บูรณาการตามศักยภาพอาจารย์1


หากจะตั้งคำถามว่าเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนั้นดีขึ้นหรือไม่?

ปัจจุบันจะพบว่าระบบการศึกษานั้นถูกกระแสการพัฒนาจากโลกตะวันตกเข้ามาจู่โจม ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าไปอย่างมากมายและรวดเร็ว กระทั่งผู้สอนเองบางครั้งยังปรับตัวเองไม่ทันกับกระแสที่เปลี่ยนแปลงไป

หากจะตั้งคำถามว่าเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนั้นดีขึ้นหรือไม่? หากตอบแบบไม่โกหกความรู้สึกของตัวเองก็ตอบว่าไม่ดี เพราะการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วโดยไม่ศึกษาให้ถ้วนถี่ ถี่ถ้วน อาจจะนำพาความยากลำบากในเรื่องของการแก้ไขก็เป็นได้ (หากจะเปรียบเทียบกับปัญหาสิ่งแวดล้อมคือหากเราต้องทำการบำบัดของเสียที่เกิดขึ้น กับทำให้เกิดของเสียน้อยลงอันไหนทำง่าย ประหยัดค่าใช้จ่ายต่อกัน ก็ตอบได้เลยว่าต้องอย่างหลัง คือ ทำให้เกิดของเสียน้อยดีกว่าที่ต้องมานั่งจัดการกับของเสียนั้น) หากเปรียบเทียบกับทางพุทธศาสนาคือเมื่อเกิดทุกข์ก็ต้องแก้ที่เหตุแห่งทุกข์ หากไปแก้วิธีอื่นก็ไม่หมดไปรังแต่จะสร้างทุกข์หรือปัญหาให้เพิ่มากขึ้นเท่านั้น

กลับมาที่ประเด็นการเปลี่ยนแปลงเรื่องระบบการศึกษาที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เดิมการเรียนจะอาศัยห้องเรียนและผู้สอนเป็นศูนย์กลาง ที่จะทำอะไรก็ตามต้องอยู่แต่ในชั้นเรียน เมื่อเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเรียนก็ปรับให้เด็กเรียนเป็นแบบเรียนรู้ด้วยตนเอง นับว่าเป็นเรื่องที่เด็กไทยสมัยใหม่ส่วนใหญ่ยังปรับตัวเข้ากับระบบการเรียนเช่นนี้ยาก เพราะระบบการเรียนตั้งแต่เล็กเป็นแบบเน้นผู้สอนเป็นศูนย์กลาง ส่วนระบบการเรียนการสอนแบบผู้เรียนเป็นศูนย์กลางนั้นมีบ้างแต่ก็ไม่ได้รับความนิยมมากนักเพราะเสียค่าใช้จ่ายสูง

หากจะปรับได้หรือไม่ระบบการเรียนแบบผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง? น่าจะได้แต่ต้องได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่ายเริ่มตั้งแต่ครอบครัวที่จะต้องให้ลูกได้เรียนรู้จักตัวเอง รู้จักสังคมอย่างถูกต้องเหมาะสม หากทำได้เช่นนี้อาจจะไม่มีปัญหาเช่นปัจจุบัน (ท่านผู้ปกครองทั้งหลายลองคิดดูว่าการที่เรามีลูกแล้วเราสร้างภาระกับสังคมนั้นเป็นการสมควรหรือไม่) หากกลัวว่าจะไม่มีกินก็ทำกิน ทำกินแบบพอกิน กลัวว่าจะไม่มีเก็บไว้ให้ลูกหลานก็ทำเก็บแบบพอเก็บ ให้ลูกหลานได้เรียนรู้ด้วยตัวเองบ้าง นี่เป็นการฝึกเบื้องต้นในการที่จะให้ลูกเข้าเรียนในระบบผู้เรียนเป็นศูนย์กลางอันนี้เป็นส่วนของผู้ปกครอง

ในส่วนของผู้สอนก็จะต้องพยายามปรับตัวเองอยู่ไม่น้อยในเรื่องการสอนเพราะปัจจุบันต้องยอมรับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่ทำให้การเรียนรู้เป็นไปอย่างมากขึ้นลึกขึ้น เป็นจริงมากขึ้น ให้คิดเสมอว่าทุกอย่างนั้นไม่เที่ยง ไม่มีอะไรจริงที่สุด ไม่มีอะไรดีที่สุด ไม่มีอะไรที่เป็นที่สุด เช่นเมื่อก่อนเราเคยเรียนต่อมากี่ยุคกี่สมัยไม่รู้ว่าโลกแบน เสร็จแล้วก็มีคนบอกว่าไม่มีจริงโลกกลม ตอนแรกไม่มีคนเชื่อแต่เมื่อมีหลักฐานจึงจะมีคนเชื่อ ดังนั้นสิ่งที่เราสอนอยู่ทุกวันอาจจะไม่เป็นจริงอย่างเราเคยเรียนมาแล้วก็ได้ อาจารย์ ครูต้องปรับตัวให้เข้ากับโลกกับยุค สมัย อยู่ไม่น้อย

 

หมายเลขบันทึก: 54677เขียนเมื่อ 15 ตุลาคม 2006 13:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 16:07 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

คิกคัก ดูเป็นเรื่องเป็นราวดี (อย่าเครียด)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท