมีเพื่อนร่วมเดินทางมากมาย ไม่โดดเดี่ยว ทำงานได้ดีขึ้นและไปต่อ..ในเรื่องราวของการศึกษาอีกหลายๆเรื่อง ที่ประสบพบเห็น เป็นภาพ "เชิงประจักษ์" มากกว่าการรวบรวมและเรียบเรียงจากตำราวิจัย..ที่ผมไม่ค่อยถนัดนัก

และขออภัยที่ต้องกล่าวถึงวิชาชีพที่ผมเคารพรักและศรัทธาอย่าง "ศึกษานิเทศก์"ที่เป็นตัวละครสำคัญ เป็นพระเอกและนางเอกในใจผม เป็นไอดอลที่ติดตราตรึงใจหลายท่าน โดยเฉพาะท่าน ศน.ที่เขียนในเวที "โกทูโนว์"แห่งนี้ ผมนิยมชมชอบอย่างจริงใจ และนำคำสอนไปใช้ นำนวัตกรรมไปพัฒนาในโรงเรียนขนาดเล็ก หลักฐานปรากฎใน เฟสบุ๊ค ชยันต์ เพชรศรีจันทร์ และ โรงเรียน บ้านหนองผือ ขอบคุณจริงๆครับ

ปกิณกะการศึกษาในบันทึกนี้ ผู้อ่านที่เป็นครูและผู้บริหาร คงอ่านไปยิ้มไป มองภาพออก หรือคิดว่าผม เอาฮา ก็ได้นะ ส่วนท่านผู้อ่านที่อยู่วงการต่างๆ เป็นผู้ปกครอง อาจสงสัยว่า เป็นจริงเช่นนั้นจริงหรือ...........

๑.  โครงการใหญ่ที่สพฐ.คิด โดย ดร.นักวิชาการ ผ่านกระบวนการวิจัยทฤษฎีและภาคสนาม เก็บข้อมูล วางแผน/ของบประมาณ นานเป็นปี อย่างเร็วก็ ๔ - ๖ เดือน เสร็จแล้วก็ออกคำสั่งตั้งคณะทำงาน...ท้ายสุดก็มีหนังสือเรียกศึกษานิเทศก์และข้าราชการบนเขตไปอบรมที่กรุงเทพฯ มีทั้ง ๒ - ๓ วัน และ ๓ - ๕ วันก็มี

๒. เมื่อบุคลากรของเขตฯอบรมเสร็จ กลับมาถึงเขตก็เตรียมการอบรมให้ครูใช้เวลา ๑ - ๒ เดือน ต้องใช้เวลาบริหารจัดการแผน/งบประมาณ ถ้าผอ.เขตเน้นวิชาการ การประชุมอบรม งบก็จะมากหน่อย ถ้าผอ.เขต เน้นศึกษาดูงาน งบจะถูกหั่นเหลือน้อยนิด..อย่างไรก็ตาม เท่าที่สัมผัส โครงการสพฐ.ที่รับมาจะสำคัญหรือใหญ่ขนาดไหน..เขตพื้นที่จะจัดเพียง ๑ วันเท่านั้น...แม่เจ้า...วันเดียวจะให้ครูรู้เรื่องทั้งหมด(ฮา)

๓.  ๑ วันของการประชุมอบรม(ตามข้อ ๒) รายงานตัว๐๘.๐๐ - ๐๘.๓๐ น. ครูมาจากอำเภอไกลๆกว่าจะพร้อมก็ราวๆ ๐๙.๐๐ น. แทนที่วิทยากร หรือผู้จัด จะถ่ายทอดความรู้อันสำคัญยิ่งในทันทีทันใด แม่เจ้า ต้องมีพิธีเปิดก่อน(เหมือนชกมวยชิงแชมป์เลย) โดยเจ้านายผู้ทรงเกียรติ บรรยายพิเศษในเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับหัวข้ออบรม  พูดเสร็จก็ได้เวลาเบรคกาแฟ บางคนกว่าจะกล่าวเปิด เกือบเที่ยงวัน ช่วงบ่ายวิทยากร ก็ต้องรีบพูดรีบเลิกแล้วถามว่าครูและนักเรียนจะได้อะไร....  (เมื่อไหร่เจ้านายจะคิดได้และเลิกเปิดงานเสียที )

๔.  ในรอบทศวรรษนี้ ผมประชุมผู้บริหารสถานศึกษา เดือนละครั้ง มานับครั้งไม่ถ้วน และทุกครั้งจริงๆ ใช้เวลาประชุม ๓ ชั่วโมง ในที่ประชุมจะพูดถึงการเมือง การเงิน การศึกษาดูงาน การจัดงาน/นิทรรศการ ผ้าป่า/กอล์ฟ ฯลฯ ส่วนวิชาการของ ศน.จะพูดเวลาประมาณ ๑๑.๓๐ น. ใกล้ๆเที่ยง ซึ่งพูดนานไม่ได้แล้ว สมาธิผู้บริหารก็ไม่มี แล้วจะเอาอะไรไปบอกครู การจัดการความรู้จึงไม่เกิดขึ้น

นี่คือ เรื่องจริงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ แม้เป็นเพียงปกิณกะ  แต่ผมคิดว่าน่าสนใจ ตราบใดที่เขตพื้่นที่ยังทำงานแบบไม่กลั่นกรอง ดูถูกตัวเอง และดูถูกครู โดยคิดเพียงว่าจัดประชุมอบรมให้เสร็จๆไป เรื่องราวจะสำคัญอย่างไร อบรมไป(เยอะแล้ว) ยังไงก็คงไม่ได้นำไปใช้หรอก...หรือ ถึงอย่างไร สพฐ.ก็คงไม่ลงมาติดตามผล

จริงๆก็ต้องคิดเสียตั้งแต่แรก..คือ ไม่ต้องจัดอบรม..ครูจะได้ไม่ต้องทิ้งเด็กทิ้งห้องเรียน..เสียเวลาเปล่า

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 547713เขียนเมื่อ 8 กันยายน 2013 22:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 9 กันยายน 2013 22:48 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)

ตัวจริง เสียงจริง นะครับ ผอ. ;)...

หากมิใช่แล้วจักเีขียนกระบวนการการทำงานได้จัดขนาดนี้ได้อย่างไร

สู้ สู้ ครับ ;)...

ครูนกขอคำเดียวคืนครูสู่ห้องเรียนนะค่ะ....เป็นกำลังใจให้ครูไทยและท่านผอ.ค่ะ

สวัสดีค่ะท่านผอ.ชยันต์...ยังจำได้ว่าบันทัดสุดท้ายที่ผอ.เคยเขียนบทกลอนไว้ให้อ่านนะคะ...ปัญญาชนคนชั้นครู...

แนวคิดที่ที่ดีของอาจารย์น่าชื่นชม แต่ยังมีอีกปัญหาใหญ่ในสังคมทุกลําดับชั้นคือ "การโกงกิน" เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ขอเป็นกําไรใจให้อาจารย์ยืนหยัดเพื่อความถูกต้องต่อไปครับ

มายกมือสนับสนุนเรื่องยกเลิกการกล่าวเปิด พิธีการต่าง ๆ ที่สิ้นเปลืองงบประมาณ จัดการอบรมเรียบง่าย สั้น ให้ได้ผลจริงจังดีกว่าค่ะ

สู้ต่อไปนะค่ะคนนอกวงการให้กำลังได้แค่นี้ล่ะค่ะ

สวัสดีค่ะ  อาจารย์ ชยันต์

- อ่านแล้ว "อิน"  จริง ๆค่ะ //// นึกถึง สภาพ  ต่างๆ  ที่ตัวเอง  เคยได้เจอมา .... ชัดเจน ยิ่งนัก....

..." การประชุมอบรม ....รายงานตัว๐๘.๐๐ - ๐๘.๓๐ น. ครูมาจากอำเภอไกลๆกว่าจะพร้อมก็ราวๆ ๐๙.๐๐ น. แทนที่วิทยากร หรือผู้จัด จะถ่ายทอดความรู้อันสำคัญยิ่งในทันทีทันใด .... ต้องมีพิธีเปิดก่อน(เหมือนชกมวยชิงแชมป์เลย) โดยเจ้านายผู้ทรงเกียรติ บรรยายพิเศษในเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับหัวข้ออบรม  พูดเสร็จก็ได้เวลาเบรคกาแฟ บางคนกว่าจะกล่าวเปิด เกือบเที่ยงวัน ช่วงบ่ายวิทยากร ก็ต้องรีบพูดรีบเลิกแล้วถามว่าครูและนักเรียนจะได้อะไร....  (เมื่อไหร่เจ้านายจะคิดได้และเลิกเปิดงานเสียที )..... "

สู้  และ ไปต่อ นะคะ  อาจารย์

เรื่องนี้ต้องเขียนจริงๆค่ะ ขอให้เขียนแบบนี้ จริงใจ จริงจัง คลื่นเล็กๆนี้จะมีพลังในภายหน้าค่ะ

วงการสาธารณสุขก็เป็นค่ะ ไม่น้อยหน้าด้วย .. ก็เราอยู่บนแผ่นดินที่มีวัฒนธรรมเดียวกัน วันนี้ดิฉันจะระงับใจไม่กล่าวรายละเอียดเพราะกำลังถือศีล โอกาสหน้าจะแจมด้วยคนค่ะ

มีเจ้านายที่หย่ายกว่านายบอกว่า ... ถ้าเราทำข้อ 2 3  4   5 ไม่ได้  ให้ย้อนไปดูข้อ 1  คะ จบข่าว

 

ผอ เล่าเสียเห็นภาพเลยครับ

มาให้กำลังใจครับ

คิดอยู่ว่า...จะสู้ต่อ

หรือจะพอ..เพียงแค่นี้

ยิ่งอยู่ยิ่ง...เห็นสิ่งที่

มัน.. อ..รีย์...ขึ้นทุกวัน

ความรู้สึกเดียวกันเลย  ประชุม อบรมแล้วก็ ประชุม อบรม เป้าหมายไม่ชัดเจนจริง ๆ  เป็นกำลังใจให้ท่าน ผอ. สู้เพื่อแผ่นดินเกิดต่อไป  

เป็นกำลังใจให้..การศึกษาคุณค่าแท้  (ที่ไม่สร้างภาพ) กลับคืนมาสู่สังคมไทยของเรานะครับอาจารย์
ขอบคุณครับ...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท